เซนต์แล้ว!! เอ็มโอยู 4 หน่วยงาน ร่วมแก้ปัญหาโฆษณาอาหาร-ยา-ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
สำนักงาน กสทช. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ดูแลปัญหาโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรือมีลักษณะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กับ อย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) สคบ.(สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) และ บก.ปคบ.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค) พร้อมตั้งคณะทำงาน 3 เดือน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม
วันพุธที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ณ อาคารหอประชุม ชั้น 1 นายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการกสทช. เภสัชกรหญิงศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการ อย. นายนพปฏล เมฆเมฆา รองเลขาธิการ สคบ. พลตำรวจตรีนิพนธ์ เจริญผล ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง เรื่อง การกำกับดูแลโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรือมีลักษณะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยมี พันเอกนที ศุกลรัตน์ พันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ผศ.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เครือข่ายแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา(กพย.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสำคัญครั้งนี้ โดยสาระสำคัญของบันทึกข้อตกลงคือ ความร่วมมือที่จะบูรณาการงานคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรือมีลักษณะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ทั้งในด้านแลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ฐานข้อมูล และความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านต่าง ๆ และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อหยุดยั้งการโฆษณาที่ผิดกฎหมายหรือมีลักษณะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ ได้มีการเตรียมตั้งคณะทำงานจาก 4 หน่วยงาน และเชิญตัวแทนคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นักวิชาการ และเครือข่ายผู้บริโภคเข้าร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อร่วมวางแนวทางการขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป บันทึกข้อตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนาม