ไม่ระเบิดไอเดียแก้รถติดยัง'ยุบยิบ'
คณะทำงานถกเตรียมรับมือทุบสะพานลำสาลีสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เร่งปรับปรุงซอยรามคำแหง60 เป็นทางลัดทางเลี่ยงสู่อุโมงค์กรุงเทพกรีฑา ระบายจราจรชั่วโมงเร่งด่วนบนถนนรามคำแหง
นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานติดตามผลการบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีพล.ต.ท. ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ และนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นประธานว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจราจรตามแนวเส้นทางโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย (สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ,สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี) รวมถึงเส้นทางข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบพบว่าหลังจากแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางไปปฏิบัติแล้วเกิดผลดีการจราจรคล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเปิดใช้อุโมงค์รัชโยธิน ต่ยังพบจุดที่เป็นปัญหา คือ แยกพระราม 9 แยกเพชรบุรี แยกอโศกมนตรี จึงมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วน เช่น ติดสัญญาณไฟให้ทุกแยกสอดคล้องกัน หรือทำทางข้ามใต้สะพานข้ามคลอง เพื่อปิดทางม้าลายในบางจุดให้รถวิ่งคล่องตัวขึ้น ส่วนระยาวอยู่ระหว่างการศึกษาทำอุโมงค์ทางลอดหรือสะพานข้ามแยก เพื่อแก้ปัญหาต่อไป
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมอบกรมทางหลวง(ทล.) กทม.และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ไปปาดทางเท้าให้รถเมล์เข้าจอดป้ายบนถนนแจ้งวัฒนะ เส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้เต็มคันไม่กีดขวางการจราจร รวมถึงให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ขยับแบริเออร์ เพิ่มช่องจราจรบนถนนพหลโยธินที่ก่อสร้างตอม่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ(หมอชิต-สะพานใหมท่-คูคต) เสร็จแล้ว ซึ่งที่ประชุมเป็นห่วงการทุบสะพานลำสาลีต้นเดือนธ.ค. ในเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จึงเตรียมวางแผนจัดระเบียบจราจร และให้ผู้เกี่ยวข้องไปสร้างการรับรู้ให้ประชาชนหันไปใช้เส้นทางลัดทางเลี่ยงอื่นให้มากขึ้น เช่น เส้นทางแฮปปี้แลนด์ หรือซอยย่อย นอกจากนี้ยังได้สรุปพื้นที่ตีเส้นจราจรทแยงเหลืองเป็นพื้นที่ห้ามจอดบนทางแยก 119 แห่ง ไม่ให้รถหยุดกลางทางแยกจะได้ไม่กีดขวางการจราจร
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องการใช้คลองให้เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจราจร ตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยสนข.จะร่วมกับกรมเจ้าท่าและกทม. ลงพื้นที่สำรวจคลองที่มีศักยภาพเดินเรือ 8 แห่ง ได้แก่ 1.คลองบางกอกน้อย 2.คลองมหาสวัสดิ์ 3.คลองอ้อมนนท์ 4.คลองเปรมประชากร 5.คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองบางเขนและคลองสอง 6. คลองรังสิตประยูรศักดิ์ 7.คลองพระโขนง และคลองประเวศบุรีรมย์ และ 8. คลองบางลำภูเพื่อทดลองเดินเรือเป็นทางเลือกให้ประชาชน
ด้านพล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ในฐานะรองหัวหน้าคณะทำงานฯ กล่าวว่า หลังเปิดใช้อุโมงค์รัชโยธินแล้วพบว่าการจราจรจากสะพานพระราม 7 ลงมาถึงถนนรัชดาภิเษกมีความคล่องตัวดี แต่การจราจรโดยรอบยังมีปัญหาติดขัด ทั้งถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ถนนบางกะปิ ถนนศรีนครินทร์ เป็นต้น ทุกฝ่ายต้องปรับแก้เพื่อระบายการจราจรให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมแผนรองรับผลกระทบที่จะเกิดจากการทุบสะพานลำสาลี โดยจะพัฒนาซอยรามคำแหง 60 ให้เป็นทางลัดทางเลี่ยงไปออกซอยกรุงเทพกรีฑา 7 และส่งรถเลี้ยวขวาเข้าอุโมงค์กรุงเทพกรีฑาได้โดยไม่ต้องไปกลับรถ เพื่อช่วยระบายการจราจรชม.เร่งด่วน โดยอุโมงค์กรุงเทพกรีฑาจะมีพิธีเปิดใช้งานในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้จะทำให้การจราจรบนถนนรามคำแหงคล่องตัวมากขึ้น
ที่มาข่าว: https://dailynews.co.th/economic/677142