คำให้การ‘บอล’คดีลอบขายซากรถ 49 คัน โอน พ.ท.หญิง 1.7 ล. - ให้เปล่า 4 แสน
เปิดตัว ‘บอล’ ผู้ประกอบการ คดีลอบขายซากรถ 49 คัน รับโอนเงินให้ พ.ท.หญิง 21 ครั้ง 1.7 ล. แจงให้เปล่า 4 แสนค่าจัดการโอนทะเบียน -ขอใช้บัญชีฯผ่านให้ พ.อ.ยืม 2 แสน ยกรถโตโยต้ายาริสป้ายแดงให้ 1 คัน ยอมชดใช้ค่าเสียหายกองทัพ
คดีการลักลอบขายซากพาหนะชำรุด ของ กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) จำนวน 49 คัน ที่นำไปสู่คำสั่งของกองทัพบกปลด พ.ท.หญิง ศิริโสภา จันทรุกขา หัวหน้าแผนกทะเบียน และ จ.ส.อ. จีระศักดิ์ ชูพงศ์ ออกจากราชการ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ผิดวินัยร้ายแรง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า ผู้รับซื้อ คือ นาย จ. ผู้รับซื้อซากรถ 49 คันและเป็นผู้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ให้ พ.ท.หญิง ศิริโสภา จำนวน 21 ครั้ง ในช่วง ม.ค.-พ.ค.2557 ล่าสุดมีรายละเอียดดังนี้
@ ‘จ.-บอล’ ค้าขายกับกองทัพตั้งแต่ ปี 47
ในการสอบสวนของคณะกรรมการระดับ ทบ. ตามการอนุมัติของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เมื่อ 14 พ.ย.2557 นาย จ. หรือ บอล อายุ 32 ปี (ขณะนั้น) สาระสำคัญในการให้ปากคำสรุปว่า นายบอลประกอบอาชีพรับซื้อของเก่าโดยเฉพาะยุทธภัณฑ์ทางทหาร ของเหล่าทัพต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2547 ถึง ปัจจุบัน โดยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ภัทรกฤต 11 จำกัด
ในการปฏิบัติงานรับซื้อของเก่าโดยเฉพาะยุทธภัณฑ์ทางทหารของบริษัทฯ นั้น นายบอลอ้างว่า จะทราบข้อมูลข่าวสารในการประกาศขายทอดตลาดหรือแลกเปลี่ยนยานพาหนะทางทหารจากหนังสือศูนย์รวมข่าว ของเอกชนซึ่งจำไม่ได้ว่าบุคคลใดเป็นบรรณาธิการ และบางครั้งก็จะมีเจ้าหน้าที่ทหารของเหล่าทัพต่าง ๆ ได้โทรศัพท์ แจ้งให้นายบอลทราบเป็นข้อมูล เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว จะไปติดต่อกับหน่วยต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อดำเนินการทาง เอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากมีการประกาศขายทอดตลาดก็จะต้องมีการยื่นซองหรือการตกลงด้วยวาจา ในการซื้อขายซากยุทธภัณฑ์ทางทหาร และบางครั้งก็จะมีการแลกเปลี่ยนระหว่างซากยานพาหนะที่ชำรุดและทางราชการ ได้จำหน่ายไปแล้ว ไปเป็นยานพาหนะใหม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าของซากยานพาหนะรวมทั้งการประมูลราคาซาก อีกด้วย
สำหรับยานพาหนะทางทหาร หรือยุทธภัณฑ์ทางทหารที่ได้รับซื้อมาไม่ว่าจะเป็นการขายทอดตลาดหรือแลกเปลี่ยนก็ตาม นายบอลจะนำมาตั้งที่หน้าบริษัทเพื่อขายให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจ รวมทั้งส่งไปยังต่างประเทศอีกด้วย เคยร่วมยื่นซองประมูลซากยานพาหนะของ ขส.ทบ. หลายครั้ง ประมาณ ปี 2552 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะประมูลได้
นายบอลให้การว่า สำหรับการประมูลซากยานพาหนะจาก ขส.ทบ.นั้น ในระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทตนเองจะประมูลซากยานพาหนะโดยการแลกเปลี่ยนเป็นยานพาหนะใหม่ให้กับ ขส.ทบ. ยกเว้นในการประมูลซากยานพาหนะของส่วนราชการอื่น ๆ ที่จะมีการชำระเงินจากการขายทอดตลาดให้กับส่วนราชการนั้น ๆ เช่น การประมูลซื้อซากยานพาหนะจาก สพ.ทบ. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นซากรถยนต์สงครามที่ได้รับอนุมัติจำหน่ายแล้ว ซึ่งบริษัทของตนชำระเป็นเงินสดให้ตามราคาที่ประมูลได้ เป็นต้น
@รู้จัก ‘ศิริโสภา’ตั้งแต่ ยศ ร้อยโท
นายบอลรู้จักกับ พ.ท.หญิง ศิริโสภา มานานแล้วตั้งแต่ ยศ ร.ท. เมื่อครั้งที่ บิดาของนายบอลได้มารวมประมูลซากยานพาหนะของ ขส.ทบ หลายครั้ง และส่วนใหญ่เกือบทุกครั้ง จะติดตามบิดามาร่วมดำเนินการด้วย ซึ่งก่อนที่จะมีการตั้งบริษัท ภัทรกฤต นั้น ในการประมูลจะใช้ชื่อของตนเองเป็นผู้เข้ายื่นซองประมูล
สำหรับ พ.ท.หญิง ศิริโสภา ทราบว่า ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกทะเบียน กค.ขส.ทบ. และ มีความสนิทนสมกันมากเนื่องจากรู้จักกันมานาน จากการประกอบอาชีพประมูลซากยานพาหนะ ขส.ทบ. ซึ่งในการเข้าร่วมประมูลแต่ละครั้งนั้น พ.ท.หญิง ศิริโสภา จะมีบทบาทในการดำเนินการในเรื่องเอกสารทางทะเบียน
สำหรับซากยานพาหนะชำรุดและที่ได้รับการอนุมัติจำหน่ายแล้ว เกี่ยวกับซากยานพาหนะชำรุดที่ได้รับการอนุมัติจำหน่ายแล้ว ของ ขส.ทบ. จำนวน 49 คัน ซึ่ง พ.ท.หญิง ศิริโสภา เป็นผู้ดำเนินการขายซากให้กับตนนั้น ในเรื่องนี้เป็นความจริง กล่าวคือ
@ อ้าง โทร.เรียกให้มาลากรถ
เมื่อประมาณต้น ม.ค.57 พ.ท.หญิง ศิริโสภา หรือชื่อเล่นว่า ‘เอส’ ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้กับตนเองทราบว่า มีซากรถยนต์นอกบัญชีคุม สามารถที่จะขายให้ได้ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าใด จึงได้ตอบตกลงว่า มีความสนใจที่จะซื้อซากยานพาหนะดังกล่าว ต่อมา พ.ท.หญิง ศิริโสภา ได้โทรศัพท์แจ้งให้ ทราบว่า มีชากยานพาหนะที่ชำรุดและได้รับอนุมัติจำหน่ายแล้วอยู่ตามหน่วยต่าง ๆ หลายหน่วย จึงขอให้ เตรียมหารถเคลื่อนย้ายเพื่อไปเคลื่อนย้ายซากยานพหานะที่ชำรุดตามหน่วยต่าง ๆ ตามที่ พ.ท.หญิง ศิริโสภา จะแจ้งมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นก็ยังไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าใด หรือจะมีมูลค่าเท่าใด ไม่ทราบ เมื่อตนติดต่อรถยกซึ่งอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร ได้แล้วจึงได้แจ้งให้ พ.ท.หญิง ศิริโสภา ทราบเพื่อทำการติดต่อกันต่อไป
@ใช้จ่าประสานรถยกเก็บโกดัง-ตีราคา-โอนเงิน
ครั้งต่อมาในเดือน ม.ค.57 พ.ท.หญิง ศิริโสภา ได้โทรศัพท์แจ้งให้ทราบว่า มีซากยานพาหนะพร้อมทั้ง ประเภทของยานพาหนะที่จะทำการเคลื่อนย้ายได้ ซึ่ง พ.ท.หญิง ศิริโสภา ได้ติดต่อประสานกับหน่วยต่างๆ ให้ทราบ เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้นทราบว่า พ.ท.หญิง ศิริโสภา ได้มอบหมายให้ จ.ส.อ.จีระศักดิ์ ชูพงศ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ในแผนกทะเบียน กค.ขส.ทบ. มาติดต่อกับรถยกแล้วไปดำเนินการขนย้ายซาก ยานพาหนะตามหน่วยต่าง ๆ ซึ่ง พ.ท.หญิง ศิริโสภา ได้แจ้งให้ทราบ ซึ่งการเคลื่อนย้ายยานพาหนะทุกครั้ง พ.ท.หญิง ศิริโสภา จะดำเนินการในลักษณะนี้เช่นกันทุกครั้ง สำหรับซากยานพาหนะที่ได้ขนย้ายมานั้นทุกครั้ง จะมาเก็บไว้ที่โกดังบริษัทซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งบริษัทประมาณ 7 กิโลเมตร เพื่อตีราคาว่ามูลค่าของซากที่ได้ ขนย้ายมาแต่ละครั้งนั้นมีมูลค่าเท่าใด เมื่อตีราคาซากยานพาหนะแล้ว จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาราชวัตร ของ พ.ท.หญิง ศิริโสภา หมายเลขบัญชี 13022xxxx
@ อ้างจริงๆ ขนมาแค่ 32 คัน แต่ยอมรับ 49 คันเพื่อตัดปัญหา
นายบอลระบุว่า เหตุที่โอนเงินให้แก่ พ.ท.หญิง ศิริโสภา เนื่องจากเป็นข้อตกลงกันระหว่างกัน เมื่อตนตีราคามูลค่าของซากยานพาหนะเป็นจำนวนเท่าใดแล้วจะต้องโอนเงินให้กับ พ.ท.หญิง ศิริโสภา ตามมูลค่าใน แต่ละครั้ง และเหตุผลสำคัญประการหนึ่ง เห็นว่า พ.ท.หญิง ศิริโสภา เป็น หน.แผนกทะเบียน ซึ่งเคยร่วม ดำเนินการเกี่ยวกับการประมูลซากโดยวิธีแลกเปลี่ยนหลายครั้ง จึงคุ้นเคยกัน และมีความน่าเชื่อถือ ประกอบกับ พ.ท.หญิง ศิริโสภา ได้แจ้งให้ตนทราบว่า ภายหลังจากที่ได้มีการขนย้ายซากยาพาหนะที่ชำรุดแล้ว แผนกทะเบียน กค.ขส.ทบ. จะดำเนินการทางเอกสารในเรื่องป้ายทะเบียนให้ต่อไป โดยข้อเท็จจริงแล้วได้มีการ ขนย้ายซากยานพาหนะมาที่โกดังของบริษัทตน ประมาณ 31-32 คัน ซึ่งจำไม่ได้แน่ชัดโดยดำเนินการในห้วง ม.ค.-พ.ศ.57 ภายหลังจากนั้นเมื่อ ขส.ทบ. ได้ทำการตรวจสอบในเรื่องนี้ ปรากฏว่า มีซากยานพาหนะที่ได้รับ อนุมัติให้จำหน่ายแล้วขาดหายไปจากบัญชีคุม จำนวน 49 คัน เมื่อคณะกรรมการสอบสวนของ ขส.ทบ. ได้เรียกตนมาสอบปากคำพร้อมทั้งแจ้งให้ทราบว่า มีชากยานพาหนะขาดหายไป จำนวน 49 คัน ดังกล่าว ตนเห็นว่าเพื่อไม่ให้มีความยุ่งยากเกิดขึ้นจึงขอรับผิดว่าได้มีการขนย้ายซากยานพาหนะ จำนวน 49 คัน ไปจริง ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงแล้วซากยานพาหนะที่ตนได้รับ ไม่น่าจะถึง 49 คัน สำหรับการขนย้ายซากนี้มีจำนวนประมาณ 20 กว่าครั้ง ซึ่งจำไม่ได้แน่ชัด แต่ได้โอนเงินให้กับ พ.ท.หญิง ศิริโสภา จำนวน 21 ครั้ง รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 1,782,000.- บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
@ เงิน 2 แสนผ่าน บช. ให้ พ.อ.ยืม-คืนแล้ว
-เงิน 400,000 บาท เป็นเงินให้เปล่า เพื่อเป็นค่าดำเนินการในการโอนทางทะเบียนรถให้กับเจ้าหน้าที่แผนกทะเบียนโดยเฉลี่ยทะเบียนรถคันละ 1,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้จะรวมกับการโอนทะเบียนรถสำหรับซากยานพาหนะที่ได้ประมูลได้ก่อนหน้านั้น จำนวน 398 คัน
-เงิน 200,000 บาท เป็นเงินที่ตนให้ พันเอก อดีต รอง ผอ.กองคลัง ยืม โดยได้โอนเงินผ่านบัญชี พ.ท.หญิง ศิริโสภา เพื่อส่งมอบให้กับ พันเอก อดีต รอง ผอ.กองคลัง ในภายหลัง ซึ่ง พ.ท.หญิงศิริโสภา ได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับ พันเอกอดีต รอง ผอ.กองคลัง เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบัน อดีต รอง ผอ.กองคลัง ได้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อ ก.ค.2557
@ ยกโตโยต้ายาริสให้ 1 คันดาวน์ไปแล้ว 3.2 แสน
- เงิน 1,182,000 บาท นั้น เป็นราคาค่าซากยานพาหนะ จำนวน 49 คัน นอกจากนั้นงินค่าซากยานพาหนะที่ตนจะต้องจ่ายให้กับ พ.ท.หญิง ศิริโสภา เพิ่มอีกจำนวน 320,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้เป็นเงินดาวน์รถยนต์โตโยต้ายาริส หมายเลขทะเบียน 5555 (ป้ายแดง) ที่ตนได้ซื้อมาเพียง 2 วัน แต่ พ.ท.หญิง ศิริโสภา ต้องการที่จะได้รถยนต์คันนี้ ตนจึงถือโอกาสยกรถยนต์คันนี้ให้ โดยให้ พ.ท.หญิง ศิริโสภา ไปผ่อนต่อกับบริษัทไฟแนนซ์ในชื่อของตน เดือนละ 5,038 บาท ซึ่งปัจจุบัน พ.ท.หญิง ศิริโสภา ยังผ่อนค่ารถยนต์ไม่หมด ดังนั้นจึงต้องถือว่า เงินดาวน์จำนวน 320,000 บาท ดังกล่าวนี้ตีเป็นราคาซากยานพาหนะที่จ่ายให้ พ.ท.หญิง ศิริโสภา ด้วยเช่นกัน
@ยินดีรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย 7.6 ล.
นายบอลอ้างอีกว่า ปัจจุบันซากยานพาหนะ จำนวน 49 คันตามที่ ขส.ทบ.แจ้งจำนวนว่า สูญหายนั้น ได้ขายให้แก่ บุคคลอื่นไปหมดสิ้นแล้ว ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ หากราชการมีความประสงค์จะให้รับผิดชอบ ก็ยินยอมชดใช้เงินคืนตามราคาที่ทางราชการกำหนดต่อไป ตามจำนวนที่ ขส.ทบ.ประเมินทั้งสิ้นจำนวน 7,684,370.38 บาท
อ่านประกอบ:
ดูชัดๆ รายการ โอนเงิน 21 ครั้ง 1.7 ล. มัด พ.ท.หญิง ลอบขายซากรถ 49 คัน
เบื้องหลัง ทบ.ปลด พ.ท.หญิงคดีลอบขายซากรถ 49 คัน เงินเข้าบัญชี 21 ครั้ง-ส่งต่อ 1.3 ล.
พ.ท.หญิงผู้ถูกถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ ที่แท้ทุจริตขายซากรถ 49 คัน ขส.ทบ.
ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ 7 นายทหาร -1 ขรก. ทุจริต ก่อคดี ผิดวินัยร้ายแรง
พฤติกรรม‘พ.ท.หญิง-พวก’คดีขายรถ 49 คัน ทบ.‘พล.อ.ธีรชัย’สั่งสอบ- 2 ปียังไม่เสร็จ?
คดีใหม่!ลักลอบขายซากรถยนต์ 49 คัน ทบ. ‘พล.อ.ธีรชัย’สั่งสอบหลัง สตง.พบ‘หลายครั้ง’