ประณามมติ ครม.อนุมัติ กม.ตั้งซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพชาติ กินรวบทำ 30 บาทอนาถา
บอร์ดหลักประกันสุขภาพตัวแทนประชาชนประณามมติ ครม.อนุมัติตามที่ สธ.เสนอกฎหมายตั้งซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพชาติ ให้อำนาจข้าราชการชี้ขาด ตัดขาดการมีส่วนร่วมประชาชน มีตัวแทนประชาชนแค่ 3 จากกรรมการ 45 คน ชี้เป็นจุดเริ่มต้นทำลายระบบ 30 บาทของประชาชน กลายเป็นระบบอนาถา บังคับร่วมจ่าย
นางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล กรรมการหลักประกันสุขภาพภาคประชาชน กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2561 เป็นมติที่อัปยศและน่าผิดหวังที่สุดที่ยังคงดึงดันอนุมัติ ร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาติที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้เสนอ ทั้งที่ขั้นตอนการสอบถามความเห็นจากหลายหน่วยงานก็ทักท้วงในเรื่องของความซับซ้อนกับคณะกรรมการที่มีอยู่ และแม้กระทั่งตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่า การมีกฎหมายฉบับนี้จะทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไร
ขณะที่มาตรา 3 ของ พ.ร.บ.นี้ระบุว่า นโยบายด้านระบบสุขภาพใด ขัดหรือแย้งกับนโยบายด้านระบบสุขภาพตาม พ.ร.บ.นี้ ให้เป็นไปตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งๆ ที่ ปราศจากการมีส่วนร่วม การมีกฎหมายฉบับนี้ประชาชนไม่มีประโยชน์ใดๆ เพิ่มขึ้น มีแต่จะถูกลิดรอนสิทธิ ระบบหลักประกันสุขภาพจะได้รับผลกระทบมาก ประชาชนต้องช่วยกันหยุด ไม่เช่นนั้น ระบบ 30 บาทหรือหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของประชาชนที่ได้มาจากรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย จากที่เคยเป็นสิทธิจะถูกทำให้กลายเป็นระบบอนาถา ถูกบังคับให้ร่วมจ่ายเมื่อป่วย เพราะคนกลุ่มนี้พูดตลอดเวลาว่า 30 บาทคือภาระประเทศ แต่สวัสดิการของข้าราชการไม่เคยเป็นภาระสำหรับพวกเขา
นางสาวกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ภาคประชาชนคัดค้านกฎหมายคณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาตินี้มาโดยตลอด แต่รัฐบาลที่ข้าราชการเป็นใหญ่นี้ไม่เคยสนใจรับฟังประชาชน กระบวนการรับฟังความเห็นที่กระทรวงสาธารณสุขผู้ผลักดันกฎหมายฉบับนี้จัดขึ้นก็ทำแค่เป็นพิธีกรรมเท่านั้น ครม.ยังอนุมัติร่างกฎหมายนี้ที่มีเป้าหมายเป็นซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพชาติ ยึดอำนาจและกินรวบทุกบอร์ดสุขภาพ ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพที่ สธ.ผลักดัน เป็นการยึดอำนาจคืนจากประชาชน และให้ข้าราชการเป็นผู้กินรวบและชี้ขาดทุกอย่าง โครงสร้างคณะกรรมการมี 45 คน มีประชาชนอยู่ในนี้แค่ 3 คน ที่เหลือเป็นข้าราชการ วิชาชีพทางการแพทย์ มีแม้กระทั่งสภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้า และกลาโหม ถามว่าเอากลุ่มนี้เข้ามาเขาก็ต้องพิทักษ์ผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ไม่ได้พิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม
“ที่สำคัญคือ กรรมการในสภาหอการค้าที่กระทรวงสาธารณสุขเลือกไปเป็นกรรมการนั้นมีตัวแทนจากสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์หรือพรีม่าอยู่ด้วย สมาคมนี้เป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัทยาข้ามชาติ และที่ผ่านมามีบทบาทในการคัดค้านนโยบายด้านสุขภาพต่างๆที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมาตลอด ไปดูได้เลยในการประชุมต่างๆ ทั้งสมัชชาสุขภาพ ทั้งเรื่องเขตการค้าเสรี ตัวแทนจากพรีม่าจะพิทักษ์ผลประโยชน์บริษัทยาอย่างเข้มแข็ง และลิดรอนสิทธิประชาชนมาตลอด แต่คนแบบนี้กระทรวงสาธารณสุขกลับเลือกไปเป็นกรรมนโยบายสุขภาพชาติที่มีเป้าหมายยึดอำนาจและกินรวบทุกบอร์ด และ ครม.ยังบ้าจี้อนุมัติกฎหมายฉบับนี้ไปได้”
นางสาวกรรณิการ์ กล่าวว่า การที่ ครม.เห็นชอบเท่ากับว่ารัฐบาลนี้จ้องทำลายและจะยกเลิก 30 บาท เหมือนความพยายามที่เคยทำมาตลอดตั้งแต่มาเป็นรัฐบาล ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพของ สธ.นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำลายระบบ 30 บาทของประชาชน พรรคการเมืองไหนที่ประกาศว่าจะยกเลิกซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพของคสช.ประชาชนจะเลือกพรรคนั้น เพราะเราไม่ต้องการให้บอร์ดชุดนี้มาทำลายสิทธิ 30 บาทของประชาชน