เมื่ออัยการเดือด ถูกตัดเงินค่าครองชีพ-ฝ่ายบริหารยันเกลี่ยงบค้างท่อจ่ายได้แน่ 28 ก.ย.นี้
"...ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นความผิดพลาดทางด้านธุรการ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาในขณะนี้จะมีการนำเงินค้างท่อมาเกลี่ยจ่ายให้ และมีการนำเรื่องเข้าพิจารณาในประชุมกรรมการเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในวันที่ 28 ก.ย.นี้ จะสามารถจ่ายเงินได้ทั้งหมด..."
กำลังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ครั้งใหญ่ในกลุ่มข้าราชการอัยการทั่วประเทศ!
เมื่อปรากฏข้อมูลว่า รักษาการอัยการสูงสุด ได้ออกหนังสือแจ้งเวียนงดจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนรถประจำตำแหน่งและค่าครองชีพชั่วคราวประจำเดือนก.ย.2561 เนื่องจากตัดขัดปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ เพราะเพิ่งประกาศรับข้าราชการธุรการเพิ่มเติมมากว่า 705 ตำแหน่ง โดยวิธีการแก้ไขปัญหาอยู่ระหว่างประสานงานกับสำนักงบประมาณเพื่อให้จัดสรรงบประมาณให้ เมื่อได้รับมาแล้วจะมีการเร่งเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งและค่าครองชีพให้ต่อไป
สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ที่ดังในขณะนี้ พุ่งตรงไปที่เรื่องการบริหารจัดงานของผู้บริหารองค์กร ว่า ไม่มีการวางแผนเตรียมรับมือกับปัญหาไว้ล่วงหน้าที่ดีพอ
จึงส่งผลทำให้ต้องเดือนร้อนกันทั่วหน้าแบบนี้ เพราะอัยการที่ได้รับผลกระทบก็ต้องกินต้องใช้ แต่มาขาดเงินกันคนละหลายหมื่น บางรายออกอาการเครียดหนัก หนี้บัตรเครดิตถูกเรียกเก็บเข้ามาแล้ว ไม่รู้จะหาเงินจากไหนไปจ่าย
คำถามสำคัญที่ดังตามมาไม่ขาดสายก็ เรื่องสำคัญแบบนี้ ทำไมฝ่ายบริหารไม่แจ้งไม่บอกกันล่วงหน้าก่อนจะได้หาทางแก้ไขปัญหาเตรียมไว้
และคำถามสำคัญ ก็ยังล่ามไปถึงความไม่พอใจแนวทางการทำงาน ในลักษณะการรวบงานสัญญามาดูไว้ที่ตนเองหมด โดยไม่ให้ผ่านใคร เลยทำให้ไม่มีเวลาเหลือสำหรับดูแลงานด้านการบริหาร แถมผู้บริหารระดับสูงบางตำแหน่งยังบินไปเมืองนอกเดือนละครั้งด้วย
ล่าสุด มีคำชี้แจงออกมาจากฝ่ายบริหารว่า เหตุที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เพราะเข้าใจว่าจะแก้ไขปัญหาได้ โดยการโยกเงินค้างท่อทั่วประเทศมาจ่ายก่อน ซึ่งน่าจะเพียงพอ ส่วนมาตรการจ่ายค่ารถค่าครองชีพล่าช้าไปหนึ่งสัปดาห์เคยถูกคิดว่าจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะนำมาใช้
แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในวงในอัยการขณะนี้ คือ สำนักงานอัยการขาดเงินใช้จ่ายไปจำนวน 56 ล้านบาท ทำเรื่องขอสำนักงบประมาณใช้งบกลางฉุกเฉินไปนานนับเดือนแล้ว แต่ได้เงินมาแค่ 14 ล้านบาท ที่เหลืออีก 41 ล้านบาทเศษ สำนักงบฯ จึงให้ใช้จากเงินค้างท่อ ของสำนักงานอัยการสูงสุดเอง ซึ่งคำตอบที่ได้รับค่อนข้างฉุกละหุกจึงทำให้ฝ่ายบริหารแก้ไขปัญหาไม่ทัน และต้องตัดสินใจใช้วิธีการดังกล่าวแก้ไขปัญหาไปก่อน
และดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องการขาดเงินของสำนักงานอัยการ จะยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะมีข่าวว่ากำลังส่งผลกระทบไปถึงตำแหน่งอัยการผู้ช่วย ที่เพิ่งประกาศรับมาร้อยกว่าคน ที่เมื่อเงินไม่พอจ่าย จึงรับได้แค่ 32 รายเท่านั้น ส่วนที่เหลือให้รอไปก่อน
ตอกย้ำให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นมันรุนแรง มากกว่าที่เห็น
แต่สิ่งที่กระทบหนักสุด และเป็นเรื่องสำคัญที่ฝ่ายบริหารองค์กร ต้องรีบหาทางแก้ไขปัญหาโดยด่วน คือ ศรัทธาความเชื่อมั่นของคนในองค์กร ว่า จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกในอนาคต
ขณะที่ล่าสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นความผิดพลาดทางด้านธุรการ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาในขณะนี้จะมีการนำเงินค้างท่อมาเกลี่ยจ่ายให้ และมีการนำเรื่องเข้าพิจารณาในประชุมกรรมการเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในวันที่ 28 ก.ย.นี้ จะสามารถจ่ายเงินได้ทั้งหมด
นี่คือ คำยืนยันล่าสุดเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนผลลัพธ์การแก้ไขปัญหาจะออกมาเป็นไปตามนี้หรือไม่ คงต้องจับตาดูกันต่อไป
แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น มีหวังได้เห็นอัยการเดือดกันยิ่งกว่านี้แน่นอน เพราะเรื่องเงินใครก็ต้องกินต้องใช้ไม่เว้นแม้กระทั่งอัยการ