นายกฯลั่นไม่เคยบ้าอำนาจ ขู่มีรมต.อ้างชื่อปลดออกทันที
นายกฯ ลั่นไม่เคยบ้าอำนาจ แต่ต้องการสร้างแนวร่วมทางความคิด ขู่มีรมต.คนไหนอ้างชื่อ เรียกรับผลประโยชน์ปลดออกทันที ยืนยันครอบครัวไม่เคยทำธุรกิจ
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Thailand Industry Expo 2018 โดยกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ตนเองทำมาไม่อยากให้มองเป็นเพียงพิธีกรรม และหวังผลทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนในวันนี้และในวันข้างหน้า มุ่งเน้นพัฒนาทุกด้านโดยอุตสาหกรรมต้องช่วยเหลือเกษตรกรได้ด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความขัดเแย้ง ประชาธิปไตยจะถูกนำมาเคลื่อนไหวอีก ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้นต้องสร้างภาพจำประเทศของเราใหม่ โดยทำให้ทุกองค์กร ข้าราชการ เกษตรกรและประชาชนมีความสุข ไม่ใช่ปะทะกันไปเรื่อยๆ จึงต้องรักษากติกาไว้ให้ได้ อีกทั้งขณะนี้เรากำลังมีการปฏิรูปประเทศและเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ หากอยากรู้สิ่งเหล่านี้คืออะไรขอให้ฟังตนพูดคืนวันศุกร์ จะได้รู้ว่าเดินหน้าประเทศอย่างไร และไม่ใช่ไปฟังอีกฝ่ายตลอดเวลา นอกจากนี้พรรคการเมืองไม่ใช่ประกาศนโยบายพรรคออกมา แต่ดูเหมือนไม่ได้ทำเพื่อคนทั้งประเทศ ซึ่งการหาเสียงต่อไปต้องไม่ทำแบบนี้อีก ต้องสร้งการเมืองที่ถูกต้องมีธรรมาภิบาล วันนี้ว่าจะไม่พูดเรื่องการเมืองอีก ตั้งใจจะพูดแต่เรื่องงานเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้อาจจะพูดนอกเรื่องไปบ้างคงไม่มีใครเสียอารมณ์ ตอนเช้าทำได้หมดไม่มีบ่นเพราะนายกฯ ไม่เป็นศัตรูกับใคร บางทีก็บ่นกับพวกเราแต่ก็ยังเห็นรอยยิ้มอยู่ บ่นไปขำๆ แต่ไม่ได้มีอะไรตนยังแข็งแรง 100% อย่างมากก็เป็นหวัดนิดหน่อย ซึ่งการทำความดีไม่ต้องกลัวใคร จึงขอให้ทำความดีกันไว้ ฟังเพลงคนดีไม่มีวันตาย ฟังไปแล้วจะรู้สึก ถ้าไม่คิดแบบตนคิด และฟังเพลงนี้ไม่รู้สึกก็ใช้ไม่ได้ ทั้งนี้คนไทยชอบฟังเพลง โดยเฉพาะเพลงสนุกสนาน อย่างเพลงผู้สาวขาเลาะ แล้วไปเต้นกันทั่วถนนแล้วแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยมีเด็กเล็กๆ ด้วย ซึ่งสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ดังนั้นต้องช่วยกันแก้ไขเพราะเป็นปัญหาสังคม
"วันนี้ที่ผมพูดมีใครไม่เห็นด้วยบ้าง ใครเห็นด้วยให้ยกมือขึ้น คงไม่มีนายกฯ คนไหนบ้าถามแบบนี้ถาม เขาหาว่าผมบ้าอำนาจ มันไม่ใช่ แต่ต้องการสร้างแนวร่วมทางความคิด สิ่งที่ผมพูดมาตลอด 4 ปี ไม่มีอะไรไม่ดี เพราะพยายามวาดความฝันเหมือนประชาชนคนหนึ่ง และพยายามคิดแทนประชาชนทุกกลุ่ม ว่าเขาต้องการอะไร และตลอด 4 ปีที่ผ่านมาผมพูดมามาก โดยมีบางบริษัทถอดคำพูดว่า ผมพูดมาทั้งหมด 8 ล้านกว่าคำ ไม่สงสารผมบ้างหรอ เพราะที่ผมพูดมาทั้งหมดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศ และที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนพูดแบบนี้ ผมจำได้ ผมเป็นทหารมา 40 ปี และเป็นผู้บัญชาการทหารบกมา 4 ปีไม่มีรัฐบาลไหนพูดแบบนี้ แต่รัฐบาลนี้ยิ่งพูดยิ่งทำยิ่งโดนด่า ไม่รู้ว่ามีผลกระทบอะไรต่อบุคคลใด วันข้างหน้าต้องเป็นรัฐบาล ที่ดูแลคนทั้งประเทศ และเสียงส่วนใหญ่และเสียงส่วนน้อย เพราะเป็นสิ่งที่จะนำพาประเทศสู่ความยั่งยืน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาตนได้ไปร่วมงานหลายงานและพูดในหลายเรื่อง พูดจนเวียนหัวแต่ก็พูดได้ เพราะอ่านหนังสืออ่านมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากไม่อ่านก็ไม่รู้เรื่องและเป็นนายกฯ ไม่ได้ ขอให้จำเอาไว้ อย่างไรก็ตามความขัดแย้งในประเทศต้องไม่เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้ใครทั้งสิ้น และไม่เคยมีธุรกิจหรือบริษัท ภรรยาและลูกของตนก็ไม่มีเช่นเดียวกัน หากใครไปอ้างว่าตนให้ไปพบ ไม่มีแน่นอน หากมีการอ้างจริงขอให้ส่งข่าวมายังตนได้ และหากรัฐมนตรีคนไหนให้ไปพบจะปลดออกทันที พบไม่ได้ทั้งนั้น ทุกวันนี้มีการอ้างกันจำนวนมากและมีคนเชื่อ รองนายกฯ ก็โดน เช่นมีการไปอ้างว่าช่วยเหลือเรื่องคดีได้แล้วให้จ่ายเงินจำนวน 5 ล้านบาท ไปเชื่อกันได้อย่างไรตนไม่เข้าใจทำไมเชื่อกันง่ายนัก
ที่มาข่าว:https://www.dailynews.co.th/politics/658431