'หม่อมเต่า'นั่งหน.รปช. "สุเทพ"ไม่รับทุกตำแหน่ง
รปช.ตั้ง “หม่อมเต่า” นั่งหน.พรรค “สุเทพ” มั่นใจได้ร่วมรัฐบาล ลั่นไม่รับตำแหน่งใดๆ ขอเป็นพี่เลี้ยงดันคนรุ่นใหม่ แต่พร้อมเดินสายปราศรัยทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรค โดยม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ในฐานะประธานในที่ประชุมแจ้งว่า การประชุมพรรคในวันนี้จะนำไปสู่การจดทะเบียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อตั้งเป็นพรรคการเมืองตามกฎหมายต่อไป
จากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรค กล่าวว่า เราต้องการเห็นการปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน และเมื่อได้พิจารณาสถานการณ์ทางการเมืองรอบๆ แล้วเห็นว่า มีความจำเป็นต้องจัดตั้งพรรคการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าพร้อมกับการปฏิรูปประเทศ โดยเริ่มจากการพูดคุยจากกลุ่มเล็กๆ จนได้ข้อสรุปว่า ต้องตั้งพรรคการเมืองของประชาชนให้ได้ ไม่ได้เพื่อประโยชน์ของใคร แต่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งพรรคการเมืองนี้จะเป็นต้นแบบของพรรคการเมืองของประชาชนต่อไป อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของพรรคนี้คือ ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคที่กำหนดนโยบายพรรคการเมืองและเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง เป็นการลงคะแนนโดยตรงและประชาชนจะเป็นผู้กำกับควบคุมผู้บริหารพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของพรรคการเมือง ดังนั้น เป้าหมายใหญ่ของเราคือ การประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกัน มาร่วมกันเป็นเจ้าของพรรคการเมืองเพื่ออนาคตของประเทศไทย
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า พรรคเราถือหลักว่าประชาชนเป็นผู้กำหนดทิศทาง นักการเมืองมีหน้าที่ทำความฝันของประชาชนให้สำเร็จ ที่สำคัญ พรรคต้องมีวินัยและจริยธรรม จึงต้องมีกรรมการวินัยและจริยธรรมเพื่อคอยกำกับนักการเมือง รับรองว่าไม่ต้องรอให้นักการเมืองไปสร้างความเสียหายเกิดขึ้น แต่เราจะควบคุมกันเองก่อนทันที ซึ่งทั้งหมดเตรียมการเอาไว้แล้ว แต่ยังทำอะไรมากไม่ได้ เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ให้ทำกิจกรรมทางการเมือง จึงจำเป็นต้องรอคสช.ก่อน จากนั้นจะเดินหน้าทันที ทั้งนี้ การเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว มีหลายเรื่องที่เราต้องทำ เช่น การตั้งสาขาพรรค การเตรียมตัวผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อและส.ส.เขตเลือกตั้ง รวมไปถึงการทำไพรมารีโหวต ยืนยันว่าทุกเขตเลือกตั้งของพรรคจะต้องมาจากการทำไพรมารีโหวต เรียกว่าประชาชนเป็นคนกำหนดตัวผู้สมัครของพรรค เช่นเดียวกับส.ส.บัญชีรายชื่อ ตกลงกันแล้วว่าจะให้มีจำนวนชายและหญิงเท่ากัน แต่ทั้งหมดจำเป็นต้องจัดตั้งพรรคให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน
“ผมยังยืนยันว่า ภูมิใจที่จะยืนเคียงข้างพรรคการเมืองนี้ และจะทำงานอย่างทุ่มเทกับทุกคน ผมตั้งใจจะเป็นผู้รับใช้ประชาชนเพื่อสร้างพรรคการเมืองนี้ อีกทั้งจะไม่ลงสมัครส.ส.ทั้งระบบแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ แต่ผมจะขึ้นเวทีปราศรัยช่วยพรรคทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าพรรคเราจะได้เป็นรัฐบาล ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่หมอดู แต่ด้วยความที่อยู่ในการเมืองมานาน และพรรคเราเป็นพรรคของประชาชนแท้จริง ใครๆ ก็อยากคบด้วย และภายหลังการเลือกตั้งไม่มีรัฐบาลพรรคเดียวแน่นอน แต่จะเป็นรัฐบาลผสม ถึงเวลานั้นก็รอรับขันหมากได้เลย นอกจากนี้ ผมจะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล ผมจะสนับสนุนนักการเมืองรุ่นใหม่ให้ขึ้นมาทำหน้าที่ โดยผมจะทำหน้าที่เป็นโค้ชและพี่เลี้ยง และนำประสบการณ์ของผมกว่า 40 ปีไปช่วยงานต่อไป เป็นการตอกย้ำว่าผมเองยังรักษาคำพูด และการตั้งพรรคการเมืองนี้ไม่ได้หวังประโยชน์ส่วนตัวเพราะตั้งใจรับใช้ประชาชน”นายสุเทพกล่าว
จากนั้นนายสุเทพได้เสนอ 7 รายชื่อหัวหน้าและกรรมการผู้บริหารพรรค โดยมีมติเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคดังนี้ 1.ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหัวหน้าพรรค ด้วยคะแนนเสียง 331 คะแนน ทั้งนี้ ได้มีผู้ร่วมจัดตั้งพรรคเสนอชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นแคนดิเดทในตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย แต่นายเอนกประกาศขอถอนตัว โดยระบุว่าม.ร.ว.จัตุมงคลมีความเหมาะสมมากกว่า 2.นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง อดีตอัยการ เป็นเลขาธิการพรรค ด้วยคะแนนเสียง 328 คะแนน 3.น.ส.จุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ เป็นเหรัญญิกพรรค ด้วยคะแนนเสียง 326 คะแนน 4.ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ อาจารย์ประจำสถาบันอาชญาวิทยา และการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นนายทะเบียนพรรค ด้วยคะแนนเสียง 315 คะแนน 5.พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ เป็นกรรมการบริหารพรรค ด้วยคะแนนเสียง 327 คะแนน 6.นายวีระชัย คล้ายทอง อดีตอัยการ เป็นกรรมการบริหารพรรค ด้วยคะแนนเสียง 326 คะแนน และ7.นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ เป็นกรรมการบริหารพรรค ด้วยคะแนนเสียง 324 คะแนน ทั้งนี้ มีผู้มาร่วมประชุมทั้งหมด 339 คน
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้จะทำหน้าที่ไปจนกว่าจะมีการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งแรก จากนั้นจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดถาวร โดยส่วนตัวอยากให้มีสมาชิกพรรคประมาณ 5-6 แสนคนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรค.
ที่มาข่าว: https://www.dailynews.co.th/politics/658880