'นักการเมือง'ชี้แก้ไพรมารีหวังหนุนพลังดูด ซัดปลดล็อกหรือไม่ค่าเท่ากัน
วงเสวนา ถกการเมืองไทย ถนนสู่การเลือกตั้ง พรรคการเมืองประสานเสียงเลือกตั้งควรเกิดภายในกลางปี 62 “อ๋อย”เผยคลายล็อกเอื้อพรรคตั้งใหม่-ประโยชน์คสช. ชี้แก้ไพรมารีโหวตหนุนพลังดูด “อนุทิน” ชี้คำสั่งคสช.ไม่เป็นปัญหาต่อ “ภูมิใจไทย” บอก ปลดล็อกหรือไม่ปลดล็อกมีค่าเท่ากัน
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงาน งาน 'Thailand Focus 2018: "The Future is Now" โอกาสการลงทุน...ไม่ต้องรออนาคต พร้อมมีการจัดงานเสวนาในหัวข้อ Political Roadmap: The Election Ahead (การเมืองไทย ถนนสู่การเลือกตั้ง) โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง พรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีไม่กี่คนที่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้ง รัฐบาลบอกว่าจะจัดได้เร็วที่สุดคือวันที่ 24 กพ.หรือในช่วงระหว่าง ก.พ.-พ.ค. แต่ที่รู้สึก คือรัฐบาลดูไม่มีท่าทีรีบร้อนอะไร แต่ระหว่างนี้ ในฐานะพรรคการเมือง เราก็ดำเนินการบางอย่างที่จำเป็นต้องทำ โดยไม่ละเมิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตนไม่กังวลเรื่องกฎหมายพรรคการเมืองมากนัก เพราะเรื่องที่เห็นว่าจำเป็นกว่าคือต้องมีกฎหมายที่เหมาะสมกับการความต้องการของประเทศ เช่นประเด็นเรื่องระบบสวัสดิการสังคม สวัสดิการสำหรับคนสูงอายุ ประเด็นเรื่องของเศรษฐกิจทำอย่างไรให้ประเทศพัฒนาและก้าวต่อไป จะดำเนินการเรื่องความสัมพันธ์กับทั่วโลกอย่างไร เมื่อเกิดการเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังคงกระตือรือร้นในการที่จะเรียนรู้ปัญหาของประชาชน เศรษฐกิจของเราตอนนี้กำลังต้องการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริการจัดการ ต้องพยายามคิดเรื่องการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียมมาก่อนสิ่งอื่นใดนโยบายของเราคือ พยายามผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ และกระจายอำนาจออกไป เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะเข้ามามีส่วนร่วม หากไม่จัดเลือกตั้งในครึ่งปีแรก ประเทศจะมีความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงของประเทศ เราจับความรู้สึกได้ว่าประชาชนเริ่มไม่พอใจกับสภาพเศรษฐกิจเป็นอยู่ตอนนี้ จากการสำรวจรายได้ครัวเรือนพบว่า มีบางจังหวัดที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากภาคเกษตร แต่รายได้กลับลดลงกว่า 30% ฉะนั้นรัฐบาลไม่ควรเพิกเฉยต่อสัญญาณความไม่พอใจเหล่านี้ของประชาชน สิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญด้วยคือ ต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม จึงจะทำให้ประเทศเดินต่อไปได้
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. )จะคลายล็อกให้พรรคการเมือง สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ว่า ตนคิดว่า เป็นเพียงการคลายล็อกบางเรื่อง มีเรื่องที่สำคัญกว่า คือการทำนโยบายพรรคการเมืองต้องทำล่วงหน้า ไม่ใช่จะให้ไปทำในช่วงใกล้หาเสียง เพราะต้องมีการประชุมหารือกับสมาชิกพรรค และบุคคลในอาชีพต่าง ๆ รวมถึงรับฟังความเห็นประชาชน ดังนั้นถ้า คสช. ไม่คลายล็อกคำสั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ก็จะทำในสิ่งเหล่านี้ไม่ได้
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่า คสช. จะเน้นเรื่องที่จำเป็นเฉพาะพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่บางพรรค เพื่อให้พรรคเหล่านั้นทำอะไรทันในช่วงการเลือกตั้ง ดังนั้นการคลายล็อกดังกล่าวเป็นการตัดสินใจ การวางแผนกำหนดกติกา โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของ คสช.เท่านั้นหรือไม่ และมุ่งทำให้พรรคการเมืองเก่าที่มีอยู่อ่อนแอขาดการเชื่อมโยงกับประชาชน ตนจึงมองว่าไม่ได้เป็นการปฏิรูปการเมืองอย่างที่ คสช. กล่าวอ้าง ตรงกันข้ามกลับเป็นการทำลายระบบการเมืองของประเทศไทยให้ล้าหลังและเกิดความเสียหายหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ให้ให้ยึดแนวทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เลือกสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้ง แทนการทำไพรมารีโหวตแบบเก่าของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การทำไพรมารีโหวตถือเป็นความตั้งใจดี ที่ให้สมาชิกทุกพรรคที่มาจากทั่วประเทศมีส่วนร่วมในการคัดเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ไปวางระบบให้ซับซ้อนและไม่ตรงกับเจตนารมณ์จริง ๆ รวมถึงจะทำให้เกิดความปั่นป่วนในการสมัครแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งจะทำให้คนที่จะสมัครแบบเขตเลือกตั้งกลายเป็นตัวแทนของคนกลุ่มเล็ก ๆ แทนที่จะเป็นคนในระดับประเทศ
“เมื่อเจอปัญหาแบบนี้ก็ต้องแก้ไขแต่ไม่ได้แก้ให้มีผลดีกับพรรคการเมืองโดยรวม แต่เป็นการแก้เพื่อเอื้อพรรคการเมืองที่สนับสนุนคสช.” นายจาตุรนต์ กล่าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่คสช.คลายล็อก 6 ข้อ ใน 9 เรื่อง ว่า เป็นทิศทางที่ดีที่ทำให้ประชาชน และต่างประเทศมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่น แนวแน่ที่จัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นตามโรดแม็พ ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี
เมื่อถามว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 2562 จริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องคิดตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามที่ตนคำนวณสามารถไปได้ถึงเดือนพ.ค. ไม่มีใครอยากทำอะไรที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ให้หมดตัวช่วยก่อนเดี๋ยวเลือกตั้งก็มาเอง เราบอกตัวเองว่าถ้าพรุ่งนี้เลือกก็พร้อม เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคได้มีการเตรียมตัววางแนวคิดต่าง ๆว่านโยบายจะออกมาอย่างไร แต่นโยบายของเราคงไม่ได้ล้อกับยุทธศาสตร์ 20 ปี เพราะปัญหาของประเทศไทยตอนนี้ต้องมีอะไรที่เป็นตัวฉุดกระชากก่อน หลังจากที่มีรัฐบาลใหม่แล้ว ต้องเป็นนโยบายที่ได้ทำ ทำเร็ว และทำเลย สำหรับความพร้อมในด้านสมาชิกพรรคเราก็พอมองเห็นว่ามีผู้ให้ความนิยม และพร้อมที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคมากเท่าใด และมาจากไหนบ้าง ส่วนเรื่องการทำไพรมารีโหวตถ้ามีก็ได้ ไม่มีก็ดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ไม่ได้กังวลในเรื่องพวกนี้ คนที่เป็นนักการเมืองต้องคิดว่า หากหาคนนิยมเพียง 200 คน ไม่ได้ก็ไม่ต้องฝันไปหาความนิยมจนเป็นฝ่ายชนะ ยังไม่ได้ยินใครมาบ่นว่าจะเป็นปัญหาต่อตัวเขาเองในเขตตอนลงเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า แปลว่าคำสั่งของคสช.ไม่ได้มีผลต่อพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ตนว่าไม่มี ทั้งนี้ที่คลายล็อกก็เพียงทำให้ทุกอย่างเป็นทางการมากขึ้น ประชุมพรรคได้ ทุกอย่างทั้งหมดมาถูกปิดที่ข้อสุดท้าย คือ ห้ามหาเสียง พูดมา 8 ข้อ พอข้อ 9 บอกว่า ห้ามหาเสียงจะปลดไม่ปลดก็คงเหมือนกัน เอาไว้หาเสียงได้แล้วค่อยว่ากัน ตนคิดว่าพรรคทุกพรรคก็คงชินชาแล้ว
เมื่อถามว่า ช่วงเวลาที่เหลือคิดว่าจะทันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องทัน เขาคงไม่คลายวันนี้แล้วเลือกตั้งพรุ่งนี้หรอก ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าพรรคใหม่ๆ เป็นอย่างไร แต่พรรคเก่าแก่เขามีประสบการณ์ในการเลือกตั้งมาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยครั้งแล้ว เดินไปไหนเจอใครก็ยังไม่มีใครมาบ่นว่าต้องเร็ว เตรียมไม่ทัน ทุกคนก็บอกว่าพร้อมหมด ขอให้มีการเลือกตั้ง.
ที่มาข่าว:https://www.dailynews.co.th/politics/663466