กกต.คลอดแนวทางแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.-อำเภอเดียวกันแยกคนละเขตได้
กกต.ออกประกาศแนวทางแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. 350 คน อิงฐานประชากรทะเบียนราษฎร์ ณ 31 ธ.ค. 60 คำนึงความสะดวก ชุมชน อำเภอเดียวกันแยกเป็นคนละเขตได้ แบ่งเฉพาะบางส่วนของตำบลไม่ได้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า 18 ก.ย.61 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 เนื้อหา 12 ข้อ
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในระเบียบนี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
“เขตเลือกตั้ง” หมายความว่า ท้องที่ที่กำหนดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
“จังหวัด” หมายความรวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย
“อำเภอ” หมายความรวมถึงเขตด้วย
“ตำบล” หมายความรวมถึงแขวงด้วย
“ศาลากลางจังหวัด” หมายความรวมถึงศาลาว่าการกรุงเทพมหานครด้วย
“ที่ว่าการอำเภอ” หมายความรวมถึงสำนักงานเขตด้วย
“สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด” หมายความรวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครด้วย
ข้อ 4 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบนี้ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการบริหารงานบุคคล (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2560 เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด โดยมีหน้าที่และอำนาจตามที่กาหนดไว้ในระเบียบนี้
ข้อ 5 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ในกรณีที่ระเบียบนี้ไม่ครอบคลุมถึงหรือมีปัญหาข้อขัดข้องในทางปฏิบัติในประเด็นอื่น ที่มิได้มีการระบุไว้ในระเบียบนี้ หรือมีความจำเป็นต้องยกเว้นการปฏิบัติหรือย่นระยะเวลาหรือขยายระยะเวลาการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ซึ่งไม่ขัดแย้งกับบทบัญญัติของกฎหมาย ให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
ข้อ 6 ภายในสามวันนับจากวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ให้คณะกรรมการประกาศกำหนด จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี ให้ดำเนินการตามวิธีการ ดังต่อไปนี้
(1) ให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎร ทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 อันถือได้ว่าเป็นที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มี การเลือกตั้ง เฉลี่ยด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามร้อยห้าสิบคน จำนวนที่ได้รับให้ถือว่าเป็นจำนวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน
(2) จังหวัดใดมีราษฎรไม่ถึงเกณฑ์จำนวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคนตาม (1) ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนั้นได้หนึ่งคน โดยให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง
(3) จังหวัดใดมีราษฎรเกินจำนวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดนั้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนทุกจำนวนราษฎรที่ถึงเกณฑ์จำนวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน
(4) เมื่อได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละจังหวัดตาม (2) และ (3) แล้ว ถ้าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ครบสามร้อยห้าสิบคน จังหวัดใดมีเศษที่เหลือจากการคำนวณ
ตาม (3) มากที่สุด ให้จังหวัดนั้นมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน และให้เพิ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามวิธีการดังกล่าวแก่จังหวัดที่มีเศษที่เหลือจากการคำนวณนั้นในลำดับรองลงมาตามลำดับจนครบจำนวนสามร้อยห้าสิบคน
ข้อ 7 จังหวัดใดมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เกินหนึ่งคน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเท่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี โดยให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจารณา แบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกันดังต่อไปนี้
(1) ให้รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง โดยคำนึงถึงพื้นที่ที่ติดต่อใกล้ชิดกัน ความสะดวกในการคมนาคมระหว่างกัน และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน ถ้าการรวมอำเภอในลักษณะนี้ จะทำให้มีจำนวนราษฎรมากหรือน้อยเกินไป ให้แยกตำบลของอำเภอออกเพื่อให้ได้จำนวนราษฎรพอเพียง สำหรับการเป็นเขตเลือกตั้ง แต่จะแยกหรือรวมเฉพาะเพียงบางส่วนของตำบลไม่ได้
(2 ) ในกรณีที่การกำหนดพื้นที่ตามเกณฑ์ใน (1) จะทำให้จำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง มีจำนวนไม่ใกล้เคียงกันหรือไม่มีสภาพเป็นชุมชนเดียวกัน ให้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งตามสภาพของชุมชนที่ราษฎรมีการติดต่อกันเป็นประจำในลักษณะที่เป็นชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกันและสามารถเดินทางติดต่อกันได้โดยสะดวก โดยจะต้องทำให้จำนวนราษฎรมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่สุด การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้แล้วเสร็จภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีประกาศตามข้อ 6
ข้อ 8 ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ตามข้อ 7 อย่างน้อยสามรูปแบบเพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด เป็นเวลาสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ ซึ่งแต่ละรูปแบบต้องประกอบด้วย
(1) รายละเอียดเกี่ยวกับอำเภอหรือตำบล หรือเขตพื้นที่ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งแต่ละเขต
(2) จำนวนราษฎรของแต่ละเขตเลือกตั้ง และผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งจากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคนในจังหวัดนั้น
(3) เหตุผลประกอบการเสนอแนะการแบ่งเขตเลือกตั้ง
(4) แผนที่แสดงรายละเอียดของพื้นที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเลือกตั้ง ประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ปิดไว้ ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอาเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล และให้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนต่าง ๆ ในจังหวัดด้วย
ในกรณีพรรคการเมือง ส่วนราชการ หรือบุคคลใดต้องการรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ปิดประกาศไว้ ให้ขอคัดสำเนาจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด โดยเสียค่าใช้จ่ายเองตามวิธีการ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำหนด
ข้อ 9 ภายในสามวันนับแต่สิ้นสุดระยะเวลาการรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด ตามข้อ 8 ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนำความเห็นและข้อเสนอแนะของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด ประกอบการพิจารณาการแบ่งเขตเลือกตั้งของจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง แล้วให้เสนอผลการพิจารณา รวบรวมสรุปความเห็นและข้อเสนอแนะของพรรคการเมืองและ
ประชาชนในจังหวัด พร้อมผลการพิจารณาข้อเสนอแนะการแบ่งเขตเลือกตั้งของจังหวัดอย่างน้อยสามรูปแบบเรียงตามลำดับความเหมาะสมต่อคณะกรรมการในวันถัดไป
ข้อ 10 ภายในยี่สิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการได้รับรูปแบบการแบ่งเขตตามข้อ 9 จากผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ให้คณะกรรมการประชุมพิจารณารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้แล้วเสร็จ
ข้อ 11 เมื่อคณะกรรมการได้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งแล้ว ให้คณะกรรมการประกาศ การแบ่งเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ 12 เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปให้คณะกรรมการประกาศจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ซึ่งจะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับอำเภอหรือเขตพื้นที่ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งในคราวนั้น โดยถือเขตเลือกตั้งที่มีการประกาศกำหนดไว้ตามข้อ 11
ประกาศ ณ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561
อิทธิพร บุญประคอง
ประธานกรรมการการเลือกตั้ง
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/072/T1.PDF