สุริยะใสจี้กกต.สอบแม้ววิดีโอคอลขัดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่
สุริยะใส แนะนักการเมืองอ่านรัฐธรรมนูญจริงจัง ระวังตายน้ำตื้น จี้ กกต.สร้างบรรทัดฐานกรณีทักษิณเข้าข่ายขัด พรป.พรรคการเมือง หรือไม่
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิตและผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตรและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถี่ขึ้นและบ่อยขึ้นกระทั่งล่าสุดในงานเลี้ยงวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งเห็นการวิดีโอคอล และการพูดคุยในงานเลี้ยง นายทักษิณได้แสดงให้เห็นว่ายังเป็นผู้ที่ยุ่งเกี่ยวและมีอิทธิพลที่สามารถครอบงำและชี้นำพรรคเพื่อไทยได้ เหมือนเดิม แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในขณะนี้แล้ว
กรณีนี้จึงอาจเข้าข่ายขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 - 29 ที่ห้ามผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหรือคนนอกพรรคยุ่งเกี่ยว แทรกแซง ครอบงำ ชี้นำพรรคการเมือง ซึ่งมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้ตามมาตรา 92 ซึ่งมาตราดังกล่าวเป็นมาตราที่บัญญัติขึ้นใหม่ไม่เคยมีมาก่อนเข้าใจว่าเจตนารมย์ของกฎหมายมาตรานี้เพื่อให้พรรคการเมืองเป็นอิสระดำเนินกิจกรรมการเมืองตามเจตจำนงค์ของพรรคและสมาชิกพรรคไม่ใช่กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุน กลุ่มผลประโยชน์เหมือนที่ผ่านมา จนทำให้พรรคการเมืองขาดความเป็นสถาบันและไม่ตอบโจทย์ประชาชน
ฉะนั้นพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งที่รับและไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องอ่านและศึกษาให้ถ่องแท้เพราะกลไกที่กำกับนักการเมืองและพรรคการเมืองมีกลไกใหม่ๆหลายมาตรการ ถ้าจะใช้แค่ความเก๋าหรือพึ่งพาประสบการณ์เดิมๆ ระวังจะตายน้ำตื้นได้
"คำพูด ภาพและเสียงของคุณทักษิณได้ปรากฎไปทั่วสาธารณะแล้ว จนสังคมตั้งคำถามว่าพฤติกรรมดังกล่าวขัดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้มีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามกฎหมายนี้จำเป็นต้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องให้ใครไปร้องเรียนและเร่งหาข้อยุติเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับทุกพรรคการเมืองต่อไป"นายสุริยะใสกล่าว