ความร่วมมือเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่-สถาบันการเงิน
สถาบันการเงิน 20 แห่งร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 6 ราย เดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถระบบการตรวจสอบยืนยันความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการสมัครบริการพร้อมเพย์ ดีเดย์เริ่มใช้งาน 1 มกราคม ปีหน้า พร้อมขยายความร่วมมือไปยังบริการทางการเงินและบริการโทรคมนาคมใหม่ยุค 5G
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งนายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักงานระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย และนายสุพจน์ เธียรวุฒิเลขาธิการ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกันแถลงความก้าวหน้าในการบรรลุข้อตกลงระหว่างสถาบันการเงิน 20 แห่งร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 6 ราย ในการตรวจสอบยืนยันความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นการ upgrade การใช้รหัส USSD *179 โดยเพิ่มการใช้รหัสอ้างอิงหรือ reference code และการเชื่อมต่อตรงระหว่างศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลของสถาบันการเงินกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในขั้นตอนการลงทะเบียนพร้อมเพย์ ซึ่งทำให้การลงทะเบียนพร้อมเพย์มีความปลอดภัยและสะดวกมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สามารถสมัครผ่านช่องทางอื่น เช่น ตู้เอทีเอ็มได้ โดยระบบจะสามารถใช้งานได้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
การดำเนินการในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้การทำธุรกรรมการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบพร้อมเพย์มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่เริ่มให้บริการพร้อมเพย์ที่ ในปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนด้วยเลขหมายโทรศัพท์กว่า 16 ล้านเลขหมาย และมีมูลค่าธุรกรรมรวมสูงกว่า 3.9 ล้านล้านบาท และมียอดการโอนต่อครั้งประมาณ 5,100 บาท
ผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 2 อุตสาหกรรมเห็นพ้องกันว่ าความร่วมมือที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมแรกที่ภาคเอกชนทำการเชื่อมต่อ/แลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างเป็นรูปธรรมและประชาชนสามารถได้รับประโยชน์ในวงกว้าง เป็นผลมาจากการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างจริงจัง และจะพัฒนาและขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆ เพื่อสนับสนุนทั้งบริการทางการเงินและโทรคมนาคมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ที่มีการให้บริการ 5G เกิดขึ้น อันเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลและประเทศไทย 4.0 ต่อไป