เจาะพฤติการณ์ บิ๊กสกสค. เอื้อหจก.โคราช เปลี่ยนเช็คใหม่ ยืดเวลาจ่ายหนี้200ล.เด้ง2ฉ.รวด!
"...นอกเหนือจากความพยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. ดังที่กล่าวไปแล้ว ต่อมาหลังจากนั้น ผู้บริหารระดับสูง สกสค. รายนี้ ยังได้ยินยอมให้ หจก.คู่สัญญา นำเช็คฉบับใหม่ มาเปลี่ยนกับเช็คฉบับเก่า เพื่อให้ระยะเวลาที่ต้องชำระเงินตามเช็คงวดที่ 3 จำนวน 200 ล้านบาท ออกไปเพิ่มเติมได้อีกด้วย ก่อนที่ในที่สุดเช็คทั้งใบใหม่ใบเก่า ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จนเป็นเหตุให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท..."
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำหนังสือแจ้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สืบสวนการทุจริตกรณีการทำสัญญาซื้อขายสินค้า ระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ตามสัญญาเลขที่ 436/2558 ลงวันที่ 16 ธ.ค.2558 ที่มีปัญหาเกิดขึ้นในการจ่ายเงินงวดที่ 3 วงเงิน 200 ล้านบาท เนื่องจาก หจก.ดังกล่าว ในฐานะผู้ซื้อสินค้า ได้สั่งจ่ายเงินค่าสินค้าเป็นเช็คธนาคารพาณิชย์ โดยไม่มีการนำเช็คฝากธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินภายในกำหนด แต่เจ้าหน้าที่ องค์การค้าของ สกสค. กลับออกใบเสร็จรับเงินให้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ได้ชำระค่าสินค้าครบถ้วนเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าได้ ทั้งที่ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงานการเงิน และบัญชี พ.ศ.2559 องค์การค้าของ สกสค. กำหนดให้จะต้องมีการชำระค่าสินค้าให้ครบถ้วนก่อนจึงจะส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อได้
และการที่เจ้าหน้าที่ สกสค. ไม่ได้นำเช็คของหจก.รายนี้ ไปฝากธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินภายในกำหนด แต่กลับออกใบเสร็จรับเงินไปให้ก่อน จึงถือว่าใบเสร็จดังกล่าว เป็นเอกสารรับเงินเท็จ และยังมีการช่วยเหลือลงบัญชีว่าได้รับชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มีการสั่งจ่ายสินค้าให้ หจก.ได้ ทั้งที่ ยังไม่ได้มีการชำระค่าสินค้ากันจริงด้วย
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ผู้บริหารระดับสูง สกสค.ในขณะนั้น มีความพยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร องค์การค้าของ สกสค. โดยอ้างต่อที่ประชุมว่า เหตุที่ยังไม่ได้มีการนำเช็คเข้าธนาคาร เพราะต้องการจะนำเช็คไปชำระหนี้ค่ากระดาษที่ยังค้างชำระกับเจ้าหนี้รายอื่น แต่ที่ประชุมเห็นว่า ควรนำเช็คเข้าบัญชีองค์การค้าก่อน เมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้แล้วจึงค่อยนำเงินไปชำระค่ากระดาษ แต่ผู้บริหาร สกสค.ในขณะนั้น เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามมติดังกล่าว แสดงเจตนาให้เห็นว่าได้ร่วมกันกระทำผิดและช่วยเหลิอปกปิดมิให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ต่อมามีการสืบทราบข้อมูลในภายหลังว่า เช็คที่รับมา ไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงเป็นเหตุทำให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท (อ่านประกอบ : เปิดคดีทุจริตใหม่ สกสค. ! เอื้อปย.รับเช็คเด้ง200ล.จ่ายค่าสินค้ามิชอบ-ศธ.แจ้งDSI สืบสวนแล้ว)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบหนังสือกระทรวงศึกษาธิการ ที่ทำแจ้งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้เข้ามาสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นทางการ
พบว่า มีการระบุถึงพฤติการณ์ ผู้บริหารระดับสูง สกสค. ในขณะนั้นเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากความพยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. ดังที่กล่าวไปแล้ว
ต่อมาหลังจากนั้น ผู้บริหารระดับสูง สกสค. รายนี้ ยังได้ยินยอมให้ หจก.คู่สัญญา นำเช็คฉบับใหม่ มาเปลี่ยนกับเช็คฉบับเก่า เพื่อให้ระยะเวลาที่ต้องชำระเงินตามเช็คงวดที่ 3 จำนวน 200 ล้านบาท ออกไปเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ก่อนที่ในเวลาต่อมาเช็คทั้งใบใหม่ใบเก่า ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จนเป็นเหตุให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
สำหรับผู้เกี่ยวข้องในกรณีนี้ ที่กระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ดีเอสไอ สืบสวน นั้น มีการระบุชัดเจนว่า ในส่วนของผู้บริหารระดับสูง สกสค. รายที่มีปัญหาดังกล่าว แท้จริงแล้ว มีสถานะเป็นผู้บริหารของหน่วยงานหนึ่ง ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในสกสค. ส่วนที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่
แหล่งข่าวระดับสูงจาก สกสค. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า การทำสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ หจก.แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา วงเงินพันล้านบาทดังกล่าว เป็นการทำสัญญาซื้อขายหนังสือเรียน ประจำปีการศึกษา 2559 ซึ่งมีปัญหาอยู่ตรงที่เช็คจำนวน 200 ล้านบาท ที่หจก.จ่ายค่าหนังสือมาเด้ง ไม่สามารถขึ้นเงินได้ ปัจจุบันองค์การค้าของ สกสค. ได้ยื่นเรื่องฟ้องศาลกับหจก.ไปแล้ว และยังตัดได้สิทธิ หจก.รายนี้ ไม่ให้เข้าทำสัญญาซื้อขายหนังสือกับ องค์การค้าของ สกสค.อีกด้วย
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ หจก.คู่สัญญา นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันยังประกอบธุรกิจอยู่ จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2522 ทุน 17,500,000 บาท ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา แจ้งประกอบธุรกิจ จำหน่ายเครื่องเขียนและแบบเรียน
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ ผู้บริหารหจก. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือหมายเลข 044-241-XXX อย่างไรก็ตาม พนักงานหจก.รายหนึ่ง แจ้งว่า ผู้บริหารไม่อยู่และไม่มีใครให้ข้อมูลเรื่องนี้ได้
ขณะที่มีรายงานข่าวจากดีเอสไอแจ้งว่า เกี่ยวกับคดีนี้ ดีเอสไอ สอบสวนเสร็จสิ้น และส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปสอบสวนต่อแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.2561 ที่ผ่านมา
อ่านประกอบ :
เปิดคดีทุจริตใหม่ สกสค. ! เอื้อปย.รับเช็คเด้ง200ล.จ่ายค่าสินค้ามิชอบ-ศธ.แจ้งDSI สืบสวนแล้ว