ชมรมผอ.รพ.ชุมชน หนุนขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ เลิกใช้สารเคมีพิษในประเทศ
ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนฯ เเถลงการณ์หนุนพร้อมให้กำลังใจ 'วิวัฒน์ ศัลยกำธร' รมช. กษ. ขับเคลื่อนนโยบายเกษตรอินทรีย์ เลิกใช้สารเคมีอันตรายในประเทศ หวังผู้มีอำนาจตัดสินใจโดยเห็นเเก่สุขภาพปชช.
วันที่ 31 ส.ค. 2561 ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ สนับสนุนให้มีการยกเลิกสารเคมีพาราควอต คลอร์ไพริฟอส เเละไกลโฟเซต ดังนี้
จากการที่นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังจากประชุมคณะกรรมการอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ว่า รัฐบาลชุดนี้ตั้งใจผลักดันให้เกิดพื้นที่เกษตรอินทรีย์ โดยมีเป้าหมาย 5 ล้านไร่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศชัดเจนว่า “เรื่องสุขภาพของประชาชนต้องมาก่อน” โดยเน้นให้ประชาชนได้บริโภคอาหารจากผลผลิตจากวัตถุดิบอินทรีย์ ปลอดภัยไม่มีสารพิษ การใช้ปุ๋ยยาจากสารเคมี โดยเฉพาะเด็กนักเรียน 12 ล้านคนทั่วประเทศ ต้องกินอาหารไม่มีสารพิษ แม้แต่ไนโตรเจนในปุ๋ยเคมี เนื่องจากมีผลต่อการพัฒนาสมองและไอคิวของเด็กซึ่งสุขภาพของเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องได้รับการดูแลเนื่องจากเป็นทรัพยากรของประเทศที่ต้องเติบโตเพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องอีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ป่วยที่เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลจำนวน 7 ล้านคนต่อวัน ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารจะต้องเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่มีความซื่อสัตย์ สุจริตโปร่งใส สำหรับปัญหาสารพิษ 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คอร์ไฟริฟอส ไกลโฟรเซต โดยมีจุดยืนคือไม่มีคำว่าลดหรือควบคุมการใช้ ต้องเลิกใช้เท่านั้น
นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์ภาควิชาประสาทวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่าตนเองเป็นแพทย์รักษาผู้ป่วยรับรู้เพียงปลายทางว่าสารพิษเหล่านี้ทำให้เกิดโรคร้ายแรงที่รักษาไม่หาย เกษตรกรเจ็บป่วยจากสารเคมีมากกว่า 40 ปี เห็นผู้ป่วยต้องถูกตัดแขนตัดขา ซึ่งที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลมาตลอดว่าไม่เกี่ยวกับสารเคมีดังกล่าวข้างต้นใช้ได้ โดยไม่ได้ออกมารับผิดชอบความเจ็บป่วยของคนไทย และในขณะนี้สภาพเพศของเด็กเปลี่ยนไปเพราะการเหนี่ยวนำของสารไปสู่สมองไปปิดกั้นการพัฒนาในจุดที่ควรพัฒนาความเป็นชาย เป็นหญิง จะพบว่าผู้ชายน่ารักบอบบางมากขึ้นทุกวัน รวมทั้งเด็กๆ จะพบว่ามีปัญหาไอคิวต่ำลง คนป่วยล้นโรงพยาบาล (จากการทำวิจัยมา 40 ปี)
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทยเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และไม่สามารถนิ่งเฉยอยู่ได้ จึงขอสนับสนุนและให้กำลังใจให้นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ให้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนชาวไทย ซึ่งในขณะนี้โรงพยาบาลชุมชนบางแห่งที่มีพื้นที่พอเพียงสำหรับการปลูกผักอินทรีย์โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีใดๆ เพื่อนำมาประกอบอาหารให้ผู้ป่วยรับประทาน และมีความพยายามที่จะขยายจำนวนโรงพยาบาลชุมชนให้ปลูกผักอินทรีย์ให้มากขึ้น
สุดท้ายนี้ทางชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในครั้งนี้จะเห็นแก่สุขภาพที่ดีของประชาชนชาวไทยมากกว่าสิ่งอื่นใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้มีมติห้ามใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด โดยเด็ดขาด ในพืชผักสวนครัว สมุนไพร และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ เช่น แหล่งต้นน้ำ แหล่งชุมชน
ส่วนในพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่จำเป็น เช่น อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยังอนุญาตให้ใช้ได้เช่นเดิม โดยกระบวนการหลังจากนี้ กรมวิชาการเกษตรจะเร่งออกฎหมายบังคับใช้ต่อไป คาดว่าเร็วที่สุดภายใน 3 เดือน
อ่านประกอบ:มติ คกก.วัตถุอันตราย ไม่แบน 3 สารเคมีพิษ ในพืชเศรษฐกิจ อ้อย-ปาล์ม-ข้าวโพด
ภาพประกอบ:https://www.thairath.co.th/content/1080234