ทอดผ้าป่าสามัคคีระดมกองทุนภาคประชาสังคม ถมช่องว่างการทำงานรัฐ-ราชการ
'หมอมงคล'หวังสร้างพลเมืองรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนงานพัฒนา สร้างชุมชมเข้มแข็งยืนบนขาตัวเอง ด้านรสนา ชวนลงทุนทรัพย์หนุนเสริมงานสร้างประโยชน์เพื่อประชาชนและประเทศ
วันที่ 1 กรกฎาคม เวลา10.00 น.ที่วัดยานนาวา พระอารามหลวง พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดยานนาวา นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานฝ่ายฆราวาส จัดโครงการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อระดมทุนเข้ากองทุนภาคประชาสังคม โดยมีเครือข่ายองค์กรเด็ก เยาวชนและครอบครัว เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค เครือข่ายองค์กรสุขภาพ เครือข่ายองค์กรผู้หญิง เครือข่ายองค์กรแรงงาน เครือข่ายองค์กรทรัพยากร เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เข้าร่วม
นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงโครงการทอดผ้าป่าดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินกองทุนฯ ไปสนับสนุนให้เกิดพลังพลเมืองรุ่นใหม่ (Young Active Citizen) เข้ามาขับเคลื่อนงานภาคประชาสังคมในประเด็นที่ชุมชนคิดริเริ่มด้วยตนเอง สนับสนุนการเฝ้าระวังติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน การสร้างพลังชุมชนเพื่อรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของตนเอง จนนำไปสู่การยืนด้วยขาตัวเองของชุมชน สำหรับตนเองเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก
"หากถามว่า ทำไมไม่ปล่อยให้รัฐและหน่วยราชการทำงานไป รัฐและราชการมีข้อจำกัดในการพัฒนาที่รอบด้าน ต้องเติมเต็มด้วยพลังภาคประชาสังคมอย่างเช่นประเทศพัฒนาสำเร็จแล้ว ไม่มีประเทศไหนที่พัฒนาสำเร็จทุกด้านได้โดยขาดความร่วมมือของประชาสังคม เพราะสภาพปัญหาแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ในขณะที่แต่ละพื้นที่จะมีพลังของคนมากมายหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้อาวุโสไปจนถึงคนรุ่นใหม่ หากพวกเขาได้รวมตัวกันจะเป็นพลังพลเมืองที่สำคัญ งบประมาณแผ่นดินจะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการที่ลงไปจะถูกคัดสรรอย่างมีส่วนร่วมให้เหมาะกับพื้นที่ สิ่งที่เราจะเห็นคือ การพัฒนาที่ครบทุกทุกด้านและยั่งยืน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่อยากให้คนไทยทุกคนมาร่วมสร้างกองทุนภาคประชาสังคมเพื่อการนี้ขึ้น" นพ.มงคล กล่าว
นางอรพิน วิมลภูษิต เครือข่ายศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของกองทุนฯ คือ การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมที่มารวมตัวกัน มุ่งหวังที่จะผลักดัน กิจกรรมงานพัฒนา ให้สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้า และเชื่อมร้อยการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ซึ่งส่วนใหญ่ถือว่าเป็นการทำงานพัฒนาประเทศ เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานช่วยเหลือรัฐ เป็นหุ้นส่วนของรัฐ ฉะนั้นจึงคิดว่า รัฐเองตัองมีส่วนช่วยในกองทุนฯนี้เพื่อร่วมกันผลักดันการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะการนำเงินภาษีงบประมาณกลับมาที่ประชาชน ซึ่งรัฐควรจัดสรรงบฯมาสนับสนุนเพื่อเป็นหลักประกัน เพื่อสามารถทำงานต่อได้อย่างต่อเนื่อง แม้ยามประสบปัญหา เป็นการตัดภาษีมาช่วยเป็นกำลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ
“ด้วยสิ่งสำคัญของการเกิดกองทุนฯ คือ การสร้าง ผลิต ต่อยอดหนุนเสริมนักพัฒนารุ่นใหม่ ส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขามีศักยภาพในการใช้เครื่องมือทำงาน ที่เท่าทันและนำมาใช้ต่อยอด ในการทำงานพัฒนาในยุคปัจจุบันได้ และนำความรู้ทักษะ ไปช่วยระดับชุมชน เสริมความเข้มแข็งให้ชุมชนได้ นอกจากนี้กองทุนฯยังมีบทบาทที่สำคัญในเรื่อง ของการหนุนสร้างทำงานแบบเครือข่าย เชื่อมร้อยกันในเชิงบูรณาการทุกระดับ เพื่อขับเคลื่อนระดับนโยบาย ประสานงาน และในระดับพื้นที่ ในการทำงานพัฒนาต่อยอดจากกองทุนฯที่ ประชาชนได้ร่วมกันสร้างมา” นางอรพิน กล่าว
ด้าน น.ส. รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพฯ กล่าวว่า ถือเป็นการระดมทุนของประชาชนสนับสนุนกิจกรรมภาคประชาชน เช่น การสนับสนุนกิจกรรมของเยาวชนในท้องถิ่น เพื่อทำกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทุจริต หรือ เรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ซึ่งเป็นการหนุนเสริมกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะเหล่านี้ ในพื้นที่
“ประชาชนทุกคนสามารถสนับสนุนให้สังคมพัฒนาไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้มากที่สุด ทั้งนี้แต่ละบุคคลล้วนสนใจบางประเด็นไม่เหมือนกัน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ก็สามารถลงแรงเงิน เพื่อสนับสนุนให้ไปใช้แรงงาน ใช้สมอง ไปทำประโยชน์ร่วมกันได้ ซึ่งนี้คือเจตนารมน์ ที่สำคัญของกองทุนดังกล่าวนี้ และยังหนุนเสริม สร้างความรู้ร่วมกันในประเด็นสาธารณะอื่นๆที่มีประโยชน์ “ น.ส.รสนา กล่าว
น.ส.รสนา ได้กล่าวเชิญชวนสละทุนทรัพย์สนับสนุนการทำกิจกรรมผ้าป่าครั้งนี้ ขณะเดียวกันหลังเสร็จกิจกรรมก็ยังสามารถบริจาคได้อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางของกองทุนภาคประชาสังคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
‘อานันท์’ชวนทอดผ้าป่ากองทุนภาคประชาสังคม ชี้เป็นกลไกสำคัญพัฒนาชาติ