ครม.เคาะรีดภาษีลาภลอย5%เริ่มใช้ปี62
คลัง แจงเก็บภาษีเฉพาะที่ดิน-คอนโดรัศมี 5 กม.จากรถไฟฟ้า ทางด่วน ท่าเรือ สนามบิน ยันคน ไม่ขายที่ไม่ต้องเสียภาษี
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. ... หรือ พ.ร.บ.ภาษีลาภลอย โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเสนอร่างให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนส่งกลับเข้า ครม. และเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2562
ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ท่าเรือ สนามบิน โครงการทางด่วนพิเศษ ส่งผลให้ที่ดินและห้องชุดคอนโดมิเนียมบริเวณรอบโครงการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษี จึงเห็นควรให้จัดเก็บภาษีจากเจ้าของที่ดินหรือห้องชุดที่ได้รับประโยชน์จากราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น
สำหรับสาระสำคัญของ พ.ร.บ.กำหนดให้ผู้ที่เสียภาษีเป็นบุคคลคนธรรมดา และนิติบุคคลที่ครอบครองที่ดิน มีห้องชุดมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท แบ่งช่วงเวลาเก็บภาษี 2 ช่วงคือ ช่วงแรกเริ่มจาก วันที่รัฐเริ่มโครงการจนแล้วเสร็จ จะเก็บภาษีตามรัศมี 5 กม. รอบโครงการ และ ช่วงที่ 2 เมื่อโครงการเสร็จแล้ว จะเก็บจากที่ห้องชุดมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ส่วนที่ดินที่เป็นที่พักอาศัยและเกษตรกรรมจะได้รับการยกเว้น รวมถึงอาคารชุดที่ยังไม่ได้จำหน่าย โดยในช่วงที่โครงการยังไม่เสร็จกรมที่ดิน จะเป็นผู้เก็บภาษี เมื่อโครงการเสร็จแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะเป็นผู้เก็บภาษีแล้วส่งรายได้ให้กับแผ่นดิน
นอกจากนี้ ได้กำหนดเพดานการ จัดเก็บไม่เกิน 5% ของฐานภาษีหรือส่วนต่างของมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น นับจากวันที่รัฐเริ่มก่อสร้างหรือนับจากวันที่ พ.ร.บ. บังคับใช้ ใช้ราคาประเมินของกรมธนารักษ์ ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อประชาชน ส่วนใหญ่ หากไม่มีการขายเปลี่ยนมือก็จะไม่เสียภาษี หรือเมื่อโครงการเสร็จแล้วมูลค่าที่ดินไม่ถึง 50 ล้านบาท ก็ไม่เสียภาษี ส่วนโครงการที่ยังก่อสร้าง อยู่ให้ใช้วันที่ พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้เป็นวันเริ่มต้นในการคำนวณฐานภาษี
ขณะที่ห้องชุดที่ไม่สามารถคำนวณส่วนต่างของมูลค่าได้ เนื่องจากไม่มีราคาประเมินห้องชุดให้คำนวณส่วนต่าง ดังกล่าวเท่ากับ 20% ของมูลค่าห้องชุด
ที่มา : https://www.posttoday.com/finance/news/557205