ผลวิจัยชี้ 10 หลักประกันสุขภาพ คนไทยเกิด-ตายจากโรคลดลง
สปสช.เผยผลสำรวจ 10 ปีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พบคนไทยมีสุขภาวะดี-อายุขัยเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเกิดและตายจากโรคต่างๆ ลดลง
วันที่ 3 มิถุนายน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งในขณะนี้อยู่ในช่วงครบสิบปีและกำลังจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 นั้น หน่วยงานทางวิชาการ ทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสถิติแห่งชาติ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และ สำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้รายงานอัตราการเกิดและเสียชีวิตของประชาชนไทย พบว่าคนไทยมีอายุขัยเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงประสิทธิผลของนโยบายด้านสาธารณสุขของไทยที่ให้ความสำคัญกับงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จากการลดการตายก่อนวัยอันควร
“การที่ประชาชนไทยทุกคนได้รับการคุ้มครองโดยมีระบบหลักประกันสุขภาพนั้น เป็นสิ่งเชื่อมั่นได้ว่า เมื่อยามปกติจะได้รับการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และเมื่อเจ็บป่วยจะได้รับบริการรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”
นพ.วินัย กล่าวต่อว่า จากรายงานของหลายหน่วยงานพบว่า อัตราการตายของทารกเมื่อแรกคลอดลดลง โดยในปี 2533 อัตราการตายของทารกต่อการเกิดมีชีวิต 1,000 คน คือ 38.8 คน และลดลงเรื่อยๆ ในปี 2534 เป็น 34.5 คน ปี 2538 เป็น 26.1 คนและปี 2548 เป็น 11.3 คน ขณะที่อัตราการตายของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ก็ลดลงเช่นกัน จากปี 2545 อัตราการตายอยู่ที่ 11.7 คนต่อการเกิดมีชีวิต 1,000 คน ลดลงเป็น 9.5 ต่อการเกิดมีชีวิต 1,000 คน ในปี 2552
สำหรับอัตราการตายของประชากรไทยวัยแรงงาน จาก 4.1 คนต่อประชากร 1,000 คนในปี 2541 เป็น 3.2 คนต่อประชากร 1,000 คน ในปี 2551 และอัตราการตายด้วยสาเหตุสำคัญของคนไทยปี 2530-2552 พบว่า โรคหัวใจ มาลาเรีย วัณโรค อุจจาระร่วง และเอดส์ลดลงอย่างมาก ขณะที่อัตราการตายจากอุบัติเหตุมีแนวโน้มลดลง
เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อว่า แม้ตัวชี้วัดด้านสุขภาพและการเจ็บป่วยจากโรคที่ป้องกันได้จะดีขึ้นในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แต่ปัญหาสาธารณสุขที่เกิดจากพฤติกรรม สุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปยังเป็นปัญหาท้าทายระบบสาธารณสุของประเทศไทยที่ สปสช.จะต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น
