สปสช. จับมือ กรมราชทัณฑ์ เพิ่มหน่วยบริการบัตรทอง “เรือนจำบางขวาง” ดูแลผู้ต้องขัง
สปสช. จับมือ ราชทัณฑ์ ลงนามข้อตกลงรับรอง“สถานพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง” ขึ้นทะเบียนหน่วยบริการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดูแลผู้ต้องเข้าเข้าถึงสิทธิ ได้รับการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุข จำเป็นต่อการเข้าถึง
กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมลงนามข้อตกลงการให้บริการสาธารณสุขตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยมี พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้ลงนามข้อตกลงดังกล่าว
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้เล็งเห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพ ทั้งการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ร่วมถึงการรักษาที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ ดังนั้นในส่วนของสถานพยาบาลเรือนจำบางขวางจึงได้มีการพัฒนาศักยภาพและยกระดับจากหน่วยบริการปฐมภูมิ เป็นหน่วยบริการประจจำและรับส่งต่อในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้ผู้ต้องเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ภายใต้ พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ
ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ตามมาตรา 44 แห่ง พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ กําหนดให้ สปสช.จัดให้มีการขึ้นทะเบียนหน่วยบริการและเครือข่ายหน่วยบริการเพื่อให้บุคคลลงทะเบียนเลือกเป็นหน่วยบริการประจํา และเพื่อพัฒนาระบบบริการ เพิ่มการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพสําหรับผู้ต้องขังตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2558 เรื่องการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามยุทธศาสตร์การดําเนินงานของ สปสช.ปี 2560-2564 โดย สปสช.เขต 4 สระบุรี ได้ร่วมหารือกับสถานพยาบาลเรือนจํากลางบางขวางเพื่อเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยแสดงเจตจํานงขอเข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561
ต่อมาคณะกรรมการตรวจประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนหน่วยบริการ สปสช.เขต 4 สระบุรีได้ตรวจประเมินศักยภาพและหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนหน่วยบริการประเภทปฐมภูมิประจําและรับส่งต่อทั่วไป โดยมีศักยภาพในการจัดบริการสาธารณสุข และอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติระดับเขตพื้นที่ (อปสข.) เขต 4 สระบุรี ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการประจําปฐมภูมิและหน่วยรับส่งต่อ ประจําปี 2562 ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 โดยให้บริการผู้ต้องขังครอบคลุมทั้งการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค การตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาภาวะเสี่ยงด้านสุขภาพ สร้างเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การฟื้นฟูสภาพและการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ รวมถึงการจัดบริการส่งต่อและรับกลับเพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง การให้บริการกรณีอุบัติเหตุหรือ ฉุกเฉิน ทั้งในเวลาทําการและนอกเวลาทําการ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ทั้งนี้ สปสช. กับ กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของหน่วยบริการเรือนจํากลางบางขวาง ได้จัดพิธลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการให้บริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อความร่วมมือกัน ในการบริหารจัดการระบบบริการสาธารณสุขให้ผู้ต้องขังสามารถ เข้าถึงบริการสาธารณสุขได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีจํานวนผู้ต้องขังอยู่ประมาณ 6,020 คน และผู้ต้องขัง สามารถเลือกลงทะเบียนกับหน่วยบริการเรือนจํากลางบางขวางได้จะส่งผลให้ผู้ต้องขังในเรือนจํามีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ถูกริดรอนสิทธิมนุษยชนได้รับบริการสุขภาพที่มีประสิทธิภาพสะดวกต่อการรับและให้บริการ ตลอดจนลดภาระ ของเจ้าหน้าที่ควบคุม ขณะเดียวกันสถานพยาบาลในเรือนจําเมื่อขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิประจําและ หน่วยรับส่งต่อ จะได้รับงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว และงบจ่ายตามผลงาน เป็นการหนุนเสริมให้หน่วยบริการ สามารถจัดบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น