ดีเอสไอปัดเอี่ยวร้านกาแฟดัง โวยใช้ชื่อร่วมแถลงเปิดตัว!
อธิบดี DSI ปัดไม่ได้เกี่ยวข้องกับร้านกาแฟ "แคชแบ็ค" พร้อมสั่งตรวจสอบหลังใช้อักษรย่ออังกฤษ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้า ส่อให้คนเข้าใจผิด ลั่นหากพบแอบอ้างทำให้องค์กรเสียหาย ดำเนินคดีแน่นอน
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข้อมูลผู้บริหารบริษัท กาแฟ แคชแบ็ค จำกัด และบุคคลต่างๆ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวธุรกิจ โดยใช้ข้อความพื้นหลังประกอบการแถลงข่าวมีใจความว่าจับมือกับหน่วยงานสำคัญของชาวไทย ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์, ปปง., DSI และกรมสรรพากร เผยแพร่ไปตามสื่อสาธารณะต่าง ๆ ซึ่งตัวอักษร DSI เป็นตัวย่อภาษาอังกฤษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปจากข่าวสารที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแถลงเอง รวมถึงสื่อสาธารณะต่าง ๆ
การที่บริษัทดังกล่าวระบุคำว่า DSI อยู่ในข้อความเดียวกันกับที่มีชื่อส่วนราชการอื่นอยู่ด้วย ย่อมทำให้เข้าใจได้ว่าหมายถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ และย่อมทำให้ประชาชนทั่วไปหรือผู้ร่วมในเหตุการณ์แถลงข่าวเปิดธุรกิจหลงเชื่อ หรือเข้าใจว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้การสนับสนุนหรือร่วมกิจกรรมในการประกอบธุรกิจกับเอกชนตามข้อความดังกล่าว ดังนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนในการดำเนินธุรกิจของเอกชนแต่อย่างใด โดยตนได้มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ตรวจสอบรายละเอียดการดำเนินธุรกิจว่าเป็นการประกอบธุรกิจแบบขายตรงหรือตลาดแบบตรง หรือต้องอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับของกฎหมายใด และดำเนินการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบความผิดทางอาญาจะได้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่มีการใช้ข้อความที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่า DSI หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษให้การสนับสนุนธุรกิจของตนนั้น หากผู้ใดได้รับความเสียหายจากการหลงเชื่อดังกล่าวสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดได้ และในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษจะมอบหมายให้กองกฎหมายไปพิจารณา หากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับความเสียหายก็จะให้ไปร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษขอประชาสัมพันธ์ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจหน้าที่ ในการดำเนินคดีอาญาที่เป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการสนับสนุนหรือส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของเอกชน หากพบการแอบอ้างกรมสอบสวนคดีพิเศษในลักษณะดังกล่าว ขออย่าได้หลงเชื่อ และโปรดแจ้งข้อมูลมาที่สายด่วน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หมายเลข 1202 เพื่อจะได้เป็นข้อมูลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่มาข่าว: https://www.dailynews.co.th/regional/670878