กษ.เปิดรับฟังความเห็นร่างกม.จำกัดใช้ 3 สารเคมีพิษ 25 ต.ค.
กรมวิชาการเกษตร เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศกระทรวงเกษตรฯ มาตรการจำกัดใช้ 3 สารอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต 25 ต.ค. 61 ก่อนเสนอคกก.วัตถุอันตรายพิจารณา
ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้จำกัดการใช้วัตถุอันตราย 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต โดยให้กรมวิชาการเกษตรจัดทำมาตรการจำกัดการใช้เสนอคณะกรรมการฯ นั้น เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2561 คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้วัตถุอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตตามที่กรมวิชาการเกษตรเสนอ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะต้องดำเนินการจัดทำกฎหมาย เกี่ยวกับมาตรการจำกัดการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 ชนิด โดยยกร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเสนอรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียจากทุกภาคส่วน
กรมวิชาการเกษตรได้กำหนดจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับวัตถุอันตรายพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร ในวันที่ 25 ต.ค. 2561 นี้ ณ โรงแรมทีเค พาเลซ กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นจำนวนประมาณ 250 คน ประกอบด้วย ผู้แทนภาครัฐ ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว อาจารย์มหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ ผู้ประกอบการด้านสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช และผู้แทนกลุ่มสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ องค์กรอิสระ รวมทั้งเกษตรกร และผู้สนใจ
“การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และผู้เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็น และรับรู้การออกกฎหมายที่เกี่ยวกับมาตรการจำกัดการใช้วัตถุอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ก่อนที่จะออกเป็นกฎหมายเพื่อบังคับใช้ต่อไป ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบอิเลคทรอนิกส์ (เว็บไซต์) ของกรมวิชาการเกษตร ตั้งแต่วันที่ 8 – 23 ต.ค. 2561 ซึ่งเป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้เปิดรับฟังความคิดเห็นไม่น้อยกว่า 15 วัน หลังจากนั้นจะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดจากการรับฟังทั้ง 2 ช่องทางพร้อมร่างประกาศที่ผ่านการวิเคราะห์ความคิดเห็นดังกล่าวแล้วส่งให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาเป็นลำดับต่อไป” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว