‘สามมิตร’แฉอดีตส.ส.ไม่อยากเป็นฝ่ายค้าน เล็งเดินสาย แถลง10นโยบาย
‘สามมิตร’แฉอดีตส.ส.ไม่อยากเป็นฝ่ายค้าน เล็งเดินสาย แถลง10นโยบาย
ที่ จ.นครราชสีมา นายภิรมย์ พลวิเศษ คณะทำงานประสานงานประชาสัมพันธ์ผู้เข้าร่วมกลุ่มสามมิตร แกนนำ จ.นครราชสีมา ได้นัดหมายหารือความคืบหน้าการดำเนินกิจจกรมของกลุ่มสามมิตรที่ จ.นครราชสีมา ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 เขต และทีมงานของ จ.นครราชสีมา
นายภิรมย์ กล่าวถึงการดำเนินกิจกรรม ว่า เหตุผลที่วันนี้กลุ่มสามมิตรอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะที่ตนได้สัมผัสกับชาวบ้านมา 7 ปี พูดซื่อๆว่าเราหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เต็มที่ เรื่องแรกที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นขวัญใจคนจน คือ โดนใจชาวบ้านคนยากคนจน ที่ทำให้คนที่มีรายได้น้อยมีเงินเดือนจาก 200 บาท เป็น 300 บาท วันนี้จาก 300 บาท เป็น 500 บาท ดังนั้นครอบครัวที่ไม่พร้อมเรื่องฐานะ จึงมีข้าวปลาอาหารให้ลูกหลานได้กินทุกวันนี้ เป็นการลดค่าใช้จ่ายแบ่งเบาภาระของทุกครัวเรือนทั่วประเทศ รวมทั้งเรื่องราคาพืชผลการเกษตร เช่น ข้าวหอมมะลิ วันนี้ 19 บาทต่อกิโลกรัม , มันสำปะหลัง ราคาสูงเกือบ 4 บาทแล้ว , ข้าวโพด 10 บาท , น้ำมันปาล์ม 4 บาท และราคาทุเรียน เป็นเศรษฐีทุกคน มาตรการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำก็เพื่อประชาชนคนยากคนจนโดยตรง
“กลุ่มสามมิตรมองว่าถ้าอยากจะทำให้พี่น้องประชาชนคนธรรมดา ลดความเลื่อมล้ำทางสังคม ผมจะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุบห้องพิเศษ หรือห้อง VIP ของโรงพยาบาลของรัฐ ทั้งประจำอำเภอ และประจำจังหวัดทุกแห่ง เพราะห้องพิเศษ หรือห้องVIP เวลาคนยากคนจนไปรักษาเป็นผู้ป่วยใน ไม่มีที่นอน ทางเดินก็เดินไม่ได้ ไม่สะดวกเพราะทางแคบมาก ภาพที่เห็นมีแต่คนจนต้องนอนตามทางเดินแน่นไปหมด เพราะไม่มีบัตรข้าราชการไม่ใช่คนรวย ไม่มีที่นอนรักษาตัวเอง ตรงนี้ทำไมเกิดมาแล้วต้องมีความเหลื่อมล้ำทางสังคม โรงพยาบาลรัฐใช้เงินภาษีประชาชนสร้าง ถ้าเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาให้คนยากคนจน มีโอกาสได้รับการดูแลจากโรงพยาบาล ก็ควรยุบห้องพิเศษ หรือห้องVIP แล้วให้คนที่เบิกได้ ทั้งข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ทหาร ตำรวจ หรือคนรวย ถ้าอยากเข้าห้องพิเศษก็ไปโรงพยาบาลเอกชน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ทำเรื่องนี้ได้ เชื่อว่าจะได้ใจคนยากจนคนของประเทศ” นายภิรมย์ กล่าว
นายภิรมย์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ถนนทุกสายพูดกันมากกับกลุ่มสามมิตรเรามีดีตรงที่เราเข้าใจปัญหาและเข้าใจหัวอกประชาชนทุกกลุ่มว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ เพื่อให้เขาอยู่ไปข้างหน้าอีก 4 ปี และกลุ่มสามมิตรได้ศึกษาแลกเปลี่ยนมาหลายกลุ่ม หลากหลายความคิด แล้วออกเดินสายไปหลายจังหวัด โดยเฉพาะคนยากคนจนในภาคอีสาน เพื่อแลกเปลี่ยนรับมทราบปัญหา เมื่อตกผลึกแล้วจะนำความคิดที่ดีเสนอไปยังรัฐบาล ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาบางเรื่องถูกใจอกถูกใจประชาชนแล้ว และเราจะเติมเต็มหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่างๆมาหล่อหลอมเพื่อให้รัฐบาลหน้าทำต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ารายชื่อที่มีการเปิดเผยทางสื่อมวลชนออกมา ทั้งอดีต ส.ส. อดีต ส.ว. รวมทั้งนักการเมืองรุ่นใหม่ และจะมีเพิ่มเติมมากกว่านี้หรือไม่ นายภิรมย์ กล่าวว่า ตนยังไม่กล้าฟันธงว่าจะเพิ่มหรือลด แต่ขอเวลาให้กลุ่มสามมิตรทำงานก่อนว่าเราทำงานได้แบบไหนแล้ว และเขามั่นใจกับพวกเราได้แค่ไหนว่ากลุ่มสามมิตรจะเป็นตัวประสานระหว่างของเขาถึงเรา แล้วถึงรัฐบาล แต่วันนี้เราค่อนข้างมั่นใจว่าเราเดินทางถูกทาง
“ส่วนอดีต ส.ส.บางพรรคกล่าวหาว่ากลุ่มสามมิตร มีทาง คสช.หนุนหลังสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้นั้น กลุ่มสามมิตรไม่ใช่พรรค เมื่อไม่ใช่พรรคก็ไม่ผิดกฎหมาย คสช. เราทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนกับกลุ่มปัญหา กลุ่มก้าวหน้า เราไม่ใช่พรรคทางการเมือง ผมถามว่าจะผิดตรงไหน และ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ คสช. ผมก็ยังไม่เคยพบ ขนาดผมเป็นเลขากลุ่มสามมิตร แต่เห็นว่า คสช. หรือรัฐบาลทำงานถูกใจพวกผม ประชาชนส่วนใหญ่ก็ถูกใจ อดีต ส.ส. , ส.ว. ก็ถูกใจก็แค่นี้เอง ไม่เห็นผิดกฎหมายตรงไหน และเราไม่ได้พาดพิงถึงพรรคอื่นที่ตั้งมาก่อน เราทำการเมืองสายกลาง กลุ่มสามมิตรผูกทุกมิตร ดังนั้นอาจจะไปกระทบพรรคอื่น ซึ่ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ บอกแล้วว่าอาจจะไปกระทบพรรคอื่นเรื่องความรู้สึก ก็ขอโทษด้วย กว่าจะเลือกตั้ง 7-8 เดือน กลุ่มสามมิตรจะเดินสายไปทุกจังหวัด ทุกกลุ่มภาค” นายภิรมย์ กล่าว
นายภิรมย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ถูกโจมตีจากพรรคเพื่อไทยว่าไปดูด แล้วเอาเงินมาจากไหนนั้น ตนถามว่าอย่างนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เป็นเจ้าของโรงโม่ เจ้าของรับเหมาชั้นหนึ่ง ประมูลงานปีละหลายพันล้านบาท เราจะไปดูดเขากี่ล้านเขาถึงจะมา หรือมีข่าวว่านายสันติ พร้อมพัฒน์ ที่เปิดตัวจะมาจะเอาเงินไปซื้อกลุ่มนายสันติ ได้หรือไม่ , นายวิรัช รัตนเศษฐ์ หรือตระกูลรัตนเศรษฐ์ ใน จ.นครราชสีมา ใครก็รู้ว่ายิ่งใหญ่แค่ไหนเรื่องเงินเรื่องทอง ดังนั้นอย่าคิดว่าพวกเราจะไปดูดเรื่องเงินเรื่องทอง แต่ไปดูดนั้นคือ ไปดูดสมอง ดูดความคิดที่จะมาพัฒนาประเทศชาติมากกว่า
“ส่วนจะยืนยันว่าไม่มีการใช้เงินดูดนั้น ผมบอกเลยว่าถ้ามีเงินมันต้องดังกว่านี้ ถ้าคนละ 40-50 ล้านบาท ถ้า 100 คน ก็ 5,000 ล้านบาท จะใช้กี่รถตู้ขนเงินไปจ่ายเขา แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขา ทุกวันนี้ผมว่าถ้าคิดว่าซื้อตัว หรือดูด มันเป็นการเมืองแบบเก่า พวกเราเอาสมองเอานโยบายนำหน้า นี่คือข้อเท็จจริง เราเอาทุนและนโยบายนำหน้า ซึ่งโอกาสข้างหน้าหัวหน้ากลุ่มสามมิตรจะนำเสนอว่าเราตกผลึกเรื่องนโยบายแล้ว 1-10 หัวข้อคืออะไร มันจะเป็นไฮไลท์ของคำว่าสามมิตร ที่จะทำประโยชน์ให้ประชาชน จะเห็นได้ว่า เราไม่ดูด ส่วนเท่าที่สอบถามอดีต ส.ส.เพื่อไทย ที่มาร่วมกันบอกว่า ไม่อยากเป็นฝ่ายค้าน” นายภิรมย์ กล่าว