กระทงกุรบ่าน...รายอรักษ์โลกแบบไทยๆ กับสายธารน้ำใจสู่ชายแดนใต้
มุสลิมทั่วโลกและในไทยร่วมฉลองวันอีดิ้ลอัฎฮาพร้อมกัน และร่วม "กุรบ่าน" หรือ "เชือดสัตว์" เพื่อเป็นทานแก่พี่น้องร่วมโลก
สำหรับพี่น้องมุสลิมที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญนี้ยาวถึง 3 วัน เพื่อเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง และแจกจ่ายเนื้อกุรบ่านกันอย่างทั่วถึง ทั้งยังมีแนวคิดเก๋ๆ ทำกระทงใส่กุรบ่านเพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก ตอบรับกระแสรักษ์โลก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
วันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1439 ตรงกับวันพุธที่ 22 ส.ค.61 เป็นวันที่มุสลิมทั่วโลกร่วมเฉลิมฉลอง และขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าให้กับผู้ที่ไปแสวงบุญ ประกอบพิธีฮัจญ์ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ชาวไทยมุสลิมจึงนิยมเรียกเทศกาลนี้ว่า "วันรายอฮัจญ์" และชาวมุสลิมที่มีกำลังความสามารถ มีทุนทรัพย์มากพอ ก็จะทำ "กุรบ่าน" หรือการเชือดสัตว์ใหญ่ เพื่อนำเนื้อมารับประทานและแบ่งปันให้ผู้ยากไร้
สำหรับพิธีละหมาดวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา ถือเป็นศาสนกิจที่สำคัญที่สุดซึ่งมุสลิมทุกเพศทุกวัยจะต้องไปร่วมกันละหมาดที่มัสยิดใกล้บ้านหรือในสถานที่ที่จัดไว้ให้ เมื่อพิธีละหมาดเสร็จสิ้น โต๊ะอิหม่ามได้บรรยายธรรม จากนั้นมุสลิมจะขอมาอัฟ หรือขออภัยกับเรื่องราวใดๆ ที่เคยกระทำล่วงล้ำก้ำเกินระหว่างกัน ไม่ว่าจะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เสร็จแล้วพี่น้องมุสลิมที่ชายแดนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับครอบครัวและญาติพี่น้อง เพื่อแสดงความรักความห่วงใยที่มีต่อกัน และกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น ณ เวลานั้นเอง การทำ "กุรบ่าน" ก็จะเริ่มต้น
การทำกุรบ่าน หรือการเชือดสัตว์พลีทาน ผู้มีศรัทธาและมีความสามารถด้านทรัพย์สินสามารถทำได้ทุกคน สัตว์ที่ศาสนาอนุญาตให้ทำ คือ วัว ควาย แพะ แกะ และอูฐ เนื้อสัตว์พวกนี้ หลังทำกุรบ่าน คือ เชือดเพื่อเป็นทานแล้ว จะถูกแจกจ่ายให้กับคนยากจน แม่หม้าย เด็กกำพร้า คนด้อยโอกาส หรือบุคคลที่เห็นว่าควรได้รับ ถือเป็นสิ่งดีๆ ที่ชุมชนมุสลิมมอบให้กัน และเป็นการปฏิบัติตามซุนนะห์ของท่านนบี และคำสอนของอัลลอฮ์ ดังที่พระองค์ตรัสในอัลกุรอาน บทอัลเกาษัร โองการที่ 2 ความว่า "เจ้าจงละหมาดเพื่อพระเจ้าของเจ้า และจงเชือดสัตว์พลี"
"กุรบ่าน" ไม่ใช่การบูชายัญ หรือเซ่นไหว้สังเวยต่ออัลลอฮ์ เพราะอัลลอฮ์ไม่กินไม่ดื่ม ไม่ต้องการสิ่งใด แต่การทำกุรบ่าน เป็นทานมอบให้แก่เพื่นอมนุษย์ ถือเป็นการแสดงออกเพื่อหวังในความโปรดปราน ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ทำกุรบ่านจำเป็นต้องบริสุทธิ์ใจ ปฏิบัติเพื่อแสวงหาความพึงพอใจของอัลลอฮ์ ไม่มีการโอ้อวด หยิ่งผยอง
การแจกเนื้อกุรบ่าน มีทัศนะว่าให้แจกแบ่งเนื้อเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเก็บไว้กินเอง ส่วนที่ 2 มอบให้คนรอบข้าง คนรู้จัก ญาติพี่น้อง และส่วนที่ 3 มอบให้คนจน เด็กกำพร้า หญิงหม้าย ผู้ด้อยโอกาส แต่ใครจะแบ่งแค่ 2 ส่วน โดยมอบให้ผู้อื่นทั้งหมดก็ไม่เป็นปัญหา หรือเหลือเก็บไว้เล็กน้อยเพื่อรับประทานเองก็ทำได้เช่นกัน
ทุกปีเมื่อมีการแจกจ่ายเนื้อกุรบ่านที่แบ่งเป็นสัดส่วนเอาไว้แล้ว มักจะใส่ในถุงหิ้วหรือถุงพลาสติกขนาดต่างๆ ก่อเกิดขยะพลาสติกจำนวนมาก ทำให้ นาวาฬ แลนิ วิสัญญีแพทย์ โรงพยาบาลปัตตานี และประธานชมรมจิตอาสา CPR กลางแจ้งปัตตานี เริ่มปฏิบัติการ no plastic bags จากการแจกเนื้อกุรบ่านในปีนี้ ด้วยการใส่เนื้อในกระทง
"ทำกระทงตั้งไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน พับจากกระดาษห่อข้าวแบบไม่มีพลาสติกฉาบ เอาแป้งมันผสมน้ำตั้งไฟ ทำแป้งเปียกทาให้ติดแน่นๆ ตั้งใจจะใช้ใบตองรองข้างล่าง แต่รอบบ้านไม่มีต้นกล้วย เลยใช้ใบต้นลองกองหน้าบ้านแทน ใบมันใหญ่ดี พอดีกับกระทง ใส่เนื้อพอดีชิ้น ไม่รั่ว ไม่ซึม จัดใส่ตะกร้าหวาย ไปแจกเพื่อนบ้าน 40 หลังคาเรือน ส่วนญาติที่อยู่ไกลก็จัดใส่ถุงกระดาษให้ พื้นมันแข็ง ไม่ต้องรองใบไม้ แต่มีบางถุง ญาติมารับช้า น้ำเนื้อซึม ถุงกระดาษขาด ก็ได้เรียนรู้ไป" นาวาฬ เล่าประสบการณ์จะจุดเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยความตั้งใจจริงของตนเอง
นาวาฬ บอกด้วยว่า สิ่งที่ได้เริ่มต้นในปีนี้ นอกจากสามารถลดการเกิดขยะพลาสติก จำพวกถุงหิ้ว 40-50 ใบแล้ว เด็กๆ ยังได้สนุกกับการพับกระทงและจัดเนื้อใส่กระทง ทำแป้งเปียกด้วย
"ปีหน้าจะทำให้ดีกว่านี้ พี่ๆ น้องๆ จะได้กินเนื้อสดๆ ปลอดสารเคมีและปลอดพลาสติกกัน" นาวาฬ บอก
ควันหลงจากเทศกาลรายออีดิ้ลอัฎฮา ยังมีกิจกรรมดีๆ ที่คนในพื้นที่ร่วมกันจัดอีกหลายกิจกรรม อย่างเช่นที่โรงเรียนตาดีกาสอลาฮุดดีน ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา มีการจัดงาน "รวมพลังสามัคคี" ระหว่างโรงเรียนและหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งชาวบ้านทั้งพุทธและมุสลิม
ภายในงานมีกิจกรรมทั้งเดิน วิ่ง และการขับร้องเพลงอนาซีด อ่านอัลกุรอาน ฟุตบอลเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ วอลเลย์บอลหญิง กีฬาพื้นบ้าน และการแสดงอื่นๆ อีกมากมายจากน้องๆ นักเรียนตาดีกา โดยมีหน่วยงานภาครัฐจาก อ.ยะหา เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มเยาวชน กำนัน ต.ตาชี กำนัน ต.ยะหา และผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสมาชิกกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ เข้าร่วมกันอย่างครื้นเครง
นายแม เจาะเซาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนตาดีกาสอลาฮุดดี กล่าวว่า ขอบคุณทุกคน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ อำเภอ ทหาร และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บค.) ที่ช่วยสนับสนุนงานให้สำเร็จลุล่วง ทั้งยังมีผู้ใหญ่ใจดีมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ด้วย ส่วนใหญ่เป็นสื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ เช่น ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา, รายการล่าความจริง เนชั่นทีวี โดย คุณนลิน สิงหพุทธางกูร พิธีกร และ คุณสมสกุล ไซรลบ ผู้ช่วยบรรณาธิการ, คุณพงษ์พิพัฒน์ จินดาศรี จากนิวทีวี, คุณกรกฏ รามชัยเดช ทนายความ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ว่าที่เลขาธิการพรรคประชาชาติ
"ที่สำคัญต้องขอบคุณกำนัน ต.ตาชี ผู้นำในพื้นที่ รวมถึงชาวบ้านทุกคนที่ทำให้งานนี้สำเร็จ เด็กๆ มีความสุข แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีในพื้นที่" ผู้อำนวยการโรงเรียนตาดีกา กล่าว
ด้าน ด.ญ.นัสเราะ สาเมาะ นักเรียนตาดีกา บอกว่า สนุกมาก อยากให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ทุกปี บ้านเราไม่เคยมีกิจกรรมแบบนี้เลย ดีใจมาก ได้ของขวัญด้วย ได้ทุนการศึกษาจากนักข่าวและผู้ใหญ่ใจดีด้วย ได้กินไอศครีม และมีขนมกินอิ่มทั้งวัน
"ชอบแบบนี้ อยากให้เป็นแบบนี้ทุกวัน ทุกคนมาร่วมงาน ทุกคนยิ้ม ไม่ทะเลาะกันเลย และได้ร้องเพลงอนาซีดให้ผู้ใหญ่ได้ฟัง อยากขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำให้พวกเรามีความสุข"
-----------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1, 4 และ 5 เนื้อกุรบ่านในกระทง ไม่ใช้ถุงหิ้วพลาสติก (ขอบคุณ ภาพจากเฟสบุ๊ค Nawal laeni)
2 และ 3 พิธีละหมาดรายอฮัจญี กับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
6 และ 7 กิจกรรมรวมพลังสามัคคีที่โรงเรียนตาดีกา ใน อ.ยะหา จ.ยะลา