เปิดบ้านหลังที่ 2“พร้อมพงศ์”?อ้างยกให้เมียเก่า-ขู่งัดกล้องวงจรปิดฟ้องนักข่าว
เปิดบ้านหลังที่ 2“พร้อมพงศ์”?อ้างยกให้เมียเก่า แจงปมทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นซื้อเดือน ธ.ค.หลังเป็น ส.ส. พิลึก!?สวนทางเอกสารที่ส่ง ป.ป.ช.ระบุใช้เป็น“ที่อยู่”รับตำแหน่งตั้งแต่เดือน ส.ค. ขู่!งัดกล้องวงจรปิดฟ้องนักข่าวถ่ายรูป ไล่ไปตรวจนักการเมืองรัฐบาลเก่า ฟุ้งมีหลักฐานเพียบ แต่สื่อขอไม่ให้
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แจ้ง “ที่อยู่”ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอนเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554ระบุว่า เลขที่ 21/1 หมู่ 4 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ และที่อยู่ของบุตรอีกคนหนึ่ง คือ บ้านเลขที่ 999 หมู่ 77 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
แต่ทว่า ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน ไม่ปรากฏมีรายการทรัพย์สิน“โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง” ตามที่อยู่ที่ระบุไว้แต่แต่อย่างใด ซึ่งที่อยู่เลขที่ 21/1 หมู่ 4 ถนนรามอินทรา นั้นผู้สื่อตรวจสอบพบว่าเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น และเมื่อสอบถามเพื่อนบ้านระบุเห็นนายพร้อมพงศ์อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวนานหลายปี
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องบ้านสองแห่งที่ไม่ปรากฏอยู่ในรายการทรัพย์สินโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ ต่อข้อถามที่ว่า ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น เลขที่ 21/1 หมู่ 4 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เป็นบ้านของตนเองใช่หรือไม่ นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า “ใช่ครับ เป็นบ้านผมเอง”
“คือต้องเข้าใจก่อนว่าบ้านหลังนี้เนี่ยนะ ผมซื้อหลังเข้ารับตำแหน่ง ได้มาในช่วงเดือนธันวาคม หลังยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ ป.ป.ช.” นายพร้อมพงศ์ระบุ
เมื่อถามต่อว่า มีบ้านที่ถนนรามอินทราหลังเดียวใช่หรือไม่ นายพร้อมพงศ์ ตอบว่า “ ใช่ครับ มีที่นี่หลังเดียว”
เมื่อถามว่า แล้วบ้านที่สัตหีบ เลขที่ 999 หมู่ 77 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ล่ะ?
นายพร้อมพงศ์ ย้อนถามว่า “คุณไปเอามาจากไหน”
ผู้สื่อข่าวระบุว่า บ้านหลังนี้ ถูกระบุเป็นที่อยู่ของบุตรอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ปรากฏในบัญชีรายการทรัพย์สินที่ยื่นต่อป.ป.ช. เช่นกัน นายพร้อมพงศ์ หยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบว่า “บ้านหลังนั้นเป็นบ้านภรรยาเก่าของผมเอง ไม่ใช่ของผม เราเลิกกันนานแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตอนที่เลิกกันก็มีการคุยกันว่า ว่าลูกคนหนึ่งไปอยู่กับเขา ส่วนอีกคนหนึ่งก็มาอยู่กับผม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการชี้แจงดังกล่าว ได้โทรศัพท์ไปยื่นยันข้อมูลเรื่องวันเวลาการซื้อทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จากนายพร้อมพงศ์อีกครั้ง เนื่องจากผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายพร้อมพงศ์ เข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 และได้จัดส่งเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ให้กับ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2554 เวลา 10.00 น. ก่อนหน้าเดือนธันวาคม 2554 ที่นายพร้อมพงศ์ อ้างว่าได้ซื้อบ้านหลังนี้มา ประมาณ 4 เดือน และในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว ก็มีการระบุว่าบ้านหลังนี้เป็นที่อยู่ของตนเองและลูกไว้ ก่อนล่วงหน้าด้วย
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ซื้อบ้านหลังนี้ มาเมื่อไร นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า “ผมได้มาเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่จำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่ ผมมีหลักฐานที่จะไปชี้แจงกับป.ป.ช.ได้ ในวันที่พ้นตำแหน่งอีกครั้ง”
ก่อนจะระบุว่า “อย่ามาตรวจสอบผมเลย ผมมันแค่พวกปลาซิวปลาสร้อย คุณต้องไปตรวจสอบพวกตัวใหญ่ๆ พวกรัฐบาลชุดเก่าๆ ที่ทำงานกันมา 2 ปี 8 เดือนโน่น ผมเป็นแค่ส.ส. และอีกอย่างรัฐบาลชุดนี้ก็เพิ่งเข้ามาทำงาน มันจะยิ่งทำให้รัฐบาลเขาทำงานยากนะ”
“คุณต้องตรวจสอบพวกคนใหญ่คนโต มันจะได้สร้างความน่าเชื่อถือ มาตรวจสอบคนเล็กๆอย่างส.ส.แบบนี้ คนเขาหัวเราะเยาะตาย” นายพร้อมพงศ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการชี้แจงข้อมูลดังกล่าว ประมาณ 10 นาที นายพร้อมพงศ์ ได้โทรศัพท์กลับมาอีกครั้ง พร้อมระบุว่า “ผมให้คนของผมตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านแล้ว เห็นพวกคุณไปถ่ายรูปที่หน้าบ้านผม ผมฟ้องได้เลยนะในฐานะที่พวกคุณละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แล้วข่าวที่ลงคุณลง ก็มีสื่ออื่นเอาไปลงแล้วขยายต่อ หาว่าผมซุกบ้าน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วผมก็สามารถฟ้องได้อีกในฐานหมิ่นประมาท”
นายพร้อมพงศ์ ยังระบุด้วยว่า “ถ้าคุณอยากตรวจสอบนักนะ คุณไปตรวจสอบพวกที่พ้นตำแหน่งไปแล้วจะดีกว่า ว่าก่อนเข้ารับตำแหน่ง กับหลังเข้ารับตำแหน่ง บัญชีทรัพย์สินมันต่างกันอย่างไร คุณมาตรวจสอบส.ส.แบบนี้เนี่ย มันน่าขำมาก คนอื่นเขาก็จะเห็นเป็นเรื่องตลก คุณดูสิสื่อใหญ่เขาไม่เล่นกันหรอกเรื่องแบบนี้ แล้วอีกอย่างคุณต้องทำข่าวแบบเป็นกลาง ไม่ใช่คุณจะโจมตี จับผิดพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว มันเอนเอียง คุณต้องอย่าสองมาตรฐาน”
ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า การตรวจสอบข้อมูลทำทั้งสองฝ่าย ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน อยู่แล้ว นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า “ก็ดีแล้ว พวกคุณควรจะไปตรวจสอบนักการเมืองของรัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะทำงานมานานกว่า รัฐบาลชุดนี้”
“รัฐบาลชุดนี้ เพิ่งเข้ามาทำงานไม่นานเอง ไม่ตรวจสอบรัฐบาลชุดเก่าดีกว่า ผมรู้ข้อมูลเยอะหลายคน ว่าเป็นอย่างไร ไปทำตรงนั้นดีกว่า”
เมื่อถามว่ามีข้อมูลนักการเมืองรัฐบาลชุดเก่า ที่ชัดเจน และพร้อมเปิดเผยหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า “ข้อมูลนะ ผมมีอยู่แล้ว แต่ไม่อยากจะพูด พวกคุณไปตรวจสอบกันเองดีกว่า อย่ามาตรวจสอบรัฐบาลชุดนี้เลย”