ไขปม ไฉน! บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ต้องขอโทษ กรณีจับ‘พุทธะอิสระ’
“เมื่อเกิดกระแสความไม่พอใจของฐานมวลชนจากฝั่ง กปปส. ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. ผู้นำรัฐบาลจึงต้องออกมาตัดกระแสความไม่พอใจที่กำลังมุ่งเข้าสู่ผู้นำรัฐบาล และส่งสัญญาณให้รับทราบว่า ‘ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ’ ‘ไม่รับรู้ด้วย’‘ไม่ทราบเรื่องมาก่อน’? เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ”
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดกองปราบปรามนับร้อยคนบุกจับกุม พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อดีตแกนนำ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เวทีแจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 24 พ.ค.2561 ตามหมายจับ 2 คดีอั้งยี่ ซ่องโจร กรณี การ์ด กปปส.ร่วมกันทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาล 2 นาย บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส ปี 2557 และคดีปลอมพระปรมาภิไธย และใช้พระปรมาภิไธยปลอม ใน ปี 2554 หลังจากมีการเผยแพร่คลิปการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการดังกล่าว ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเหมาะสมแล้วเป็นไปตามยุทธวิธีของตำรวจกองปราบในการเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่คนทั่วไปอาจไม่คุ้นชิ้น ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่า รูปแบบวิธีการทำเกินเลยกว่าเหตุ ผู้ต้องหากำลังจำวัดอยู่ในมุ้ง ไม่มีอาวุธ ไม่มีท่าทีต่อสู่ขัดขืนหรือหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่แสดงกิริยาวาจาไม่เหมาะสม
กระทั่งล่าสุด วันที่ 26 พ.ค.2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาขอโทษแทนการกระทำของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ผ่าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม สั่งกำชับต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก รวมทั้งฝากขอโทษนายสุวิทย์ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และ พล.ท.สรรเสริญ ออกมาสำทับอีกครั้งในวันต่อมา วันที่ 27 พ.ค.2561 ว่านายกฯขอโทษเพราะเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุและไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับอดีตพระพุทธะอิสระ
เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร อยู่ในฝั่งที่เห็นว่า การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ‘ไม่เหมาะสม’
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ออกมาแสดงความเห็นปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาก่อนหน้านี้ว่า ‘ถูกต้องตามหลักยุทธวิธี’ ไม่ได้เกินว่าเหตุ
เท่ากับ ความเห็นของนายกฯและรองนายกฯ สวนทาง กับ ผบ.ตร. และ ผบช.ก ?
หากตั้งคำถามว่า นอกจาก ‘ไม่เหมาะสม’แล้ว มีปัจจัยสนับสนุนอะไรหรือไม่ ? ที่ทำให้ หัวหน้า คสช. และ รัฐบาล ออกมาตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอโทษนายสุวิทย์
มีข้อมูลบางประการ
1. อดีตพระพุทธะอิสระเป็นพระที่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ให้ความเคารพนับถือ เห็นได้จากเคยปรากฏภาพเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ และ 3 อดีต ผบ.ทบ เข้าร่วมพิธีเททองพระนาคปรกที่จัดสร้างเมื่อปี 2552 โดยมีภาพเผยแพร่ในสื่อเมื่อปี 2555 และเมื่อเร็วๆนี้
2. อดีตพระพุทธะอิสระ มีบทบาทเป็นแกนนำ กปปส. ร่วมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงปี 2556 - 2557 จนนำมาซึ่งเหตุการณ์รัฐประหาร และ แสดงตัวเป็นกองหนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ รัฐบาล และ คสช. มาโดยตลอด
น่าสังเกตว่า
1.การปฏิบัติการบุกจับอดีตพระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องคดีเงินทอนวัด 5 รูป และ อดีตพระพุทธะอิสระ ซึ่งคดีไม่ได้เกี่ยวข้องกัน โดยคดีทุจริตเงินทอนวัดเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2560 - พ.ค.2561 ขณะที่คดีปลุกเสกพระนาคปรก มีการแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามโดย นายวิชัย ประเสริฐสุดศิริ ผู้ประสานงานองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) และคณะ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2560 และ อดีตพระพุทธะอิสระ เดินทางไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนกองปราบ เมื่อ วันที่ 11 เม.ย. 2560 ส่วนคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาล 2 นายเกิดขึ้นตั้งแต่มีการชุมนุม ม็อบ กปปส. ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2557 ในช่วงที่ผ่านมา จุดยืนอดีตพระพุทธะอิสระ ก็เรียกร้องให้มีการตรวจสอบพระผู้ใหญ่ในคดีเงินทอนวัดและธรรมกายมาโดยตลอด แต่การบุกจับพระทั้งสองฝ่าย เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
2.เป็นไปได้หรือไม่? ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) หรือ ผู้บังคับการกองปราบปราม ไม่ได้รายงานให้ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯที่รับผิดชอบฝ่ายความมั่นคงและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี รับทราบก่อน หรือ อาจรายงานให้ทราบภายหลังดำเนินการแล้ว (ซึ่งในทางการบริหารงาน เมื่อมารู้ภายหลังก็ต้องถือว่า‘เสียหน้า’พอสมควร?)
3.เมื่อเกิดกระแสความไม่พอใจของฐานมวลชนจากฝั่ง กปปส. ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. ผู้นำรัฐบาลจึงต้องออกมาตัดกระแสความไม่พอใจที่กำลังมุ่งเข้าสู่ผู้นำรัฐบาล และส่งสัญญาณให้รับทราบว่า ‘ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ’ ‘ไม่รับรู้ด้วย’ ‘ไม่ทราบเรื่องมาก่อน’? เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถขัดขวางกระบวนการยุติธรรมได้ หากกระทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
ปฏิบัติการกวาดล้าง ดงขมิ้น และ‘คลิปจับพระ’ ในครั้งนี้สลับซับซ้อน ชนิดคลิปเดียว เสียวสั่นสะเทือน และ มีร่องรอยร้าวเกิดขึ้น?
อ่านประกอบ :
เทียบนาที ตร.จับ‘รักเกียรติ-กำนันเป๊าะ-ชาดา-พุทธะอิสระ’เหมาะสม หรือ โอเวอร์แอ็คชัน?