คดีฉาวในนิวเจอร์ซีย์! อำพรางรายได้ที่แท้จริง โกงเงินสวัสดิการรัฐเกือบ 20 ล.
พฤติการณ์กลับหัว! กรณีศึกษาในสหรัฐ ชาวเมืองในนิวเจอร์ซีย์นับ 10 ราย อำพรางรายได้ที่แท้จริง โกงเงินสวัสดิการรัฐเกือบ 20 ล้าน ถูก จนท.ท้องถิ่น FBI บุกจับ คาดยังมีผู้ต้องหาอีกเพียบ สวนทางทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งในประเทศไทย แต่คอร์รัปชั่นเหมือนกัน
ท่ามกลางกรณีฉาวเรื่องการทุจริตเงินงบประมาณศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่อยู่ระหว่างองค์กรอิสระ และหน่วยงานรัฐสอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ สั่งพักงานแล้วหลายรายแล้วนั้น
ข้ามซีกโลกไปยังรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา พบว่าหน่วยงานประเทศสหรัฐฯกำลังสอบสวนเกี่ยวกับการทุจริตเงินสวัสดิการรัฐเช่นกัน
ประเด็นที่น่าสนใจคือ คราวนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐโกงประชาชน แต่เป็นประชาชนโกงรัฐ ?
สำนักข่าวในสหรัฐฯหลายแห่งรายงานว่า มีนับ 10 ครอบครัวในเลควูด รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐฯ ทุจริตเงินสวัสดิการรัฐ โดยปกปิดข้อมูลรายได้ของตัวเอง เพื่อไปเบิกเงินเงินสวัสดิการดังกล่าว กว่า 6 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ราว 19,890,000 บาท) และคาดว่ามีอีกหลายครอบครัวเช่นกันที่มีพฤติการณ์ลักษณะนี้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำรายงานสำนักข่าวต่าง ๆมานำเสนอ
สำนักข่าวนิวเจอร์ซีย์ 1001.5 (New Jersey 101.5) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่รัฐทั้งส่วนท้องถิ่น ส่วนรัฐ และส่วนรัฐบาลกลาง ได้บุกจับกุมผู้ต้องหา 14 คนในเลควูด (Lakewood) รัฐนิว เจอร์ซี (New Jersey) เนื่องจากกระทำความผิดฐานโกงเงินสวัสดิการรัฐซึ่งประกอบด้วย เงินสวัสดิการรักษาพยาบาลและเงินสวัสดิการค่าเช่าบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า การจับกุมครั้งหน้าเป็นเพียงผู้ต้องหาส่วนน้อยจากส่วนใหญ่เท่านั้น แต่ก็สร้างความตื่นตกใจแก่ผู้คนในเทศบาลโอเชียน (Ocean County) โดยสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าประชาชนหลายร้อยรายโทรศัพท์ไปสอบถามยังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า ผู้ต้องหาทุจริตเงินโดยไม่ถูกจับกุมได้อย่างไร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงการจับกุมผู้ต้องหา 3 วันแรกของการจับกุม คือ ครูสอนศาสนายิว แซลเมน โซร็อตส์กิน (Zalmen Sorotzkin) ผู้เป็นเจ้าของโบสถ์ยิวลัสค์ (Lusk) ถูกจับเมื่อวันจันทร์ที่ 26 มิ.ย. 2561 พร้อมกับราเชล (Rachel) ภรรยาของเขาและคู่สามีภรรยาอีก 1 คู่ คือ มอร์เดไช เบรสคิน (Mordechai Breskin) และ โจเชฟ เบรสคิน (Jocheved Breskin)
พนักงานอัยการแห่งเทศบาลโอเชียน กล่าวว่า ทุกคนถูกจับด้วยฐานความผิดลักทรัพย์โดยเจตนา (second-degree theft) โดยการหลอกลวงเพื่อให้ได้รับเงินสวัสดิการรักษาพยาบาล แสตมป์สวัสดิการอาหาร รวมถึงเงินสวัสดิการพัฒนาที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยในชีวิต
พนักงานอัยการ กล่าวอีกว่า ครอบครัวโซร็อตส์กินโกงเงินสวัสดิการไปกว่า 338,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 11,167,520 บาท) ในขณะที่ครอบครัวเบรสคินโกงไปกว่า 585,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 19,328,400 บาท)
ทนายความของครอบครัวโซร็อตส์คิน เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้ปากคำต่อศาลครั้งแรกกับศาลแห่งรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่เมืองทอมส์ ริเวอร์ (Toms River) ผ่านวิดิโอคอลก่อนที่ผู้พิพากษาสตีเฟน นาเม็ธ (Steven Nameth) จะออกคำสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหาเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการพิจารณาเนื่องจากพนักงานอัยการปฏิเสธการไกล่เกลี่ยคดีก่อนพิจารณาในชั้นศาล ในขณะที่ทนายความของเบรสคินไม่ให้ความเห็นใด ๆ
ข้อมูลจากศาลรัฐนิวเจอร์ซีย์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2561 สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ได้จัดทำคำฟ้องต่อโยคีฟ (Yocheved) และชิมอน นุสบาม (Shimon Nussbaum) และมอร์เดไชและราเชล โซร็อตส์กิน คำฟ้องดังกล่าวถูกเปิดเผยในวันที่ผู้ต้องหาเหล่านี้ถูกจับกุมว่า ผู้ต้องหาเหล่านี้ทุกคนปิดบังรายได้ของตนซึ่งมากกว่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (49,725,000 บาท) ในเอกสารที่พวกเขาจัดทำเพื่อขอเงินสวัสดิการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ครอบครัวโซร็อตส์กิน มีรายได้มากกว่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐจากการที่ราเชลเป็นหุ้นส่วนในบริษัทจำกัดแห่งหนึ่งซึ่งเธอได้ปิดบังรายได้ไว้ ส่วนครอบครัวนุสบามมีรายได้มากกว่า 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (72,930,000) ผ่านการทำธุรกิจหลายอย่าง แต่จดทะเบียนธุรกิจด้วยชื่อญาติของตนเอง
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากการไปให้ปากคำในศาลรัฐบาลกลางในเมืองเทรนตัน (Trenton) ซึ่งพนักงานอัยการกล่าวว่าถ้าทั้ง 4 คนมีความผิดจริงจะได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปีและถูกปรับกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐ (8,287,500) หรืออาจจะถูกปรับเป็นเงิน 2 เท่าจากรายจ่ายที่รัฐบาลเสียไป
หลังจากนั้นในวันที่ 27 มิ.ย. 2561 สำนักอัยการแห่งเทศบาลโอเชียนก็จับกุมยิตส์โชค(Yitzchok) และ โซรา คานาเร็ค (SoraKanarek) เคม (Chaim) และเลียตต์ แอร์แมน (LiattEhrman) และวิลเลียม (William) และ เฟคกี ฟรีดแมน (Faigy Friedman) ในข้อหาลักทรัพย์โดยเจตนาโดยการโกง ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายที่โดนจับไปก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการจับกุมกล่าวว่า คู่สามีภรรยาทั้ง 3 คู่นี้โกงเงินสวัสดิการรวมกันทั้งหมดไปกว่า 674,537 เหรียญสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยเงินสวัสดิการรักษาพยาบาล สแตมป์สวัสดิการอาหาร เงินสวัสดิการที่อยู่อาศัย รวมถึงเงินสวัสดิการผู้มีรายได้ต่ำโดยการปิดบังรายได้ที่แท้จริงของตนเอง
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน เม.ย. 2557 หน่วยงานตรวจสอบเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลแห่งรัฐได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังครอบครัวทั้งสองเพื่อเตือนว่าทางหน่วยงานกำลังตรวจสอบคุณสมบัติของพวกเขาว่าเหมาะสมจะได้รับเงินสวัสดิการหรือไม่ เนื่องจากสำนักงานสอบสวนกลางได้ดำเนินการฟ้องต่อพวกเขา โดยเวลาต่อมาทั้ง 2 ครอบครัวก็ถูกตัดสิทธิ์การได้รับเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลในเดือน ส.ค. ปีเดียวกัน
ส่วนสำนักข่าว Asbury Park https://www.app.com/ รายงานว่า เฟคกี ฟรีดแมน เป็นพนักงานตรวจสอบบัญชีของบริษัทตรวจสอบบัญชีแห่งหนึ่ง ในขณะที่เคม แอร์แมนเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง โดยหนึ่งในนั้นคือธุรกิจเครื่องสำอาง ส่วนยิตส์โชค คานาเร็คเคยเป็นอดีตผู้สอนศาสนายิวในโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษซึ่งปัจจุบันปิดไปแล้ว
เช่นเดียวกับจำเลยทั้ง 8 คนที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ เหล่าผู้ต้องหาที่ถูกจับเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2561 ถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากให้ปากคำในศาลผ่านวิดิโอคอลในศาลแห่งรัฐนิวเจอซี แต่ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาเหล่านี้ก็ถูกยึดหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการจับกุมกล่าวว่า การสืบสวนคดีเป็นความร่วมมือกับทั้งส่วนท้องถิ่น ส่วนรัฐ และส่วนรัฐบาลกลาง ถูกเริ่มมาจากสำนักงานสอบสวนกลางสาขาย่อยในเมืองเรด แบ็งค์ (Red Bank) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานสอบสวนกลางสาขาเมืองนิวอาร์ค (Newark) โดยร่วมมือกับหน่วยงานตรวจการโกงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลแห่งสำนักงานตรวจสอบบัญชี และในภายหลังสำนักอัยการแห่งเทศบาลโอเชียน สำนักประกันสังคมแห่งสหรัฐอเมริกา และหน่วยสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดแห่งกรมธนารักษ์ ได้เข้ามาร่วมมือด้วย
เจ้าหน้าที่ กล่าวอีกว่า การจับกุมเป็นผลจากการใช้วิธีล่อซื้อ และจำเลยบางคนโอนเงินผ่านบริษัทโอนเงินที่ไม่ได้จดทะเบียนซึ่งดำเนินการอยู่ในร้านสะดวกซื้อบีบเปอร์ (Beeper store) ในเมืองเลควูด โดยเจ้าของร้านบีบเปอร์ ยิสโรเอล มาลามุด (Yisroel Malamud) ถูกศาลแห่งรัฐบาลกลางพิพากษาว่ามีความผิดในเดือน ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา และกำลังรอรับการลงโทษ
เจ้าหน้าที่ ยังระบุว่า จะมีการไล่ล่าจับกุมเพิ่มเติมอีก และอาจจะมีการเอาผิดเพิ่มเติมต่อจำเลยบางคนฐานเลี่ยงภาษี
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า “เรากำลังส่งสารไปยังสังคมนี้ว่าหมดโอกาสกระทำความผิดแล้ว” และกล่าวอีกว่า “การสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดเพิ่มเติมจะยังดำเนินต่อไป”
ล่าสุด สำนักข่าวเอ็นเจ (NJ) รายงานว่า หลังจากที่เกิดคดีโกงเงินสวัสดิการรัฐดังกล่าวขึ้น ทางกรมบัญชีแห่งรัฐนิวเจอร์ซีได้ออก ”โครงการงดเว้นความผิดแก่ชาวเทศบาลโอเชียนที่ยินยอมเปิดเผยรายได้ของตนเอง” (Ocean county Recipient Voluntary Disclosure Program) ซึ่งผู้ที่ยินยอมเข้าร่วมโครงการจะต้องคืนเงินสวัสดิการที่ตนเองโกงไปทั้งหมดรวมถึงจ่ายค่าปรับเพิ่มเติมเพื่อแลกกับการไม่ต้องรับโทษ
ฟิลิป เดกแนน (Philip Degnan) ผู้ตรวจสอบบัญชีแห่งรัฐนิวเจอร์ซี กล่าวว่า นอกเหนือไปจากการต้องคืนเงินค่าปรับ “ผู้กระทำความผิดที่เข้าร่วมโครงการจะถูกงดการขอรับเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลเป็นเวลา 1 ปี” รวมถึง “ข้อมูลของผู้กระทำความผิดที่เข้าร่วมโครงการจะถูกส่งต่อไปยังกรมสรรพากรรวมถึงหน่วยงานประกันสังคมแห่งรัฐนิวเจอซี” ซึ่งอาจจะหมายถึงจะมีการตามเก็บภาษีค่าประกันสังคมย้อนหลัง
อย่างไรก็ดีโครงการดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่าเป็นโครงการนิรโทษกรรมที่ไม่ยุติธรรมต่อผู้ทำงานเสียภาษีเนื่องจากเหมือนเป็นบัตรผ่านออกจากคุกโดยไม่ต้องรับโทษ
กระนั้น ไม่มีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นหรือไม่?
หากเปรียบเทียบพฤติการณ์กับคดีโกงเงินคนจนในกระทรวง พม. จะเห็นว่า คอร์รัปชันเหมือนกัน แต่พฤติการณ์ต่างกัน
คดีโกงเงินจน ลักษณะแห่งคดีคือเงินไม่ถึงมือคนจนและหรือถึงไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ปั้นบัญชีผีขึ้นมาแล้วเอางบประมาณจากรัฐ ขณะที่คดีนี้ในนิวเจอร์ซีย์ คือชาวเมืองปิดบังอำพรางรายได้ที่แท้จริง (แกล้งจน) เพื่อหลอกเอาเงินช่วยเหลือสวัสดิการจากรัฐ
ช่างสวนทาง กลับหัวกลับหาง กลับด้าน จริง ๆ ?
ที่มา : http://nj1015.com/amnesty-for-welfare-cheats-nj-defends-giving-an-out-to-residents-in-1-county/ , https://www.nj.com/ocean/index.ssf/2017/06/72_hours_in_lakewood_what_to_know_about_the_welfare_fraud_arrests.html
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก สำนักข่าว nj.com