‘ทันตแพทยสภา’ ร้อง ‘คลัง’ ทบทวนระเบียบจ้างลูกจ้าง ชี้ต้องเข้าใจบริบท รพ.รัฐ
ทันตแพทยสภาออกแถลงการณ์ เรียกร้องคลังทบทวนออกระเบียบจ้างลูกจ้างด้วยเงินนอกประมาณ ชี้กระทบขวัญกำลังใจบุคลากรสาธารณสุข เหตุกระทบการทำงานของ รพ.ในการให้บริการรักษาพยาบาลประชาชน ทำให้บุคลากรทำงานยากลำบากมากขึ้น ระบุก่อนออกระเบียบใดๆ ขอให้เข้าใจบริบท รพ.รัฐและศึกษาผลกระทบก่อน
ผศ. (พิเศษ) ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณที่ที่กระทรวงการคลัง ออกระเบียบว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยมีสาระสำคัญคือ หากกระทรวงใดหรือหน่วยงานใดจะจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง ต้องขอให้ปลัดกระทรวงการคลังพิจารณา โดยจ้างได้ไม่เกินปีงบประมาณ และอัตราค่าจ้างไม่เกินค่าจ้างขั้นต่ำของตำแหน่ง-วุฒิ ไม่มีการเลื่อนขั้นค่าจ้างโดยประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2561 นั้น
ทันตแพทยสภาเห็นว่า แม้ว่าเจตนารมณ์ในการออกระเบียบ จะทำเพื่อต้องการจัดระเบียบการจ้างพนักงานและลูกจ้างของส่วนราชการ เพื่อวางกรอบอัตรากำลังหรือจัดสรรงบประมาณในอนาคต แต่การออกระเบียบแบบเหมารวมโดยไม่พิจารณาบริบทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และไม่มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ที่ดี ได้ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของลูกจ้างและพนักงาน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ที่ปัจจุบันมีกรอบอัตรากำลังไม่สอดคล้องกับภาระงานในการดูแลสุขภาพของประชาชน และต้องใช้เงินบำรุงมาจ้างลูกจ้างหรือพนักงานให้ทำหน้าที่ต่างๆ ทั้งภารกิจในการรักษาพยาบาล หรือภารกิจสนับสนุนเพื่อให้การรักษาเป็นไปตามคุณภาพและมาตรฐาน
ผศ. (พิเศษ) ทพ.ไพศาล กล่าวว่า ปัจจุบันมีการจ้างด้วยเงินนอกงบประมาณในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักกายภาพบำบัด นักเทคนิคการแพทย์ ทันตาภิบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ เวรเปล ฯลฯ ทำงานสอดประสานเป็นทีมเดียวกัน ซึ่งทุกตำแหน่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชนทั้งสิ้น
“ดังนั้นทันตแพทยสภาขอเรียกร้องให้กระทรวงการคลังทบทวนการออกระเบียบดังกล่าวไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพนักงานและลูกจ้างเงินนอกงบประมาณ และได้โปรดทำความเข้าใจบริบทการทำงานของโรงพยาบาล รวมทั้งศึกษาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนการดำเนินการใดๆ ที่มีผลกระทบต่อส่วนรวมในวงกว้าง” นายกทันตแพทยสภา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทปอ.จี้กรมบัญชีกลางทบทวนระเบียบ ก.คลัง จ้างพนง.นอกงบฯ กระทบ ม.ในกำกับฯ ขาดความคล่องตัว
เมื่อยุงร้ายกว่าเสือ...แล้วการรวมศูนย์อำนาจนั้นจะร้ายกว่าการคอร์รัปชันไหม?