กยศ.ยกระดับทวงหนี้เข้มข้น หลัง 23 ศิษย์แสบทำ 'ครูวิภา' โดนยึดบ้าน
23 ศิษย์แสบเบี้ยวหนี้กยศ.ทำ "ครูวิภา" โดนฟ้องบังคับคดีอ่วม รอลุ้น บอร์ดกยศ.พิจารณายกหนี้ในส่วนของผู้ค้ำประกันเป็นหนี้ของผู้กู้ฝ่ายเดียว
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2561 นางเพ็ญรวี มาแสง ผู้อำนวยการกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี เปิดเผยถึงผลการไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กับ น.ส.วิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ถูกยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด ซึ่งเป็นผลจากการค้ำประกันหนี้กยศ.ให้กับนักเรียนว่า ครูวิภาให้ข้อมูลว่าได้เซ็นค้ำประกันหนี้กยศ.ให้กับนักเรียนมากถึง 60 ราย ปรากฏว่าลูกศิษย์จำนวน 23 ราย ไม่ชำระหนี้เงินกู้ให้กับกยศ. จนนำไปสู่การฟ้องและบังคับคดีเอากับผู้ค้ำประกัน ที่ผ่านมาครูวิภาได้นำเงินไปชำระหนี้ให้กับกยศ.ตามหมายบังคับคดีแล้ว 3 คดี กระทั่งมีหมายบังคับคดียึดบ้านและที่ดินในจ.กำแพงเพชรอีกครั้ง โดยมีกำหนดขายทอดตลาดใน ส.ค.นี้ ทำให้ครูไม่สบายใจและเป็นกังวลเพราะไม่รู้ว่าจะถูกบังคับคดีอีกกี่ครั้ง และจะต้องหาเงินอีกเท่าไรจึงจะชำระหนี้แทนลูกศิษย์ครบทั้งหมด
นางเพ็ญรวี กล่าวอีกว่า ผลการไกล่เกลี่ยในเบื้องต้นได้ข้อตกลงร่วมกันว่า กยศ. จะระงับการบังคับคดีและขายทอดตลาดในเดือนส.ค.นี้ไว้ชั่วคราว เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามตัวและทรัพย์ของลูกหนี้ รวมถึงผู้ค้ำประกันรายอื่นที่มีความสัมพันธ์เป็นญาติหรือผู้ปกครองของลูกหนี้. ทั้งนี้เพื่อรวบรวมทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด ก่อนนำมาหักกับส่วนที่ครูเป็นผู้ค้ำประกัน และกรณีที่มีการผ่อนชำระหนี้ต้องหักลบหนี้ในส่วนของผู้ค้ำประกันออกก่อน นอกจากนี้กยศ.ยังได้ขอข้อมูลลูกหนี้จากครูวิภาเพื่อส่งให้ฝ่ายกฎหมายออกติดตามและเร่งรัดหนี้สิน. หากครูวิภามีข้อมูลทรัพย์สินของลูกศิษย์ก็ขอให้ประสานข้อมูลให้กับกยศ.ด้วย อย่างไรก็ตาม หากท้ายที่สุดกยศ.ไม่สามารถตามทรัพย์จากลูกหนี้ได้จริงๆ จะแจ้งข้อมูลและบอกกล่าวล่วงหน้าให้ครูวิภาทราบก่อนที่จะบังคับคดีตามกฎหมาย
นางเพ็ญรวี กล่าวต่อว่า ภายหลังการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี. ครูวิภาสบายใจขึ้น ที่ผ่านมาเมื่อมีการฟ้องคดีครูวิภาเดินทางไปศาลทุกนัด ในชั้นไกล่เกลี่ยคดีที่ จ.กำแพงเพชร มีลูกหนี้เข้าร่วมการไกล่เกลี่ย 2. ราย ครูวิภาก็เข้าร่วมไกล่เกลี่ยในฐานะผู้ค้ำประกันด้วย สำหรับข้อเสนอของครูวิภาที่ขอให้กยศ.ยกหนี้ของผู้ค้ำประกันไปเป็นหนี้ของผู้กู้ฝ่ายเดียวนั้น ฝ่ายกฎหมายของกยศ.ไม่สามารถให้คำตอบได้ โดยจะนำเข้าหารือภายในที่ประชุมบอร์ดกยศ.
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/808600
