ปมขุมทรัพย์“บิ๊กบัง”วุ่น เมียคนที่ 1 งง!สามีรวยติดจรวดซัด“เมียคนที่2”ไม่ใช่คู่สมรส
ปมทรัพย์สิน“บิ๊กบัง”วุ่น! เมียคนที่ 1 งง!ที่ดินงอก 77 ไร่พิสดาร ไม่เคยซื้อ ไม่รู้มาจากไหน? เงินฝากแบงก์เพิ่มจากค้าที่ ซัด “ปิยะดา”เมียคนที่ 2 ไม่ใช่คู่สมรสถูก กม. ไม่ต้องแจ้งทรัพย์สิน ถ้าต้องแจงหมด คงโผล่อีกเยอะ
การที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.และหัวพรรคมาตุภูมิ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากตอนรับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ในรายการสำคัญ ได้แก่
1.รายการ เงินฝาก จากเดิมยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จากเดิมที่เป็นรองนายกฯ 13,355,541.59 บาท เป็น 24,960,524.40 บาทหรือคิดเป็นจำนวนเงิน 11,604,982.81 บาท ส่วน นางสุกัลยาจากเดิมเงินฝาก 3,966,933.58 บาท ล่าสุดเพิ่มเป็น 4,171,343.13 บาท
2.ที่ดินจากเดิม พล.อ.สนธิมิได้แจ้งว่ามีการครอบครอง ขณะที่นางสุกัลยาแจ้งว่ามีเพียง 1 แปลง ต่อมาตอนเป็น ส.ส.ทั้งสองคนแจ้งการถือครองรวม 10 แปลง เนื้อที่ 78-1-58 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 77 ไร่ (อ่านรายละเอียดใน เรื่อง แกะรอย“บิ๊กบัง”เงินฝากพุ่ง-ที่ดินงอกติดจรวด-ทรัพย์สิน“เมียคนที่2”ล่องหน )
ขณะเดียวกันก็มิได้ยื่นการถือครองทรัพย์สินและหนี้สินของนางปิยะดา บุญยรัตกลิน ภรรยาคนที่สอง เหมือนในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกฯก่อนหน้านี้
กรณีดังกล่าวอาจนำมาซึ่งความยุ่งยากให้แก่ พล.อ.สนธิ เมื่อนางสุกัลยา บุญยรัตกลิน ภรรยาคนแรกออกมาระบุว่ารายการทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นไม่ทราบมาได้อย่างไร?
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามข้อมูลจากนางสุกัลยา บุญยรัตกลิน ยืนยันว่า ไม่ทราบรายละเอียดของที่ดินที่เพิ่มขึ้นมา 10 แปลง ตามข้อมูลที่ พล.อ.สนธิ แจ้งไว้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่อย่างใด
{youtubejw width="300" height="220"}icsVoL0uTng{/youtubejw}
ทั้งนี้ ในระหว่างการสอบถามข้อมูล เรื่องการเพิ่มขึ้นของจำนวนที่ดินดังกล่าว นางสุกัลยา ได้ย้อนถาม ว่า “ที่ดินที่ไหนนะค่ะ”
เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งข้อมูลว่า ที่ดิน ในบัญชีทรัพย์สิน ที่ พล.อ.สนธิ แจ้งไว้กับป.ป.ช. ในการเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 10 แปลง จากในช่วงดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ที่ระบุว่ามีแค่ 1 แปลง นางสุกัลยา ยืนยันว่า “ ไม่มีใครซื้อค่ะ.. ไม่ได้ซื้อค่ะ”
เมื่อถามว่า แต่ในบัญชีทรัพย์สินระบุว่า มีที่ดิน ที่ จ.สงขลา 5 แปลง และที่ดิน ที่ ต.คลองกุ่ม บางกะปิ กรุงเทพฯ จำนวน 2 แปลง นางสุกัลยา ยืนยันว่า “ไม่มีค่ะๆ” ก่อนจะย้อนถามว่า “ที่ดินดังกล่าว เป็นชื่อของใครค่ะ”
เมื่อผู้สื่อข่าวยืนยันว่า เป็นที่ดินที่ พล.อ.สนธิ กับคู่สมรส แจ้งเอาไว้ ในบัญชีทรัพย์สิน นางสุกัลยา หยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “ไม่มีค่ะ”
เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีหมายถึงอะไร ไม่เคยซื้อมา หรือ พล.อ.สนธิ ซื้อมาแล้วเราไม่ทราบ นางสุกัลยา ตอบว่า “ไม่..ไม่เคยซื้อค่ะ”
เมื่อถามย้ำว่า ไม่เคยซื้อที่ดินมาครอบครองเลยหรือ นางสุกัลยา ตอบว่า “ค่ะ”
เมื่อถามต่อว่า ตอนที่พล.อ.สนธิ ดำรงตำแหน่ง รองนายกฯ ระบุว่า ตนเองไม่มีที่ดิน แต่นางสุกัลยา มีที่ดิน 1 แปลง ที่ ต. คลองกุ่ม อ.บางกะปิ จ.กรุงเทพฯเนื้อที่ 0-1-0 ไร่ มูลค่า 1,300,000 บาท นางสุกัลยา ตอบว่า “ค่ะ” ก่อนจะย้อนถามว่า ที่ดินที่เพิ่มขึ้นมา มีจำนวนกี่ไร่
เมื่อผู้สื่อข่าว ตอบว่า เนื้อที่กว่า 77 ไร่ ที่ดินจำนวนนี้ ได้มาได้อย่างไร นางสุกัลยา ตอบว่า “ไม่ได้ซื้อค่ะ”
เมื่อถามย้ำว่า มีคนให้มาหรือ นางสุกัลยา หยุดคิด..ก่อนตอบว่า “ทำไมไม่ไปถามท่านสนธิเอง”
เมื่อแจ้งว่า ไม่สามารถติดต่อ พล.อ.สนธิได้ และในบัญชีทรัพย์สิน ก็มีการระบุถึงทรัพย์สินของ นางสุกัลยา ในฐานะคู่สมรสไว้ จึงต้องสอบถามข้อมูลจากนางสุกัลยาด้วย นางสุกัลยา ย้อนถามว่า “ถึงวาระที่ต้องแจ้งหรือยัง”
ผู้สื่อข่าวตอบไปว่า “แจ้งไว้แล้ว เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ข้อมูลปรากฏในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ปป.ช. แล้ว” นางสุกัลยา ตอบว่า “ไม่ทราบรายละเอียดเลย”
เมื่อถามว่า ในช่วงที่ พล.อ.สนธิ จัดทำรายละเอียดในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เพื่อแจ้ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มาปรึกษาหารือหรือไม่ นางสุกัลยา ตอบว่า “ก็..แจ้งเท่าที่มี”
เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่ พล.อ.สนธิจะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลใช่หรือไม่ นางสุกัลยา ตอบว่า “ก็คือ.. แต่คิดว่าท่านไม่ได้ซื้อนะ ไม่มีซื้อนะ ไปเอาที่ไหนมา”
เมื่อถามว่า แต่จำนวนที่ดิน ที่ถือครอง เพิ่มขึ้น จากตอนเป็นรองนายกฯ นางสุกัลยา ตอบว่า “ ไม่แน่ใจ ว่า มีอยู่แล้วหรือเปล่า”
เมื่อย้อนกลับไปถามถึง ที่ดิน จำนวน 1 แปลง ที่บางกะปิ ที่เคยแจ้งข้อมูลสมัย พล.อ.สนธิ ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกฯ ว่า ยังถือครองอยู่หรือไม่ นางสุกัลยาตอบว่า ก็มีๆ แต่ก็ไม่ใช่ชื่อเรา
เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงอย่างไร นางสุกัลยา ตอบว่า “เป็นของที่ซื้อมาแล้วก็ขายไป แต่ไม่ต้องถามรายละเอียดไม่รู้ ถ้าอยากรู้รายละเอียดต้องไปรอถาม ท่านสนธิ ที่สภาฯ เอาเอง”
เมื่อถามว่า เรื่องเงินฝากจำนวน 11 ล้านบาท ของ พล.อ.สนธิ เพิ่มมาจากไหน นางสุกัลยา ตอบว่า เรื่องนี้ไม่เคยยุ่งเลยนะค่ะ”
เมื่อถามว่า มองว่าเงินที่เพิ่มขึ้นมา น่าจะมาจากรายได้ส่วนไหน นางสุกัลยา ตอบว่า “ต้องไปถามท่านเอง แต่ท่านก็เป็นกรรมการเยอะ เป็นอันโน่นอันนี้ ลองไปถามท่านดู ว่าท่านทำงานอะไรบ้าง”
เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าเงินที่มีมาที่ไป นางสุกัลยา ตอบว่า “คงอย่างนั้นมั่งค่ะ ถึงตอนนี้ คงจะไม่ได้ไปโกงใครหรืออะไรมา”
เมื่อถามถึง วงเงินจำนวน 1 ล้านบาท ของ นางสุกัลยา ที่เพิ่มขึ้นมา จากสมัยที่ พล.อ.สนธิ ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกฯ นางสุกัลยา ตอบว่า เป็นรายได้จากการขายที่ดิน
เมื่อถามถึงการไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ของ นาง ปิยะดา บุญยรัตกลิน ภรรยาคนที่สอง นางสุกัลยา ตอบว่า “ก็เขาเป็นภรรยาหรือเปล่าละค่ะ”
เมื่อถามว่า ทำไมในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง รองนายกฯ ถึงแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ของ นางปิยะดา ได้ นางสุกัลยา ตอบว่า “คงไม่เกี่ยวกันมั่งค่ะ”
เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กับ นางปิยะดาหรือ นางสุกัลยา ตอบว่า “น่าจะต้องแจ้งชื่อภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียว จะไปแจ้งอะไรเยอะแยะ”
“จริงแล้ว เขา (นางปิยะดา) ไม่ได้เป็นภรรยา เขาจะต้องแจ้งทำอะไรละค่ะ ถ้าจะต้องแจ้งทุกคน ก็คงจะโผล่กันมาเยอะแยะ”
เมื่อถามว่า หมายถึงจำนวนภรรยา ของพล.อ.สนธิ ใช่หรือไม่ นางสุกัลยา ตอบว่า “หมายถึง ภรรยา ของทุกคนที่มีนะค่ะ”
เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.สนธิมีภรรยาเยอะหรือ นางสุกัลยา ตอบว่า “ไม่ใช่ค่ะ (หัวเราะ) หมายถึงคนอื่นๆ ด้วย เพราะคงไม่ได้มีท่านอยู่คนเดียวที่มีอย่างเนี่ยมั่ง”