พณ.ชี้ขึ้นราคาก๊าซหุงต้มกระทบต้นทุนอาหาร 10-20 ส.ต.
กรมการค้าภายใน ชี้การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มกระทบต้นทุนผลิตอาหารไม่ถึง 1 บาท เตือนผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้ศึกษาผลกระทบของการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มขนาดถัง 15 กิโลกรัม จาก 353 บาท เป็น 395 บาท หรือเพิ่มขึ้น 49 บาท จะทำให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) เพิ่มขึ้น 15-20 สตางค์ต่อจาน โดยคำนวณจากก๊าซหุงต้ม 1 ถังปรุงอาหารได้ 100-200จาน เช่น ก๋วยเตี๋ยวมีต้นทุนก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้น 1.88 บาทต่อชาม
ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการอาหารจานด่วนจะขึ้นราคา เพราะกระทบต้นทุนการผลิตอาหารน้อย โดยกรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบราคาอาหารจานด่วนในตลาด และตรวจสอบการขายก๊าซเพื่อไม่ให้ขายเกินราคาที่กระทรวงพลังงานกำหนดราคาอ้างอิง
นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้จะหารือกับผู้ผลิตสินค้าเพื่อประเมินสถานการณ์ราคาสินค้าที่ปรับขึ้นหลังจากที่แนวโน้มราคาน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นต้นทุนของค่าขนส่งมีราคาสูงขึ้น โดยจะขอความร่วมมือให้ชะลอปรับขึ้นราคาสินค้าไว้ก่อนหากต้นทุนไม่ปรับขึ้นมากนัก
ทั้งนี้ ได้คำนวณต้นทุนการปรับขึ้นค่าขนส่งรถบรรทุกที่จะปรับราคาขึ้นมา 5% พบว่าจะกระทบราคาขายปลีกสินค้าในภาพรวมน้อยสุด 0.0032% และกระทบมากสุดที่ 0.4853% โดยสินค้าที่กระทบน้อยสุด คือ ผ้าอนามัย และสินค้ากระทบมากสุด คือ ปูนซีเมนต์ ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มพบว่าจะกระทบน้อยสุด 0.0178% มากสุด 0.2772% ซึ่งสินค้าที่กระทบน้อยสุด คือ ปลากระป๋องสินค้า และสินค้าที่กระทบมากที่สุด คือ นมถั่วเหลือง ส่วนหมวดเกษตรสินค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น ยาปราบศัตรูพืชกระทบ 0.0848% และปุ๋ยเคมีกระทบ 0.2452%