ข้อกำหนดร่วม สร้างสุขภาวะเด็กปฐมวัย 'ระดับอำเภอ'
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการประชุมการดำเนินงานพัฒนาระบบและกลไกเพื่อสุขภาวะเด็กปฐมวัย
ภายใต้โครงการการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อสุขภาวะเด็กปฐมวัยโดยใช้ครอบครัวและชุมชนเป็นฐาน (COACT) จากการสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และความต้องการการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยระดับอำเภอ ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ ว่า ตามที่คณะทำงานโครงการ ได้เก็บข้อมูลวิเคราะห์สถานการณ์และความต้องการของพื้นที่เพื่อการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับอำเภอ โดยเชื่อมโยงกับคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) เข้ามามีบทบาทในการดูแลเด็กปฐมวัยร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย
นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินการต่อไปของ COACT ต้องวางโครงสร้างการดำเนินงานที่เป็นข้อกำหนดของ ศพด.ในแต่ละข้อกำหนดให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ปัญหาและความต้องการการดูแลของเด็กปฐมวัยของพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของ อปท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างครอบครัวกับแกนนำชุมชน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อตอบสนองความต้องการการดูแลเด็กปฐมวัยได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นตั้งแต่เรื่องพัฒนาการ สุขภาพ พฤติกรรมเด็ก หรือกรณีประเด็นครอบครัวเดี่ยว ครอบครัวขยาย ครอบครัวแหว่งกลาง ต้องมีวิธีการจัดการในเรื่องของการเลี้ยงดู ฉะนั้น ท้องถิ่นและ ศพด.ควรวางมาตรการร่วมกัน เพื่อสร้างข้อกำหนด ซึ่งต้องมองการทำงานให้กว้างขึ้น โดยข้อกำหนดของ ศพด.จะมีการขยายบทบาทการทำงาน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์คือพัฒนาการเด็กดีขึ้น ปัญหาลดลง ครอบครัวได้รับสวัสดิการมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ท้องถิ่นต้องรับรู้ ระบบต้องเชื่อมโยงกัน
“ขณะนี้ ประเทศไทยใน 1 อำเภอมีเด็กเกิดประมาณ 700 คน ที่ผ่านมาเน้นแต่พัฒนาการ ซึ่งสามารถปรับปรุงให้ข้อกำหนดครอบคลุมมากขึ้น ดังนั้น ต้องทำให้วิสัยทัศน์ของท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ COACT สามารถตอบสนองความต้องการของคนในท้องถิ่นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงควรจัดทำข้อเสนอให้กับองค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการยกระดับคุณภาพเด็กปฐมวัยโดยอาศัยมาตรการทางสุขภาพ การศึกษา พัฒนาสังคม ในการดูแลเด็กร่วมกัน”นพ.ยงยุทธ กล่าว