ภาพชีวิตที่ชายแดนใต้ในวันรายอ
หลังสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ก็ถึงวันอิฎิ้ลฟิตรี (ฮารีรายอปอซอ) ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 15 มิ.ย. มุสลิมทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยพากันเฉลิมฉลองกันถ้วนหน้า
เช้าวันรายอ มุสลิมทุกคนต่างสวมใส่เสื้อผ้าใหม่และสะอาด เบิกบานและสดใส มุ่งหน้าไปมัสยิดใกล้บ้านเพื่อละหมาดร่วมกัน สลามและขอมาอัฟ (ขอโทษ) ต่อกัน จากนั้นก็มุ่งไปยังบ้านเพื่อนบ้าน บ้านญาติทั้งใกล้และไกล เพื่อเยี่ยมเยียนกันด้วยน้ำใจ พร้อมอาหารและขนมติดไม้ติดมือ
ฮารีรายอเป็นเทศาลแห่งความพร้อมหน้าของครอบครัว ความรักความอบอุ่นสัมผัสได้ทั่วไปที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
กอเดร์ มะยิ ผู้นำอ่านธรรมรายอ ที่มัสยิดใน อ.ยะหา จ.ยะลา เล่าว่า ได้อ่านธรรมรายอโดยเน้นการมีชีวิตบนโลกปัจจุบัน ควรใช้ชีวิตในแนวทางของอัลลอฮ์ เพราะหลายคนเสียเวลากับโลกปัจจุบันไปมาก
"หลายคนบอกรักพ่อแม่ แต่ไม่ได้กลับมาหา ไม่ได้ทำดีกับพ่อแม่ ไม่ได้มีชีวิตที่อยู่ในหลักที่ถูกต้อง นั่นคือการเสียเวลาไปฟรีๆ
กอเดร์ ยังแสดงความเป็นห่วงการใช้ชีวิตอยู่กับสื่อสังคมออนไลน์มากเกินไป
"สังคมยุคปัจจุบันทุกคนใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยี ในอดีตเรากลัวที่จะดูทีวีในบ้าน แต่ทุกวันนี้ยิ่งกว่านั้น ไม่ใช่แค่เด็กๆ แต่เป็นกันทุกคน ทุกกลุ่ม หมกมุ่นอยู่กับเทคโนโลยี ทั้งเฟสบุ๊ค ทั้งไลน์ คนที่เป็นสามี คนที่เป็นภรรยาแยกกันไปอยู่กับโซเชียลมีเดียวันละหลายๆ ชั่วโมง เสียเวลาไปกับเทคโนโลยี ถ้าเราเอาเวลาที่ทำสิ่งเหล่านั้นมาใช้ชีวิตตามหลักอิสลาม มานั่งสมาธิ มาอ่านอัลกุรอาน หรืออ่านประวัติศาสตร์ จะส่งผลดีกับชีวิตมากกว่า"
"ผู้ชายและผู้หญิงในปัจจุบันไม่สนใจพ่อแม่ เวลาจะกินข้าวกับคนอื่นพาเข้าร้านใหญ่โต แต่กับพ่อแม่ไม่มีเวลา ต้องทำงาน ไม่เคยว่าง ชีวิตที่เหลือขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าเพื่ออัลลอฮ์ โดยการใช้เดือนรอมฎอนเป็นการเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ในโลกนี้และโลกหน้า อยู่ในแนวทางของอัลลอฮ์ และเดือนรอมฎอนที่ผ่านไป ถือว่าทุกคนได้ประสบความสำเร็จ 1 เดือนเต็มที่ทุกคนเคร่งครัดในการแสวงบุญ การทำความดีเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ์ การออกรายอเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ควรเริ่มชีวิตใหม่ แล้วความสงบจะเกิดขึ้นในพื้นที่" กอเดร์ กล่าว
ด้าน อิหม่ามแม เงาะ อิหม่ามประจำมัสยิดเจาะกลาดี อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า ได้ขอพรรายอปีนี้ ให้พื้นที่เกิดความสามัคคี สังคมสงบ ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
"ส่วนตัวมั่นใจว่าสังคมจะสงบได้ต้องเริ่มที่สถาบันครอบครัว จึงได้เน้นย้ำกำชับให้พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนดูแลลูก อย่าให้มีความเข้าใจศาสนาแบบผิดๆ เชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมกันสอดส่องลูกหลานของตนเอง สังคมก็จะมีความสงบสุข คนในพื้นที่ก็จะมีความสุข"
จากผู้นำศาสนา ไปฟังความรู้สึกชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปกันบ้าง น.ส.อามานี วาเด็ง จาก จ.ปัตตานี บอกว่า รายอปีนี้ได้มีโอกาสพาลูกไปเยี่ยมยายที่ยะลา เพราะยายไม่เคยเห็นหน้าหลาน เนื่องจากตนต้องไปทำงานในมาเลเซียเพื่อหารายได้นานเป็นปี จึงถือโอกาสรายอพาลูกไปเจอ ปรากฏว่ายายดีใจมาก ร้องไห้อยู่นาน
"ฉันไปทำงานในมาเลเซียมานาน กว่าจะกลับมาลูกก็โตแล้ว แม่ (ยายของเด็ก) คอยมาตลอด จะให้พาหลานกลับไปหา แต่ไม่มีโอกาส จึงใช้โอกาสวันรายอไปให้แม่ดูหน้าหลาน สำหรับพรรายอปีนี้ ขอให้ครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ในแนวทางของอัลลอฮ์ เพราะเชื่อว่าแนวทางของพระองค์เป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้สังคมบ้านเราในปัจจุบันไม่เกิดปัญหา มีแต่ความสงบ"
นี่คือภาพชีวิตของผู้คนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันรายอ เทศกาลแห่งความสุขของพี่น้องมุสลิม...