ราชกิจจาฯแพร่ จัดตั้งกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ
ราชกิจจานุเบกษาแพร่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการใน สตช.ใหม่ ตั้งกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รองรับภารกิจการถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2561 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ฉบับที่ 9 พ.ศ. 2561
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อรองรับภารกิจการถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และบุคคลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชอาคันตุกะ มีการบูรณาการร่วมกับส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการถวายความปลอดภัยอย่างเป็นเอกภาพรวมทั้งเปลี่ยนชื่อกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนราชการภายในกองบังคับการปราบปรามในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นกองกำกับการสนับสนุน ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไปอันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
เนื้อหากฎกระทรวงใหม่ ระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 10 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 นายกรัฐมนตรีออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (8) ของ (ข) ของ (13) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(8) กองกำกับการสนับสนุน”
ข้อ 2 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (ฐ) ของ (13) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552
“(ฐ) กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ ประกอบด้วย
(1) ฝ่ายอำนวยการ
(2) - (7) กองกำกับการถวายความปลอดภัย 1 - 6
(8) กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ
(9) กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ
(10) กองกำกับการสายตรวจถวายความปลอดภัย”
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (ฐ) ของ (12) ของ 2. กองบัญชาการ ในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552
“(ฐ) กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
1) ถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และบุคคลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชอาคันตุกะ
2) ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและการถวายพระเกียรติต่อพระองค์หรือบุคคลที่ต้องมีการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยในขณะที่เสด็จไปหรือไปยังที่ใดรวมตลอดถึงการรักษาความปลอดภัยของยานพาหนะ และสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง
3) ปฏิบัติภารกิจตามพระราชประสงค์
4) ประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการถวายความปลอดภัยการตรวจพื้นที่เพื่อเตรียมการรับเสด็จ ขบวนเสด็จ เส้นทางเสด็จ และที่หมายเสด็จ
5) ปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดทางอาญา
6) ดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านการข่าวของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อความมั่นคงและองค์พระมหากษัตริย์
7) ปฏิบัติการทางยุทธวิธีและเครื่องมือพิเศษให้กับหน่วยปฏิบัติต่าง ๆ และสนับสนุนการปฏิบัติในการปราบปรามอาชญากรรมของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
8) ปฏิบัติงานด้านรถวิทยุสายตรวจมีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยทั่วประเทศงานสื่อสารและศูนย์วิทยุสนับสนุนการปฏิบัติงานของรถวิทยุสายตรวจ งานรับแจ้งเหตุและเบาะแสทางโทรศัพท์และทางไปรษณีย์
9) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย”
ข้อ 4 บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ข้อกำหนด ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งในเรื่องใดที่มีอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับซึ่งอ้างถึงกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ถือว่ากฎกระทรวง ระเบียบ ข้อกำหนด ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งในเรื่องนั้นอ้างถึงกองกำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางตามกฎกระทรวงนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 256
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี