ศาลฎีกาสั่งจำคุก 'วัฒนา' คดีคลองด่าน ผู้บริหารบ.เอกชนโดนด้วยคนละ 3-6 ปี
ศาลฎีกาจำคุก 3 ปี "วัฒนา อัศวเหม" ฐานฉ้อโกงซื้อที่ดินก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ส่วน 6 ผู้บริหารบริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง - บริษัทเกตเวย์ดิเวล-ปาล์ม บีชฯ โดนคนละ 3-6 ปี และ ปรับเงิน 4 บริษัท ยกฟ้อง" สังวรณ์ ลิปตพัลลภ" กก.บริษัทประยูรวิศว์การช่าง กับพวกรวม 5 คน
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2561 เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลแขวงดุสิต ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ 254/2547 ที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง 1.กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี หรือ NVPSKG (ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องตั้งแต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์) 2.บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 3.นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 4.บริษัทประยูรวิศว์การช่าง 5.นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง 6.บริษัทสี่แสงการโยธา(1979) 7.นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา
8.บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ 9.นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ 10.บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 11.นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 12.บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ 13.นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 14.นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 15.นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 16.บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ 17.นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ 18.นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ 19.นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย (หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งศาลออกหมายจับไว้อยู่แล้ว) เป็นจำเลยที่ 1 - 19 ในความผิดฐานฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เนื้อที่รวม 1,900 ไร่ มูลค่า 1.9 พันล้านบาท เพื่อก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แต่ที่ดินนั้นกลับเป็นกลุ่มบริษัทจัดหามาแล้ว ที่ดินนั้นเป็นคลอง ถนนสาธารณะ และป่าชายเลน และฉ้อโกงสัญญาก่อสร้างฯ มูลค่าประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งคดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ศาลพิพากษายกฟ้องในส่วนของกิจการร่วมค้า NVPSKG จำเลยที่ 1 และสั่งประทับรับฟ้องไว้เฉพาะจำเลยที่ 2-19
คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2552 พิพากษาว่าพฤติการณ์ของจำเลยที่ 2-19 เชื่อมโยงมีการแบ่งหน้าที่กันทำกลุ่มหนึ่งเป็นผู้รวบรวมที่ดินนำขายให้แก่โจทก์ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ก่อสร้างโครงการซึ่งมีความสัมพันธ์กัน โดยทราบดีอยู่แล้วว่าที่ดินดังกล่าวออกโฉนดโดยมิชอบแล้วนำมาขายให้กับโจทก์ใช้ก่อสร้างโครงบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านโดยไม่มีบริษัทผู้เชี่ยวร่วมดำเนินการ มีเจตนาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย นำผลประโยชน์ไปแบ่งปันกัน พยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2-19 ร่วมกันกระทำผิดตาม ม.341 ฐานร่วมกันฉ้อโกง อันเป็นความผิดกรรมเดียว จึงให้จำคุก นายพิษณุ ชวนะนันท์ กก.บ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง, นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กก.บ.ประยูรวิศว์การช่าง, นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กก.บ.สี่แสงการโยธา, นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กก.บ.กรุงธนเอนยิเนียร์, นายรอยอิศราพร ชุตาภา กก.บ.เกตเวย์, นายชาลี ชุตาภา กก.บ.คลองด่านมารีนฯ, นายประพาส ตีระสงกรานต์ กก.บ.คลองด่านมารีนฯ, นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กก.บริษัท คลองด่านมารีนฯ ,นางบุญศรี ปิ่นขยัน กก.บ.ปาล์ม บีชฯ และนายกว๊อกวา โอเยง ผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11, 13-15, 17, 18, 19 คนละ 3 ปี
ส่วน บ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง, บ.ประยูรวิศว์การช่าง, บ.สี่แสงการโยธา(1979), บ. กรุงธนเอนยิเนียร์, บ.เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์, บ.คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ และ บ.ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ จำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12 , 16 ให้ปรับรายละ 6,000 บาท โดยระหว่างอุทธรณ์คดี จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11, 13-15, 17, 18 ได้ประกันคนละ 1 ล้านบาท ส่วนนายวัฒนา จำเลยที่ 19 หลบหนีคดีไปก่อน ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับและปรับนายประกัน
ต่อมาศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2556 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าช่วงเวลาที่ บ.ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ซื้อที่ดินยังไม่แน่ชัดว่าโครงการก่อสร้างบำบัดน้ำเสียจะใช้ที่ดินบริเวณ ใดบ้าง โดย คพ.เพิ่งมีโครงการชัดเจนว่าจะใช้ที่ดิน ต.คลองด่าน ในเดือน ก.พ. 2539 ดังนั้น พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าพวกจำเลยเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือดำเนินการใดๆ ให้คณะกรรมการคัดเลือกของ คพ.ให้เลือกที่ดินของ บ.คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 12 อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2-19 ฟังขึ้น
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว มีคำพิพากษาแก้ ให้จำคุกเพิ่ม นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำเลยที่ 3 และนายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์
จำเลยที่ 11 คนละ 6 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงการซื้อทีฝา 1.9 พันล้านบาท และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท จากเดิมศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง
ส่วนนายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 13 , นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ ที่ 14 , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ ที่ 15 , นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ ที่ 17 และนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย (หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งศาลออกหมายจับไว้อยู่แล้ว) ที่ 19 ให้จำคุกคนละ 3 ปีตามศาลชั้นต้นกรณีฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน (รวมจำคุก 7 คน)
และให้ปรับบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำเลยที่ 2, บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ ที่ 10 รายละ 12, 000 บาท ที่ร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดิน และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างงาน
อีกทั้งปรับบริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ ที่ 12,บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ ที่ 16 รายละ 6,000 บาท ที่ร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดิน (รวมปรับ 4 แห่ง)
ส่วนบริษัทประยูรวิศว์การช่าง , นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง , นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา , บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ , นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ จำเลยที่ 4,5,7,8,9 (ยกฟ้อง 5 คน) ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้องฐานฉ้อโกงสัญญาจ้างงาน และฉ้อโกงการซื้อขายที่ดิน เพราะไม่ได้รับเงินไปกับไม่มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด
นอกจากนี้ศาลให้ออกหมายจับนายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา จำเลยที่ 7 ที่ไม่มาศาล ซึ่งไม่เชื่อว่าป่วยจนมาศาลไม่ได้ และนายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 18 ซึ่งได้รับหมายศาลโดยชอบแล้วไม่มา ซึ่งทั้งสองคนนี้ก็ต้องให้ออกหมายจับครบ 1 เดือนแล้ว ถ้ายังไม่ได้ตัวมาศาล ก็จะอ่านลับหลังในส่วนของ 2 คนนี้ซึ่งศาลยังไม่ได้กำหนดวันนัด
หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น เวลา 15.30 น. ญาติและบุคคลใกล้ชิดจำเลยกว่า 10 คน ได้นำอาหารกล่องสำหรับอาหารมื้อเย็น และยารักษาโรคประจำตัวของจำเลยเตรียมไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อเอาไปให้เมื่อจำเลยต้องเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง