เครือข่ายป้องกันอุบัติเหตุฯเสนอ 'คมนาคม'ตั้งสถาบันวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนน
รมว.คมนาคม ตอบรับข้อเสนอเครือข่ายป้องกันอุบัติเหตุฯ และองค์การอนามัยโลก ย้ำการทำงานของคมนาคมยึดความปลอดภัยทุกระดับ เห็นชอบความสำคัญของหน่วยงานวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญและภาคีป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของไทย ยืนยันกระทรวงคมนาคมมีความพยายามในการดำเนินงานและต้องทำให้ประเทศไทยเกิดความปลอดภัยทางถนนอย่างเต็มที่ โดยทางกระทรวงมีนโยบายให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน ระหว่างการก่อสร้างของกรมทางหลวง มีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมสภาพถนน มีการรณรงค์ให้เปิดไฟหน้ารถในเวลากลางวันเช่นเดียวกับมาตรฐานความปลอดภัยในยุโรป เรื่องของผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่มีใบขับขี่ เด็กไม่มีใบขับขี่ แก้ไขด้านวิศวกรรมจราจร พร้อมเห็นชอบที่จะต้องมีหน่วยงานวิชาการเพื่อสนับสนุนให้เกิดการดำเนินงานเพื่อความปลอดภัยทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการวิจัยการกำกับติดตาม
นายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลกและโรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมจราจร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เข้าพบ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้สนับสนุนการจัดตั้งสถาบันวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนนภายใต้กระทรวงคมนาคม เพื่อเน้นย้ำการดำเนินงานต่างๆ ที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งไว้ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางถนน และได้กำหนดแผนงานเรื่องความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อความยั่งยืน
ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลก เน้นย้ำว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนงานและปฏิบัติการที่ต้องการลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จนเกิดผลให้เห็นหลายด้าน เช่น การเร่งรัดสร้างระบบรางเพื่อเพิ่มทางเลือกการเดินทางที่ปลอดภัย การลดอุบัติเหตุของรถขนส่งและรถโดยสารสาธารณะ การกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในพื้นที่การก่อสร้าง การปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยง การณรงค์เพื่อให้เกิดพฤติกรรมความปลอดภัย
"เรื่องที่ประเทศเรากำลังเดินหน้าสร้างความปลอดภัยทางถนนขณะนี้ สอดคล้องกับผลจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ 13 เม.ย. 2561 เองก็รับรองเป้าหมายระดับโลกด้านความปลอดภัยทางถนน 12 ข้อ โดยตัวชี้วัดของเป้าหมายข้อที่ 1 มีข้อเสนอแนะให้ ประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการจัดให้มีหน่วยงานองค์กรนำ (Lead Agency) ด้านการบริหารจัดการและวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนนและแนะนำให้ทุกประเทศ ดำเนินการภายในปี 2563 ซึ่งไทยเองมีการกำหนดในยุทธศาสตร์ ข้อที่ 2 จากคณะกรรมการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อแผนการปรับปรุงข้อมูลสารสนเทศ และการเชื่อมข้อมูลองค์กรดำเนินการด้านวิจัยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ทำหน้าที่รวบรวมวิเคราะห์เชิงลึกร่วมกับภาคีทางวิชาการ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุสำคัญ เพื่อนำมาพิจารณาป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด" นายแพทย์วิทยา กล่าว