สนช.ห่วงใช้ม.44เว้นใช้ไพรมารีโหวตเลือกตั้งสมัยหน้าเสี่ยงขัดรธน.
สนช.ห่วงใช้ม.44เว้นใช้ไพรมารีโหวตเลือกตั้งสมัยหน้าเสี่ยงขัดรธน.และเจตนาปฏิรูปการเมือง
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมว่าด้วยพรรคการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)กล่าวถึงกระแสข่าวคสช.มีแนวโน้มใช้มาตรา44 คลายล็อก ยกเว้นการใช้ระบบไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งสมัยหน้า โดยให้หาวิธีการรูปแบบอื่นที่ให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมคัดเลือกผู้สมัครมารองรับแทนระบบไพรมารีโหวตไปก่อนว่า ยังไม่ได้ยินกระแสข่าวดังกล่าว แต่หากไม่มีการทำไพรมารีโหวตจะเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญและขัดต่อเจตนาของคสช.ที่ต้องการปฏิรูปการเมือง ยืนยันว่า ระบบไพรมารีโหวตไม่มีปัญหา แต่พรรคการเมืองมักคิดว่า จะมีเวลาหาสมาชิกพรรคไม่ทัน ซึ่งก็มีการผ่อนคลายเงื่อนไขการทำไพรมารีโหวต โดยให้พรรคการเมืองที่สามารถหาสมาชิกพรรคในจังหวัดได้ครบ 100 คน มีสิทธิส่งผู้สมัครได้ครบทุกเขตในจังหวัดนั้นๆ หากพรรคใดไม่สามารถหาสมาชิกในจังหวัดได้ครบ 100 คน ก็ไม่ควรได้ส่งผู้สมัครทั้งจังหวัด เพราะแค่สมาชิกทั้งจังหวัดแค่100 คน ยังหาไม่ได้ แสดงให้เห็นว่า ลงสมัครไปก็ไม่มีทางได้รับเลือกตั้ง เรื่องนี้ไม่เห็นพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์บ่นว่าทำไม่ทัน
พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า ส่วนที่ระบุให้หาวิธีรูปแบบอื่นที่สมาชิกพรรคได้มีส่วนร่วมคัดเลือกผู้สมัครมาใช้แทนระบบไพรมารีโหวตไปก่อนชั่วคราวนั้น รูปแบบที่มาแทนจะต้องดีกว่า ถ้าไม่ดีกว่าเอามาแทนไม่ได้ ยังไม่รู้เหมือนกันจะมีวิธีใดที่ดีกว่ามาใช้แทนได้ ถ้าใช้ไพรมารีโหวตรายภาคแทน จะกลับไปเหมือนเดิม ดูไกลเกินไปที่ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมคัดเลือกผู้สมัคร ในที่สุดทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิมคือ อำนาจการคัดเลือกผู้สมัครจะกลับไปอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคและนายทุนเหมือนเดิม ทั้งนี้การขยับจากการทำไพรมารีโหวตรายเขตมาเป็นรายจังหวัดถือว่า ผ่อนคลายเพียงพอแล้ว ไม่ควรทำไพรมารีโหวตระดับภาค ถ้าไม่มีการทำไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งสมัยหน้าจริงๆ ก็ต้องชี้แจงให้ได้ว่า จะไม่มีการปฏิรูปการเมืองแล้วใช่หรือไม่