รายอนี้ไม่มีพ่อ...อีกหนึ่งวิกฤติสังคมที่ปลายด้ามขวาน
"คิดถึงพ่อเวลาอยู่คนเดียว เศร้าบ้าง ร้องไห้บ้าง ต้องตั้งสติ นิ่งๆ หลับตา หายใจเข้าหายใจออก เพื่อนๆ ช่วยปลอบว่าอย่าร้องไห้ พ่อที่อยู่ในกุโบร์จะร้องไห้เหมือนกัน"
เป็นคำบอกเล่าถึงความรู้สึกของเด็กชายวัยเพียง 11 ปีที่ต้องสูญเสียบิดาไปจากสถานการณ์ความไม่สงบ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขในเทศกาลฮารีรายอ หลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม
ปัญหาความรุนแรงยืดเยื้อในจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปหลายพันศพ ทำให้มีเด็กกำพร้าและแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายพันคน กลายเป็นวิกฤติทางสังคมที่หลายครอบครัวต้องเผชิญในห้วงเวลาที่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่กำลังดีวันดีคืน
วิกฤตินี้ไม่ต่างอะไรกับ "ระเบิดเวลา" เพราะหากภาครัฐละเลย ก็จะกลายเป็นปัญหาใหม่ซ้อนทับในพื้นที่ ดังเช่นที่เคยเกิดมาแล้วในหลายๆ พื้นที่ขัดแย้งทั่วโลก
เด็กชายวัย 11 ปีกำพร้าพ่อตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 หนูน้อยเป็นคนสายบุรี จ.ปัตตานี มีพี่สาว 1 คน เมื่อต้องขาดพ่อไป แม่ของเขาต้องรับผิดชอบ 3 ชีวิตในครอบครัวเพียงลำดังด้วยการขายข้าวแกงเลี้ยงชีพ
"ตอนเกิดเหตุผมเรียนอนุบาล 1 จำได้ว่าแม่ร้องไห้จนสลบ ภาพความทรงจำกับพ่อที่ยังอยู่คือได้เล่นกับพ่อ ไปซื้อขนมกัน เมื่อไม่มีพ่อ โตขึ้นก็ช่วยทำงานบ้าน ช่วยแม่ล้างจาน เก็บกวาดใบไม้ จนเรียนจบ ป.4 ที่สายบุรี แม่บอกให้มาอยู่ที่นูซันตารา เพื่อความสบายใจในการได้เรียนศาสนา ประวัติท่านนบี ได้บุญและเป็นคนดี มาอยู่นี่ได้ปีกว่า ดีใจมากกับการที่ได้มาอยู่ที่นี่ ได้ความรู้ทั้งศาสนาและสามัญ เรียนอัลกุรอาน ละหมาดครบ มีเพื่อนที่ดี เล่นกับพวกเรา ที่นี่สอนให้ช่วยเหลือตัวเอง ทำอาหาร ซักเสื้อผ้า ทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันให้ได้หมด" เด็กชายเล่าอย่างฉะฉาน
"บ้านนูซันตารา" เป็นของมูลนิธินูซันตาราเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ตั้งอยู่ในพื้นที่วากัฟ (บริจาค) ของชาวบ้าน ที่บ้านบาโลย ต.บาโลย อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ปัจจุบันรับเด็กชายวัยประถมและมัธยมมาร่วมเป็นครอบครัวใหญ่จำนวน 13 คน มีผู้ดูแลเป็นสามีภรรยาและลูกสาวอีกสองคน ดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องความเป็นอยู่ การเรียนศาสนาและสามัญ เด็กประถมเรียนที่โรงเรียนบ้านบาโลย ใกล้ๆ บ้านนูซันตารา ส่วนเด็กมัธยมเรียนที่โรงเรียนส่งเสริมศาสน์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก
สาเหตุหลักที่แม่ของหนูน้อยวัย 11 ปี ส่งลูกชายคนเดียวมาอยู่ที่นี่หลังสูญเสียบิดา ก็เพราะสภาพแวดล้อมที่ชุมชนบ้านเดิมเต็มไปด้วยยาเสพติด แม่ไม่อยากให้ลูกไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไม่ดี จึงตัดสินใจส่งเขามาที่นูซันตารา และความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น โดยเฉพาะความรับผิดชอบ และการแสดงความรักที่มีต่อแม่
"มาอยู่ที่นี่รู้สึกได้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป จากที่ชอบทะเลาะกับแม่ มาเป็นรักแม่มากขึ้น เพราะได้รับความรู้ว่าท่านนบีมุฮัมหมัดรักแม่มากเช่นกัน เราต้องรักแม่ให้มากๆ แม่เป็นทุกอย่างของเรา แม่มาเยี่ยมทุกเดือน ดีใจที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของเรา" เด็กชายวัย 11 ปี กล่าว
เมื่อถึงวันรายอที่ทุกครอบครัวควรมีสมาชิกพร้อมหน้า แต่ครอบครัวของหนูน้อยขาดพ่อมาหลายปี หลายรายอ สิ่งที่เขาทำให้พ่อเพื่อทดแทนความคิดถึงที่มีต่อบิดาผู้ล่วงลับ ก็คือการไปเยี่ยมพ่อที่กุโบร์ ขอดุอาและบอกรักพ่อ
"ผมส่งความคิดถึงให้พ่อด้วยดุอาและละหมาด ให้พ่ออยู่ในกุโบร์ด้วยความสงบ ตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้เข้าสวรรค์เหมือนพ่อ บอกตัวเองเสมอว่าต้องเข้มแข็ง อย่าท้อ อย่าถอยหลัง"
รายอปีนี้เป็นอีกหนึ่งรายอที่ไม่มีพ่อของหนูน้อยวัยเพียง 11 ปี และยังมีเด็กกำพร้าอีกหลายพันคนที่ดินแดนแห่งนี้ที่มีชะตากรรมไม่ต่างกัน...
-----------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
ขอเป็นคนดี...แม้รายอนี้ไม่มีพ่อ