'มาร์ค'หนุนแก้รธน. แต่อย่าผลีผลาม เตือนกระแสตีกลับจากคนผ่าน'ประชามติ'
'มาร์ค'หนุนแก้รธน. แต่อย่าผลีผลาม เตือนกระแสตีกลับจากคนผ่าน'ประชามติ'
วันที่ 14 มิถุนายน คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดการเสวนาหัวข้อ “อนาคตประชาธิปไตยไทย ข้ามพ้นกับดักความหวัง” เนื่องในโอกาสครบรอบ 69 ปีของคณะ โดย นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กับดักของประเทศไทย คือ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องการห้ามทำกิจกรรมพรรคการการเมือง และห้ามประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพตามปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ไม่สามารถเดินตามโรดแมปที่กำหนดไว้ได้ แม้จะผ่านกับดักในจุดนี้ได้ แต่ในกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตย ยังมีเครื่องหมายคำถามว่า จะจัดได้ตามมาตรฐาน มีอิสระในการทำหน้าที่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ถึงขั้นมีการใช้อำนาจ ม.44 ปลดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
“นอกจากนี้ การที่ผู้มีอำนาจที่จากเดิมทำตัวเป็นกรรมการ ขณะนี้กำลังแสดงอาการเหมือนเป็นผู้เล่นด้วย จะทำให้การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นจะสุจริต เสรี และเป็นธรรมหรือไม่ รวมถึงการมี ส.ว.สรรหา อีก 250 คน ที่จะลงคะเเนนเลือกรัฐบาล ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มคนที่มีบทบาท และอาจใช้อำนาจที่สวนทางกับความต้องการของประชาชน”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กับดักสุดท้ายคือรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตย มีอุปสรรคที่ประชาชนไม่สามารถใช้อำนาจตามสิทธิเสรีภาพ ดังนั้นนักการเมืองต้องกอบกู้ศรัทธาจากประชาชน แต่เชื่อว่าข้ามพ้นได้และมีความหวัง
ทั้งนี้เชื่อว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฎิรูปประเทศ จะเป็นอุปสรรคของรัฐบาลที่เข้ามาทำหน้าที่ในอนาคต แต่หากคนที่อาสาเข้ามามีแผนที่ดีกว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็ขอให้มีความกล้าที่จะนำออกมา เพราะเชื่อว่าในอนาคตจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หากประชาชนให้การสนับสนุนก็สามารถทำได้ แต่ไม่ควรทำในทันที เพราะจะถูกมองจากกลุ่มที่ลงคะเเนนเสียงตอนทำประชามติรัฐธรรมนูญว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มอำนาจให้ตนเอง จึงต้องทำให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มีอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของประชาชนอย่างไร
“ผมเชื่อว่า ทุกกับดักสามารถก้าวข้ามได้ แต่ต้องข้ามด้วยหลักและจิตวิญญาณของกระบวนการประชาธิปไตย คสช. ควรอนุญาตให้มีการประชุมพรรคการเมือง เพราะผมยังไม่เคยเห็นพรรคการเมืองไหน ที่ประชุมแล้วสร้างปัญหาความมั่นคง ควรเปิดให้พรรคไปหาสมาชิก เพื่อทำไพรมารีโหวตกันอย่างจริงจัง แต่หากเวลาบีบขนาดนี้ การทำไพรมารีโหวตจะเป็นเพียงวิธีกรรม คนชนะจะได้เพียง 60 คะแนน ไม่มีความหมาย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ที่มาข่าว:http://www.naewna.com/politic/345353