ทำเนียบขาวแบนนักข่าวCNN หลังวิวาทะเดือด'ทรัมป์'
ทำเนียบขาวระงับบัตรสื่อของจิม อาคอสตา ผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็นประจำทำเนียบขาว เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการเผชิญหน้าอันตึงเครียดระหว่างอาคอสตากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการแถลงข่าวที่ผู้นำสหรัฐตำหนิอีกฝ่ายอย่างหนักว่า "ไร้มารยาท"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่าทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ เรื่องการระงับบัตรสื่อมวลชนของนายจิม อาคอสตา หัวหน้าทีมผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวของซีเอ็นเอ็น "อย่างไม่มีกำหนด" ในเวลาเดียวกัน อาคอสตาทวีตว่าตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่ภายในทำเนียบขาวได้อีกแล้ว
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวออกมาภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรกหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยพรรครีพับลิกันยังคงรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภา แต่พรรคเดโมแครตสามารถกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2553
อย่างไรก็ตาม เกิดบรรยากาศตึงเครียดขึ้นในช่วงสุดท้ายของการแถลงที่ผ่านมาเกือบ 90 นาที เมื่อผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่งพยายามซักถามกดดันให้ทรัมป์ชี้แจงในประเด็นคาราวานผู้อพยพจากอเมริกากลาง ว่าเป็น "เครื่องมือทางการเมือง" ของพรรครีพับลิกันหรือไม่ และความคืบหน้าของกระบวนการสืบสวนสอบสวนข้อครหาว่า รัสเซียแทรกแซงการเมืองภายในของสหรัฐ ที่รวมถึงความเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลมอสโกกับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์เมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วย
แม้คำถามลักษณะดังกล่าวมาจากผู้สื่อข่าวหลายคน แต่ทรัมป์แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจนระหว่างการสนทนากับอาคอสตา โดยผู้นำสหรัฐยืนกรานว่าอเมริกายังคงเป็นประเทศที่ต้อนรับผู้อพยพ "ตราบใดที่เป็นการข้ามพรมแดนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย" หลังจากนั้นทรัมป์บอกให้อีกฝ่ายนั่งลงและส่งไมโครโฟนให้กับผู้สื่อข่าวคนอื่น แต่อาคอสตาปฏิเสธและกล่าวต่อว่า คาราวานผู้อพยพยังอยู่ห่างจากชายแดนของสหรัฐมากกว่า 1,000 กิโลเมตร จึงยังไม่อาจถือเป็น "การรุกราน" ตามทรรศนะของทรัมป์ได้
คำกล่าวนั้นของอาคอสตาดูเหมือนเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" สำหรับทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่าการบริหารประเทศเป็นหน้าที่ของเขา ส่วนอาคอสตามีหน้าที่ทำงานให้กับซีเอ็นเอ็น ซึ่งหากอาคอสตาทำงานดีจริง เรตติ้งของซีเอ็นเอ็นน่าจะดีกว่านี้ด้วย แต่ตอนนี้ซีเอ็นเอ็นควร "ละอายแก่ใจ" ที่มีพนักงานอย่างอาคอสตา ซึ่งหยาบคายและไร้มารยาท ขณะที่ผู้สื่อข่าวซึ่งได้รับไมโครโฟนเป็นคนต่อมา คือนายปีเตอร์ อเล็กซานเดอร์ จากเอ็นบีซี ไม่ได้ตั้งคำถามทันทีแต่กล่าวปกป้องอาคอสตา ทรัมป์กล่าวว่าเอ็นบีซีก็ไม่ใชสำนักข่าวที่ดีเหมือนกัน และเมื่อเห็นอาคอสตายังคงพยายามลุกขึ้นเพื่อซักถามอีก ทรัมป์กล่าวว่าซีเอ็นเอ็นเป็นสถานีที่รายงานแต่ "ข่าวปลอม" ถือเป็นสื่อที่เป็น "ศัตรูของประชาชน"
ที่มาข่าว:https://www.dailynews.co.th/foreign/675895