เพิกเฉยคำสั่งนายกฯ! “บ้านป่าแหว่ง” ขรก. 30 ครอบครัว เริ่มเข้าอยู่
อีก 1 สัปดาห์จะถึงกำหนดส่งมอบบ้านพักตุลาการ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ เฟสสุดท้าย ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพรอคอย เพราะหมายความว่ากระบวนการหลังจากนั้น จะเข้าสู่ช่วงการปรับพื้นที่เพื่อคืนพื้นป่าให้ดอยสุเทพ ตามที่ทุกฝ่ายตกลงกัน แต่ดูเหมือนการแก้ปัญหาจะถูกยืดเวลาออกไปเมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างจะเลื่อนกำหนดการส่งมอบงาน เพราะยังก่อสร้างไม่เสร็จ ขณะที่การเข้าตรวจสอบพื้นที่ของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ล่าสุดถูกห้ามไม่ให้เข้าพื้นที่
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสื้อผ้าที่ถูกตากไว้ริมระเบียงอาคารที่พักภายในศาลอุทธรณ์ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ คือ สิ่งที่ทำให้เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กังวลว่า ข้าราชการศาลยุติธรรมและข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 อาจนิ่งเฉยต่อมติการหารือร่วมกันระหว่างภาคประชาชนกับตัวแทนรัฐบาล ที่ระบุว่าจะไม่มีการใช้อาคารดังกล่าวเป็นที่พักของข้าราชการ เพราะจุดนี้รุกล้ำพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ นายบัณรส บัวคลี่ โฆษกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับข้อมูลว่ามีข้าราชการเข้าพักอาศัยในอาคารดังกล่าวกว่า 30 ครอบครัว และเมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ธุรการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้รับคำตอบว่ายังไม่มีคำสั่งหรือแผนให้ข้าราชการกลุ่มนี้ย้ายออกจากบ้านพักดังกล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พบการเปิดไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่ ซึ่งทางเครือข่ายฯคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงที่ผู้รับเหมาทดสอบระบบน้ำ-ไฟส่องสว่าง ก่อนส่งมอบอาคารบ้านพักจำนวน 45 หลัง แต่การตรวจสอบข้อมูลพบว่า การก่อสร้างอาจล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้ผู้รับเหมาไม่สามารถส่งมอบบ้านพักชุดสุดท้ายในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ได้
ขณะที่การเดินทางมาที่หน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 วันนี้ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ระบุว่า เป็นการเดินทางมาตามนัดหมายของคณะอนุกรรมการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ และคณะอนุกรรมการศึกษาการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับเป็นป่าสมบูรณ์ ที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน แต่เจ้าหน้าที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่อนุญาตให้กลุ่มภาคประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะอนุกรรมการเข้าตรวจสอบ โดยอนุญาตให้เฉพาะคณะอนุกรรมการฯที่เป็นตัวแทนจากหน่วยงานราชการ และนักวิชาการเท่านั้น
โดยหลังจากนี้ นายบัณรส ระบุว่า จะแจ้งเรื่องให้คณะกรรมการรับทราบ เพราะการแต่งตั้งภาคประชาชนเป็นคณะอนุกรรมการเป็นการดำเนินการตามแนวทางหาทางออกปัญหาข้อพิพาทเรื่องการก่อสร้างบ้านพักตุลาการ