“สุภาพสตรี”โผล่ถือ“หุ้นใหญ่”ธุรกิจสปาพ่อหม้าย“สมศักดิ์”
แกะขุมข่ายพ่อหม้าย“สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์”โยง“สุภาพสตรี”หุ้นใหญ่ธุรกิจสปา-ผลิตรายการโทรทัศน์ 2 ใน 3 บ.ไม่พบในบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ด้าน“นอมินี”ปัดพัลวัลปม“ที่มา”เงินซื้อหุ้นปริศนา 102.7 ล้าน
นายศรัณย์ ลิมป์หิรัญรักษ์ อาจมิใช่คนใกล้ชิดนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย รายเดียว (นายสมศักดิ์แจ้งสถานะว่าหม้าย)ที่มีความเกี่ยวพันกับนายสมศักดิ์ในการถือครองหุ้นมูลค่า 102.7 ล้านบาท (นายสมศักดิ์แจ้งว่านายศรัณย์ เป็นนอมินี) หากแต่ยังมีสุภาพสตรีอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวพันกับธุรกิจของนายสมศักดิ์
ทั้งนี้ ตอนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมครบ 1 ปี วันที่ 22 ธ.ค.2552 (ได้รับแต่งตั้งยุครัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) นายสมศักดิ์แจ้งว่ามีเงินลงทุน 3 รายการ ได้แก่
1.หจก.ไทยสงวนก่อสร้าง ชุมแพ เงินลงทุน 250,000 บาท
2.หจก.เบรนเวิร์คมีเดีย 800,000 บาท
3.บริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด 9,400 หุ้น มูลค่า 940,000 บาท
นายสมศักดิ์แจ้งว่า รายการที่ 1 และ 2 ได้จดทะเบียนเลิกและนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้วเมื่อ 22 ต.ค.2524 และ วันที่ 5 ก.พ.2550 ตามลำดับ ส่วนรายการที่ 3 ได้จดทะเบียนเลิกบริษัทและนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนเลิกเมื่อ 10 ก.ค. 2552
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เม.ย.2552 (ช่วงเวลาก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.) ไม่มีชื่อนายสมศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่ ทว่ามีนางสาวจินตนา ถาโคตร ถือหุ้น จำนวน 9,400 หุ้น หรือ 94% (จำนวนการถือครองเท่ากับจำนวนที่นายสมศักดิ์แจ้งต่อ ป.ป.ช.) นางกานต์นิศา เกียรติสุรนนท์ นางสาวเกวลี เกียรติสุรนนท์ นางเพ่ง เกียรติสุรนนท์ (มารดา) นางสุภาพร คำลือฤทธิ์ นางสาว โสภิตสุดา อาบสุวรรณ และนายเอกชัย เลิศวรพงศ์ คนละ 1 หุ้น จากทั้งหมด 10,000 หุ้น นางสาว จินตนา ถาโคตร เป็นกรรมการ
ทั้งนี้บริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 9 พฤษภาคม 2548 ทุน 1 ล้านบาท ให้บริการศูนย์บำบัดธรรมชาติ ที่ตั้งเลขที่ 2/946 หมู่ที่ 1 หมู่บ้านหมู่บ้านศุภาลัยบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า นอกจากถือหุ้นใหญ่ บริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด นางสาวจินตนา ถาโคตร ยังเป็นกรรมการอีก 2 บริษัท คือ
1. บริษัท เค.พี.มิวสิค จำกัด จดทะเบียนวันที่ 21 ตุลาคม 2548 โฆษณาและผลิตรายการโทรทัศน์ ที่ตั้งเลขที่ 2/946 หมู่ที่ 1 หมู่บ้านหมู่บ้านศุภาลัยบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
น่าสังเกตว่าช่วงเวลาจัดตั้งบริษัทใกล้เคียงกับจัดตั้งบริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด และจดทะเบียนเลือกพร้อมกับบริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด
2.บริษัท เฟรม พลัส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 26 กันยายน 2551 ทุน 1 ล้านบาท ผลิตรายการโทรทัศน์ ที่ตั้งเลขที่ 2/946 หมู่ที่ 1 หมู่บ้านหมู่บ้านศุภาลัยบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี (ที่ตั้งเดียวกับ บริษัท เค.พี.มิวสิค จำกัด และ บริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด ) บริษัทนี้ยังเปิดดำเนินการอยู่ แจ้งผลประกอบการปี 2553 รายได้ 1,626,570 บาท กำไรสุทธิ 135,030 บาท
น่าสังเกตว่าในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายสมศักดิ์ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.ตอนพ้นตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมครบ 1 ปี วันที่ 22 ธ.ค.2552 มิได้แจ้งว่าถือหุ้น บริษัท เค.พี.มิวสิค จำกัด และมิได้แจ้งว่าถือหุ้นบริษัท เฟรม พลัส จำกัด แต่อย่างใด
*นอมินี”สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ แจงพัลวัลปมหุ้นปริศนา 102.7 ล้าน
ความคืบหน้า กรณีนายสมศักดิ์แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ว่าได้ถือครองหุ้นบริษัท สยามประกันชีวิต จำกัด จำนวน 1,027,200 หุ้น มูลค่า 102,720,000 บาท ในนาม “นายศรัณย์ ลิมป์หิรัญรักษ์”
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2555 ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยเบื้องต้นจากการโทรศัพท์ไปเบอร์มือถือส่วนตัวของนายสมศักดิ์ ที่แจ้งไว้ในเอกสารบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยื่น ต่อ ป.ป.ช. คือ หมายเลข 051-555-XXX ได้รับแจ้งจากบุคคลปลายสาย ซึ่งเป็นชายวัยกลางคน ระบุว่า นายสมศักดิ์ ไม่ได้ใช้เบอร์นี้แล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวแนะนำตัวว่ามาจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ต้องการจะสอบถามเรื่องที่มาในการถือครองหุ้น บริษัท สยามประกันชีวิต
ชายวัยกลางคนรายนี้ได้ย้อนถามกลับว่า “ขอถามเป็นความรู้หน่อยว่า สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เป็นสื่อประเภทไหน” เมื่อผู้สื่อข่าวอธิบายไปว่า เป็นสื่อออนไลน์ เผยแพร่ข้อมูลทางเว็ปไซต์ ชายวัยกลางคนรายนี้ ระบุว่า “อ้อๆ” ก่อนจะให้เบอร์โทรศัพท์อีกหนึ่งเบอร์มา คือ หมายเลข 082-222-xxx เมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังหมายเลขดังกล่าว ปรากฏว่า ไม่มีผู้รับสายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันนายสมศักดิ์ ใช้เบอร์มือถืออีกหนึ่งหมายเลข คือ 081-752-xxx แต่ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดปัญหาความขัดแย้งเรื่องการเสนอร่างกฎหมายปรองดอง นายสมศักดิ์ จะไม่รับโทรศัพท์เองแต่จะให้เลขานุการส่วนตัวเป็นผู้รับสายแทน เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไป ได้รับแจ้งจากชายหนุ่มซึ่งระบุว่าเป็นเลขาส่วนตัวของนายสมศักดิ์ ว่า “นายสมศักดิ์ ติดประชุมสภาอยู่ ขอให้แจ้งเรื่องไว้ แล้วจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง” แต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด
ส่วน นายศรัณย์ ลิมป์หิรัญรักษ์ กรรมการบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท สยามประกันชีวิต) ซึ่งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ระบุว่าเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท สยามประกันชีวิต จำนวน 1,027,200 หุ้น มูลค่า 102,720,000 บาท แทน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “ไม่สามารถให้ความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจาก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เองจะดีกว่า”
เมื่อถามย้ำว่า นายสมศักดิ์ เป็นผู้ซื้อหุ้นบริษัท สยามประกันชีวิต จำนวน 1,027,200 หุ้น มูลค่า 102,720,000 บาท เองใช้หรือไม่ นายศรัณย์ ตอบว่า ประเด็นอย่างนี้นะครับ คือ ผมจะไปบอกหรือไปพูดแทนคุณสมศักดิ์ ไม่ได้ นะครับ รายละเอียดคงต้องถามทางคุณสมศักดิ์เอง
เมื่อถามว่า แต่คุณสมศักดิ์ ระบุว่า ให้คุณศรัณย์ เป็นผู้ถือหุ้นจำนวนนี้ แทน จึงต้องการทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่า เงินที่นำมาซื้อหุ้นจำนวนนี้เป็นของคุณสมศักดิ์ ใช่หรือไม่ นายศรัณย์ ตอบว่า “ต้องถามท่านครับ ผมไปตอบแทนท่านไม่ได้”
เมื่อถามย้ำว่า สรุปแล้วมีการซื้อขายหุ้นจำนวนนี้ จริงใช่หรือไม่ นายศรัณย์ ตอบว่า “ต้องไปถามท่านนะครับ ผมไม่ตอบแทนไม่ได้ เพราะในส่วนของผมอะไรที่ตอบได้ก็ตอบ อะไรที่ตอบไม่ได้ก็ตอบไม่ได้ ต้องขอประทานโทษจริงๆ”
เมื่อถามว่า หุ้นบริษัท สยามประกันชีวิต มีส่วนที่นายศรัณย์ ซื้อเองบ้างหรือไม่ นายศรัณย์ ตอบว่า “ก็มีครับ”
เมื่อถามว่า แสดงว่าหุ้นในส่วนของคุณศรัณย์ ที่ถืออยู่ในบริษัท สยามประกันชีวิต กับหุ้นที่คุณสมศักดิ์ ถืออยู่ แยกส่วนกันชัดเจนใช่ไหม นายศรัณย์ ตอบว่า คือในส่วนของผู้ถือหุ้นเราชี้แจงรายละเอียดอยู่แล้ว ที่ทางสำนักข่าว (อิศรา) ไปหาข้อมูลมาอยู่แล้ว ผมว่าก็ถูกทิศทางแล้ว แต่ในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ขอให้ท่านสมศักดิ์ เป็นคนพูดเองดีกว่า”
เมื่อถามย้ำว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า คุณศรัณย์เป็นนอมินี ของคุณสมศักดิ์ มองอย่างไรกับเรื่องนี้ นายศรัณย์ ตอบว่า “ผมไม่ได้มองหรอกครับ เพราะข้อเท็จจริงในเรื่องธุรกิจ ผมมาบริหารธุรกิจ นะครับให้กับบริษัท สยามประกันชีวิต นั้นคือมุมมองที่ถูกต้อง นะครับ”
เมื่อถามว่า เป็นการมาบริหารงานแทนคุณสมศักดิ์ ใช่หรือไม่ นายศรัณย์ ตอบว่า ผมว่าอย่าไปพาดพิงเลยนะ ไม่ยุติธรรมนะ.. ผมว่าในส่วนของธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ อันนี้กำลังถามในเรื่องของ...อย่าเอาไปปนกันผมขอเดินในส่วนของธุรกิจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องแหล่งเงินที่นายสมศักดิ์ นำมาใช้ในการซื้อหุ้นจำนวนนี้ นายศรัณย์ ตอบเสียงสูงว่า อันนี้ผมไม่ทราบต้องไปถามท่าน อันนี้ ไม่ได้ไม่ได้ ”
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า เงินในบัญชีทรัพย์สินของคุณสมศักดิ์ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. มีจำนวนไม่มาก แต่ทำไมมีเงินมาซื้อหุ้นจำนวน 100 กว่าล้านบาท ได้ นายศรัณย์ บอกว่า ถามท่านเลย อย่ามาถามผม ผมตอบไม่ได้”
นายศรัณย์ ยังระบุด้วยว่า ตนมีเพื่อนเป็นนักข่าวเยอะ อะไรตอบได้ผมตอบ ผมแฮปปี้อยู่แล้ว ทุกท่านทราบดี ไม่ว่าจะอยู่ในสายไหน ผมกับนักข่าวรู้กันดีเลยว่า ผมน่ารักที่สุดในโลกเลย มีอะไรเต็มทีเลย ไม่ต้องกลัว
เมื่อถามย้ำว่า แต่เรื่องนี้ตอบไม่ได้เลยหรือ นายศรัณย์ บอกว่า “โน่นเลย ไปถามท่านเลย อย่าเอาผมไป..ไปถามท่านเลย ท่านชี้แจงว่าอย่างไรก็ตามนั้น ตามที่ท่านพูด ผมเป็นน้องรักในวงการผู้สื่อข่าวอยู่แล้ว ทุกๆท่านทราบดี หลายโทรเข้ามารู้จักผมดี ไปเช็คประวัติผมได้ ผมน่ารักที่สุดในโลก”
เมื่อถามว่า แต่เขากำลังมองว่า คุณศรัณย์ กำลังเป็นนอมินีของ คุณสมศักดิ์ นายศรัณย์ ตอบว่า “เป็นเรื่องการมอง แต่ข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง มันเป็นเรื่องการมอง แต่คือต้องเขาใจว่า สำหรับผม ไม่มีเรื่องอะไรที่ผมไม่พูด ผมบอกไม่ได้ แต่ถ้าไปก้าวล่วงอะไรมันไม่เหมาะ ซึ่งจุดตรงนี้ที่ผมยื่นอยู่มันชัดเจนที่สุด เพื่อนๆ พี่ๆ นักข่าวในวงการทราบดี ..โธ่ผมรักพวกพี่ยิ่งกว่าอะไรอีก มาทุกวันนี้ได้เติบโตในธุรกิจได้ก็เพราะพวกพี่ๆ ที่สนับสนุนทั้งนั้นแหละ มีอะไรที่ผมตอบได้ผมก็ตอบ”
เมื่อถามว่า แต่เราก็ยอมรับว่า ซื้อหุ้นแทนคุณสมศักดิ์ นายศรัณย์ ตอบว่า “ผมไม่ได้ยอมรับ ผมไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น”
นายศรัณย์ ยังระบุด้วยว่า “ด้วยความกรุณา ผมทำธุรกิจ และก็เดินไปอย่างสง่าผ่าเผย ช่วยๆ กันอย่าไปเขียนอะไรที่มันมีประเด็นเลย ผมมุ่งธุรกิจเต็มๆ ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจผมตอบได้ แต่ในเรื่องตรงนี้ พี่มาถามนำผม ผมตอบไม่ได้จริงๆ ผมเคารพผู้สื่อข่าวมากจริงๆ นะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์นายสมศักดิ์ อีกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยปลายสายแจ้งว่า นายสมศักดิ์ ต่อธุระไม่สะดวกที่จะรับสาย เมื่อสะดวกแล้วจะให้ติดต่อกลับอีกครั้ง