จี้รัฐบาลจริงใจเร่งแก้ กม.พลังงานนิวเคลียร์ หลังล่าช้ากว่า 5 เดือน ชี้ รพ.ชุมชนอาจต้องปิดห้องเอกซเรย์
ทันตแพทยสภา ภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ และชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน จี้รัฐบาลแสดงความจริงใจเร่งแก้ไขกฎหมายพลังงานนิวเคลียร์ด่วน หลังล่าช้ากว่า 5 เดือน หวั่นไม่ทันการพิจารณาของ สนช. ระบุหากไม่รีบแก้จะกระทบการรักษาผู้ป่วย โรงพยาบาลชุมชนอาจต้องปิดให้บริการเอกซเรย์
ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า ภายหลังจากที่ภาคีวิชาชีพด้านการแพทย์ทั้งแพทยสภา ทันตแพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม สภาเทคนิคการแพทย์ สภากายภาพบำบัด และสัตวแพทยสภา รวมทั้งชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป กระทรวงสาธารณสุข ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน และเครือข่ายทันตแพทย์ได้ออกมาคัดค้านกฎหมายพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติที่กระทบการใช้เครื่องเอกซเรย์วินิจฉัยทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และเรียกร้องให้มีการแก้ไข
นายกทันตแพทยสภา กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2561 นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัตแห่งชาติ (สนช.) ได้ร่วมกับ สนช.อีก 41 ท่านเสนอร่างแก้ไขกฎหมายพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติต่อ สนช. ซึ่งที่ประชุม สนช.ได้รับร่างนี้ไว้พิจารณา และได้ส่งให้รัฐบาลพิจารณา ทำให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องแก้ไขกฎหมายฉบับนี้และได้เสนอต่อที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2561 ที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติหลักการในร่างแก้ไขตามที่เสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยให้นำร่างของ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์กับคณะไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอส่งให้คณะกรรมการประสานงาน สนช.พิจารณาก่อนส่ง สนช.
“แต่จนบัดนี้เป็นระยะเวลากว่า 5 เดือนแล้วร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ก็ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะส่งให้ สนช.พิจารณาเมื่อใด ทันตแพทยสภาเคยสอบถามถึงความคืบหน้ามาแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ ขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้วจึงไม่แน่ใจว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหานี้หรือไม่ หากกฎหมายฉบับนี้ไม่ทันการพิจารณาของ สนช.ชุดนี้ ต้องรอเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในรัฐบาลหน้า ก็จะเกิดปัญหาในการปฏิบัติงานอย่างแน่นอน ทำให้โรงพยาบาลชุมชนโรงพยาบาลทั่วไปและคลินิกทันตกรรมอาจต้องปิดให้บริการเอกซเรย์ ซึ่งจะส่งผลกระทบประชาชนในวงกว้างอย่างแน่นอนและผู้ปฏิบัติงานเหล่านี้จะออกมาเคลื่อนไหวให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลเอง”
ทพ.ไพศาล กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ทันแพทยสภาและภาคีเครือข่ายทางด้านการแพทย์จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ปัญหานี้ยุติโดยเร็ว ทางเครือข่ายวิชาชีพด้านการแพทย์จะรอคำตอบจากรัฐบาลหากยังไม่มีความชัดเจนก็จะออกมาเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน
ด้าน นพ.สรลักษณ์ มิ่งไทยสงค์ ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฎหมายพลังงานนิวเคลียร์กระทบกับการใช้เครื่องเอกซเรย์ในโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ หากไม่มีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศอาจต้องหยุดให้บริการการใช้เครื่องเอกซเรย์ซึ่งจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างแน่นอน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขกฎหมายฉบับนี้โดยเร็ว และต้องรีบแก้ให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากปัญหาได้ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานแล้ว ยิ่งปล่อยให้ยืดเยื้อไปจะยิ่งเกิดความเสียหายต่อประชาชน