ดีเอสไอแจงคดีจีที200ส่งฟ้อง 16 คดี ทุกหน่วยงานถูกหลอกสั่งซื้อ
ดีเอสไอแจงคดีพิเศษจีที 200 สอบสวนเสร็จหมดแล้วส่งดำเนินคดีอาญา 16 คดี ทุกหน่วยงานรัฐถูกหลอกสั่งซื้อ เสียหายหนักใช้ไม่ได้จริง
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2561 ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอไอ) คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษออกแถลงการณ์หลังจากศาลแขวงดอนเมืองมีคำพิพากษาจำคุกผู้บริหารบริษัทเอวีเอแซท คอม ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจีที 200 จำนวน 9ปีโดยไม่รอลงอาญาและมีคำสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 1.8 หมื่นบาทเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาว่าคดีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงานได้ร้องทุกข์เพื่อขอให้ดีเอสไอดำเนินคดีอาญากับบริษัทที่หลอกลวงขายอุปกรณ์ตรวจระเบิด จีที200 ให้กับหน่วยงานของตน ซึ่งผลการตรวจสอบต่อมาปรากฏว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริงตามที่ได้โฆษณาขายเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายดีเอสไอได้สืบสวนขยายผลพร้อมทั้งรวบรวมเอกสารพยาน หลักฐานแล้วพบมูลความผิดจึงเสนอต่อมาคณะกรรมการสิทธิพิเศษเพื่อมีมติรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ
แถลงการณ์ยังระบุอีกด้วยว่าดีเอสไอได้ดำเนินคดีอาญากับบริษัทที่เกี่ยวข้องและผู้กระทำความผิดทั้งสิ้น16 คดี ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานราชการที่ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมสรรพาวุธทหารบก จังหวัดพิษณุโลก กรมศุลกากรกรมการปกครอง กรมราชองครักษ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดภูเก็ตตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดยะลา ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาทองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพเรือและจังหวัดสุโขทัย ทั้งนี้ จากการสอบสวนของกองคดีความมั่นคงดีเอสไอพบมูลความผิดอาญาฐานหลอกลวงด้วยประการใด ๆให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในสภาพและคุณภาพแห่งของนั้นอันเป็นเท็จและความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาโดยขณะนี้ทุกคดีสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วและได้ทยอยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในศาลซึ่งผลคดีที่ปรากฏตามข่าวเป็นคดีที่ 3 ที่ได้มีคำพิพากษา
โดยคดีแรก มีศูนย์รักษาความปลอดภัยกองบัญชาการกองทัพไทยเป็นผู้เสียหายศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องคดีระหว่างอุทธรณ์ คดีที่ 2มีกรมสรรพาวุธทหารบกเป็นผู้เสียหาย ศาลมีคำพิพากษาจำคุกในความผิดฐานฉ้อโกง กระทงละ 3 ปี จำนวน 12 กระทง รวม 36 ปี แต่ตามมาตรา91 (1) แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้จำคุกได้ไม่เกิน 10 ปี และมีโทษปรับ72,000 บาท ส่วนคดีที่ 3 คือคดีที่มีกรมราชองครักษ์เป็นผู้เสียหายศาลพิพากษาจำคุก ในความผิดฐานฉ้อโกง กระทงละ 3 ปี รวม 3 กระทงเป็นระยะเวลา 9 ปี และมีโทษปรับ 18,000 บาท