บุฟเฟต์ผลไม้ที่สวนยายเหี้ยง ...ธรรมชาติหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตชายแดนใต้
สถานการณ์ภาพรวมที่ชายแดนใต้ในเดือนกรกฎาคม ต้องบอกว่าแทบไม่มีเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ ส่วนการวางระเบิดในสวนยางพาราที่เกิดขึ้นถี่ช่วงก่อนหน้านี้ ก็เริ่มห่างหายลงไป หลังจากฝ่ายความมั่นคงเพิ่มมาตรการเข้มในการดูแล
ปัญหาที่ชาวบ้านเจอกันหนักในตอนนี้ คือเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะผลไม้ ซึ่งในพื้นที่ปลูกกันมาก และมีผลผลิตออกมาเยอะมาก ทั้งทุเรียน มังคุด และเงาะ ที่ชายแดนใต้ราคาหน้าสวนจะถูกกว่าพื้นที่อื่น แม้เป็นพืชผลแบบเดียวกัน เพราะการขนส่งใช้ระยะทางไกล และมีอันตรายจากสถานการณ์ความไม่สงบ
นี่อาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งทียังไม่มีระบบ "ล้ง" เข้าไปรวบรวมผลผลิตแบบเหมาสวนเพื่อส่งขายจีน
จากปัญหาที่ชาวบ้านต้องเผชิญ หากให้นั่งรอหน่วยงานรัฐมาช่วยแก้ก็คงไม่ไหว ยายเหี้ยง การะเกตุ วัยเกือบ 90 ปี เจ้าของสวนผลไม้ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา จึงปิ๊งไอเดีย เปิดสวนแบบ "บุฟเฟต์" ให้ลูกค้าเข้าไปเลือกรับประทานผลไม้ ทั้งทุเรียนบ้าน เงาะ และมังคุด ทั้งเก็บเอง ปอกเอง กินเอง แบบไม่จำกัดเวลา กินเท่าไหร่ก็ได้ สนนราคาอยู่ที่ผู้ใหญ่คนละ 129 บาท เด็กคนละ 59 บาท เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น
บุฟเฟต์ผลไม้ที่สวนของยายเหี้ยง เริ่มเสาร์แรกเมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา และน่าจะมีเปิดบริการลักษณะนี้เป็นครั้งแรกของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมแรงร่วมใจกันทั้งพุทธและมุสลิม รวมทั้งกลุ่มรักษ์บ้านเกิด และกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ มีการประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปาก และโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย ทำให้มีประชาชนหลั่งไหลไปกินบุฟเฟต์และท่องเที่ยวที่สวนยางเหี้ยงเป็นจำนวนมาก บางคนไม่ได้อยู่ในยะลา แต่ข้ามจังหวัดมาจากปัตตานีก็ยังมี
ยายเหี้ยง ซึ่งปีนี้อายุเกือบจะ 90 ปีแล้ว แต่ยังควบจี๊ปคู่ใจเข้าสวนเองทุกวัน เล่าถึงวิธีการบริหารจัดการสวนผลไม้บุฟเฟต์ว่า ตี 5 ครึ่งจะขับจี๊ปเข้าสวนเพื่อเก็บทุเรียนไปขายให้กับแม่ค้าที่มารอซื้อในพื้นที่ก่อนรอบแรก เสร็จประมาณ 7 โมง จากนั้นยายจะรวบรวมทุเรียนที่หล่นจากต้น นำมากองรวมกันไว้ เพื่อเตรียมให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้กิน บางคนชอบไปเก็บเองจากต้น ก็ไม่มีปัญหา คุณยายไม่ขัดข้อง ส่วนเงาะกับมังคุดก็เช่นกัน ลูกค้าสามารถปีนขึ้นไปเก็บบนต้นมากินได้เองเลย
"ยายอยากให้ลูกๆ หลานๆ มาสัมผัสชีวิตชาวสวน จะได้รู้ว่ากว่าชาวสวนจะได้ผลไม้มาแต่ละอย่างมันไม่ง่ายเลย และอยากเปิดโอกาสให้กับคนที่ไม่มีสวน ได้เข้ามาสัมผัส ได้รู้ ได้เข้าใจ ที่สำคัญได้กินของสดจากสวนจริงๆ โดยไม่ต้องซื้อผ่านคนกลาง" ยายเหี้ยง บอกถึงความตั้งใจ พร้อมทั้งเล่าย้อนไปถึงต้นคิดการเปิดสวนบุฟเฟต์
"ปีนี้ราคาผลไม้โดยรวมค่อนข้างถูก ราคาหน้าสวนตกทุกวัน อย่างทุเรียนบ้าน วันนี้กิโลฯละ 15 บาท เงาะ 15 บาท มังคุด 8 บาท ลูกๆ หลานๆ จึงคุยกันว่าน่าจะทำบุฟเฟต์ เปิดให้คนมากิน หรือใครสนใจอยากซื้อกลับบ้านก็สามารถซื้อได้ในราคานี้เลย ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด"
คุณยายหัวใจแกร่ง ยังบอกด้วยว่า การจัดกิจกรรมแบบนี้ นอกจากเป็นการช่วยเกษตรกรที่ต้องเผชิญกับปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันแบบสังคมพหุวัฒนธรรมด้วย
"คนพุทธกับคนอิสลามจะได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างที่บ้านยายซึ่งเป็นคนพุทธ แต่หลานๆ จะพาเพื่อนที่เป็นอิสลามมาช่วยงานในสวน และพาคนที่มากินบุฟเฟต์ ชมสวน ชมธรรมชาติ"
ต.ตาชี อ.ยะหา ถือเป็นตำบลที่มีเสน่ห์น่าเที่ยว และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในตำบลนี้มีรถจี๊ปรุ่นสงครามโลกมากกว่า 200 คัน เพราะเมื่อก่อนมีการทำเหมืองแร่ ฝรั่งได้สัมปทานขุดแร่ ก็ซื้อรถจี๊ปเข้ามาขนแร่ พอเหมืองปิด ก็ขายรถจี๊ปให้ชาวบ้าน คนแถวนี้ก็เลยซื้อเอาไว้ใช้ขนผลผลิตทางการเกษตรและขับเข้าสวนยาง เพราะเป็นรถที่สมบุกสมบัน และไม่กินน้ำมัน สุดท้ายรถจี๊ปจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของคนตาชี และมีแบบนี้แห่งเดียวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ถัดจากสวนยางเหี้ยงไปไม่กี่กิโลฯ ก็จะถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแห่งใหม่ที่ชาวบ้านเพิ่งจะช่วยกันเปิดตัวและประชาสัมพันธ์ นั่นก็คือ "โต๊ะบีแด" หรือ "หินลานงาม" ซึ่งชาวบ้านแถบนี้เรียกกันว่า "ควนฟ้า" เพราะมีลานหินชมวิวได้ 360 องศา ทำให้หนุ่มสาวและนักเดินทางหลายคนพากันไปแตะขอบฟ้า ทั้งช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เส้นทางสายนี้จึงมีนักท่องเที่ยวผ่านไปมาอยู่แล้ว เมื่อยายเหี้ยงเปิดบุฟเฟต์สวนผลไม้ ทำให้สวนของยายกลายเป็นจุดแวะพักของนักเดินทาง
คอรีเยาะ เงาะตาลี เด็กสาววัย 15 ปี มาทำหน้าที่เป็น "จิตอาสา" คอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกใกล้เคียงให้กับนักชิมที่เข้าไปลิ้มรสบุฟเฟต์ผลไม้ของสวนยายเหี้ยง
"วันหยุดไม่ได้ไปไหน พวกเราก็ชวนกันมาช่วยแนะนำและให้ข้อมูลกับลูกค้าที่มากินบุฟเฟ่ต์ ทั้งแนะนำผลไม้ เช่น ทุเรียนต้นไหนอร่อย บางทีก็เก็บเงาะให้ลูกค้ากิน จากนั้นก็แนะนำให้เขาไปเที่ยวโต๊ะบีแด ซึ่้งอยู่ห่างออกไปแค่ 3 กิโลฯ พวกเราสนุกและมีความสุขที่ได้ทำแบบนี้"
คอรีเยาะเป็นเด็กมุสลิม และเป็นเพื่อนกับกลุ่มหลานยายเหี้ยงที่เป็นคนพุทธอย่าง นันทิชา เพ็ชรเล็ก อายุ 15 ปีเท่ากัน
"พวกเราจะเป็นมัคคุเทศก์จิ๋ว นำเที่ยวในพื้นที่ เราจะพาคนที่มาเทียวไปที่หินลานงาม ไปที่น้ำตกแกเดะ น้ำตกหาดทราย ช่วงนี้เป็นช่วงผลไม้ ที่ตาชีมีผลไม้เยอะ ก็เลยพาเขามากินบุฟเฟ่ต์ผลไม้ก่อนกลับบ้าน กิจกรรมของพวกเราจะทำกันเสาร์-อาทิตย์ เพราะวันอื่นเราก็จะแยกย้ายกันไปโรงเรียน เพื่อนบางคนเรียนปอเนาะ บางคนเรียนอยู่ปัตตานี มันทำให้วันหยุดของพวกเราทุกสัปดาห์มีค่ามากกว่าเล่นเฟสบุ๊คหรือเล่นไลน์" เป็นเสียงจาก นันทิชา คนรุ่นใหม่ที่ชายแดนใต้
ขณะที่ลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่แวะไปชิมบุฟเฟต์ผลไม้ ต่างพากันประทับใจ แวรอบิยะ บุญเรือง เป็นหนึ่งในนั้น และเป็นคนที่โทรศัพท์มาสอบถามเส้นทางทันทีหลังทราบข่าวว่าสวนยายเหี้ยงเปิดบุฟเฟต์ผลไม้
"เรารอมานานแล้วให้มีแบบนี้ที่บ้านเรา ไม่ต้องไปกินแถวจันทบุรี ระยอง หรือภาคอื่นๆ" แวรอบิยะ บอก และย้ำว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องกิน เรื่องเที่ยว แต่เป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวสวน และสัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
"ออกมาจากปัตตานีตี 5 ละหมาดเสร็จก็ออกมากับแฟนและเพื่อนๆ พอได้มาสัมผัส อยากบอกว่ามันใช่เลย แบบนี้แหละที่ทุกคนเรียกร้องให้มี เพราะคนที่มาที่นี่ได้สัมผัส ชีวิตของชาวสวนแท้ๆ ได้รู้ว่ากว่าเขาจะได้มังคุดแต่ละลูกมันยากขนาดไหน ได้เห็นธรรมชาติของจริง ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ได้อะไรกลับไปเยอะมาก"
"คนข้างนอกอาจคิดว่าบ้านเราไม่ปลอดภัย อยากบอกว่าที่นี่ไม่มีอะไร ส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นปัญหา อยากให้มาแล้วจะรู้ว่าธรรมชาติที่นี่สวยงาม ผลไม้ก็อร่อยทุกอย่าง และเป็นการช่วยชาวสวนในยามที่ราคาพืชผลตกต่ำด้วย" แวรอบิยะ กล่าว
นี่คืออีกหนึ่งภาพชีวิตของชายแดนใต้ที่มีแต่เสียงของธรรมชาติ ไร้เสียงปืนหรือระเบิดมาเจือปน!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ทุเรียนลูกสวยจากสวนยายเหี้ยง
2 ลูกค้าบุฟเฟต์ผลไม้ เก็บกินกันแบบไม่อั้น
3 ยายเหี้ยง การะเกตุ
4-5 บรรยากาศในสวนของยายเหี้ยง
อ่านประกอบ :
ยายวัย 87 สุดฮิปกับ"จี๊ป"คู่ใจ...ขอลูกหลานชายแดนใต้รักสามัคคี