เปิดยิบ! หจก.ดีดีทวีคูณ พันคดีเงินทอนวัด25ล.ชื่อแม่ 'ร.ต.' หราเจ้าของ ก่อนโอนต่อนอมินี
".. คำถาม คือ ถ้าหากเงินจำนวน 25 ล้านบาท เป็นเงินค่าจ้างการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ที่ได้รับมาจากทางวัดจริงๆ แล้ว ทำไม น.ส.ฑัมพร และ นายฐิติทัตน์ ในฐานะเจ้าของหจก.ตัวจริง ถึงไว้ใจยอมให้มีการโอนเงินจำนวนมากแบบนี้ เข้าไปในบัญชีของ น.ส. นุชรา ซึ่งมีสถานะเป็นเพียงแค่นอมินี ไม่ใช่ญาติพี่น้องนามสกุลเดียวกันแต่อย่างใด และเพิ่งเอาชื่อมาถือหุ้นหจก. แทนไม่กี่เดือนเท่านั้น..."
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดี ดี ทวีคูณ ที่ปรากฎชื่อ น.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 32 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ผู้ได้รับโอนเงินจำนวน 25 ล้านบาท จากพระชั้นผู้ใหญ่ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น มานำเสนอให้สาธารณชนรับได้รับไปแล้ว ว่าจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 ทุนปัจจุบัน 3,500,000 บาท แจ้งที่อยู่เลขที่ 265/154 หมู่บ้านสิวลีรามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ปรากฎชื่อ นายกนกศักดิ์ ภูทองอูบ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 18 ตุลาคม 2560 นาย กนกศักดิ์ ภูทองอูบ ถือหุ้นใหญ่สุด 85.7143% น.ส. นุชรา สิทธินอก ถือหุ้นอยู่ 14.2857% นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่า มีรายได้รวม 5,616,692.16 บาท รวมรายจ่าย 6,756,401.96 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,139,709.80 บาท
ขณะที่ ร.ต.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารในสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้าน เลขที่ 265/154 หมู่บ้านสิวลีรามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ร.ต.ฐิติทัตน์ เคยมีตำแหน่งเป็นเลขานุการ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโลภาส ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และเพิ่งได้รับบรรจุเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2559 ที่ผ่านมา ปัจจุบันจะถูกขอตัวมาช่วยงานที่ สน.เสธ ทหาร
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า เจ้าของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ ตัวจริง คือ แม่ ของ ร.ต.ฐิติทัตน์ ส่วน น.ส.นุชรา มีสถานะเป็นเพียงนอมินีเท่านั้น เนื่องจากมีอาชีพขายลูกชิ้นอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง แต่มารับทำงานเสริมเป็นแม่บ้าน ช่วยเลี้ยงดูบุตรหลานให้กับเจ้าของบ้าน โดยที่มาของเงิน25 ล้านบาท น.ส.นุชรา ยอมรับว่าเป็นผู้รับเงินที่โอนมาจากทางวัดและมีการเบิกเงินออกมาจริง เนื่องจากคนในบ้านคนหนึ่งที่สนิทสนมกับตนเองได้มาขอให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งหลังจากที่มีเงินเข้ามาแล้วก็จะไปทำการถอนออกให้ (อ่านประกอบ : ประวัติ'ร.ต.'เจ้าของบ้าน หญิงผู้รับ25ล.!สนิทเจ้าอาวาสวัดสระเกศ-พิศิษฐ์แจงลูกน้องเก่า, ประวัติ'ร.ต.'เจ้าของบ้าน หญิงผู้รับ25ล.!สนิทเจ้าอาวาสวัดสระเกศ-พิศิษฐ์แจงลูกน้องเก่า)
คำถามที่น่าสนใจ คือ เงินจำนวน 25 ล้านบาท ที่พระชั้นผู้ใหญ่โอนเข้ามาให้ น.ส.นุชรา คือ เงินค่าอะไรกันแน่ ? เพราะก่อนหน้านี้ มีข้อมูลอีกชุดยืนยันว่า หจก. ดี ดี ทวีคูณ ปรากฎชื่อเข้าไปรับงานเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์วัดวัดสระเกศมาโดยตลอด
หรือเงินจำนวนนี้ จะเป็นค่าจ้างจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับวัด?
เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา ย้อนตรวจสอบเอกสารหลักฐานการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก. ดี ดี ทวีคูณ ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพิ่มเติม พบข้อมูลว่า ในช่วงจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 หจก. ดี ดี ทวีคูณ ใช้ชื่อว่า หจก. ดี ทวีคูณ มีหุ้นส่วน 2 ราย คือ น.ส.ฑัมพร นิพนธ์พิทยา (นามสกุลเดียวกับร.ต.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา คาดว่าจะเป็นแม่ ตามข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้านี้) และน.ส.สายนภา ชัยณรงค์ ถือหุ้นอยู่คนละ 5 แสนบาท (ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท) แจ้งที่อยู่หจก. เลขที่ 149/7 ซอยคู้บอน 27 แยก 52 ถนนรวมอินทรา 71 แขวงท่าแร้ง เขอตบางเขน กรุงเทพฯ
น.ส.ฑัมพร นิพนธ์พิทยา แจ้งข้อมูลในขณะนั้นว่าอายุประมาณ 41 ปี เป็นนักธุรกิจ แจ้งที่อยู่เลขที่ 34 หมู่ 2 ตำบลท่าตำหนัก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นผู้แจ้งจองชื่อจดทะเบียนหจก. ดี ทวีคูณ ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วยตนเอง
ต่อมา 26 มี.ค.2552 หจก. ดี ทวีคูณ แจ้งเปลี่ยนตัวหุ้นส่วนใหม่ น.ส.สายนภา ชัยณรงค์ ลาออก นายวิทยา โพธิ์เงินนาค เข้ามาถือหุ้นจำนวน 5 แสนบาทแทน
27 พ.ค.2553 แจ้งเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น หจก. ดี ดี ทวีคูณ
10 มิ.ย.2553 น.ส.ฑัมพร นิพนธ์พิทยา แจ้งข้อมูลการเปลี่ยนชื่อตนเองใหม่ เป็น น.ส.ฑัมม์พร ระบุที่อยู่ในเอกสารสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว ว่าพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 265/25 หมู่ 9 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
24 ส.ค.2553 น.ส.ฑัมม์พร แจ้งเพิ่มเงินลงหุ้นเป็น 4,500,000 บาท ส่วนนายวิทยา โพธิ์เงินนาค เงินลงหุ้นยังอยู่ที่ 5 แสนบาท เท่าเดิม พร้อมแจ้งเปลี่ยนที่ตั้ง หจก.ใหม่ เป็น 38/379 หมู่ที่ 7 หมู่บ้านเค.ซี. รามอินทรา 5 แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
15 ส.ค.2555 น.ส.ฑัมม์พร แจ้งเพิ่มเงินลงหุ้นเป็น 9,500,000 บาท ส่วนนายวิทยา โพธิ์เงินนาค เงินลงหุ้นยังอยู่ที่ 5 แสนบาท เท่าเดิม
11 ธ.ค.2556 หจก. ดี ดี ทวีคูณ แจ้งเปลี่ยนตัวหุ้นส่วนใหม่ นายวิทยา โพธิ์เงินนาค ลาออก นายฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา (ช่วงนั้นยังไม่ได้รับราชการทหาร) เข้ามาถือเงินลงหุ้น 5 แสนบาท แทน นายฐิติทัตน์ แจ้งที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่เดียวกับ น.ส.ฑัมม์พร คือ เลขที่ 34 หมู่ 2 ตำบลท่าตำหนัก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
19 ส.ค.2559 น.ส.ฑัมม์พร แจ้งลดเงินลงหุ้นเหลือ 3,000,000 บาท และแจ้งย้ายที่ตั้งหจก.ใหม่ เป็น เลขที่ 265/154 หมู่บ้านสิวลีรามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร (นายฐิติทัตน์ แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้)
14 ต.ค.2560 หจก. ดี ดี ทวีคูณ แจ้งเปลี่ยนตัวหุ้นส่วนใหม่ น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา และ นายฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา แจ้งลาออก นาย กนกศักดิ์ ภูทองอูบ เข้ามาถือเงินลงหุ้น 3,000,000 บาท แทน น.ส.ฑัมม์พร ส่วน น.ส. นุชรา สิทธินอก เข้ามาถือเงินลงหุ้น จำนวน 500,000 บาท แทน นายฐิติทัตน์
ขณะที่จากการตรวจสอบงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ ย้อนหลัง 5 ปี พบข้อมูลดังนี้
ปี 2555 แจ้งว่า มีรายได้รวม 17,795,548.63 บาท รวมรายจ่าย 16,694,694.13 บาท กำไรสุทธิ 759,041.67 บาท
ปี 2556 แจ้งว่า มีรายได้รวม 20,525,540.43 บาท รวมรายจ่าย 18,524,421.08 บาท กำไรสุทธิ 1,634,352.80 บาท
ปี 2557 แจ้งว่า มีรายได้รวม 21,126,139.28 บาท รวมรายจ่าย 19,633,061.62 บาท กำไรสุทธิ 1,187,728.35 บาท
ปี 2558 แจ้งว่า มีรายได้รวม 6,544,449.50 บาท รวมรายจ่าย 6,124,143.12 บาท กำไรสุทธิ 213,032.02 บาท
ปี 2559 แจ้งว่า มีรายได้รวม 5,616,692.16 บาท รวมรายจ่าย 6,756,401.96 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,139,709.80 บาท
น่าสังเกตว่า ในช่วงปี 2558-2559 ตัวเลขรายได้บริษัทไม่ถึงหลักสิบล้านบาท ปี 2559 เริ่มมีปัญหาขาดทุน สะท้อนให้เห็นทิศทางการดำเนินธุรกิจที่เริ่มมีปัญหา
จากนั้น ไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบว่า น่าจะสามารถสรุปได้ว่า เจ้าของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ ตัวจริง ก็คือ น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา แม่ของ นายฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา เป็นไปตามข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันมาก่อนหน้านี้
และเพิ่งจะมีการโอนหุ้นให้ บุคคลอื่นเข้ามาถือแทน ในช่วงเดือน ต.ค.2560 ที่ผ่านมา
โดยในส่วนของ น.ส.นุชรา ปรากฎข้อมูลยืนยันเป็นทางการไปแล้วว่า มีสถานะเป็นเพียงนอมินีเท่านั้น เนื่องจากมีอาชีพขายลูกชิ้นอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง แต่มารับทำงานเสริมเป็นแม่บ้าน ช่วยเลี้ยงดูบุตรหลานให้กับเจ้าของบ้าน
ขณะที่ นาย กนกศักดิ์ ภูทองอูบ ที่ปรากฎชื่อเข้ามาถือหุ้นใหญ่ จำนวน 3 ล้านบาท แทน น.ส.ฑัมม์พร ยังไม่ปรากฎข้อมูลยืนยันสถานะจริงๆ แต่แจ้งข้อมูลส่วนตัวไว้ว่า มีอายุประมาณ 26 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด
คำถาม คือ ถ้าหากเงินจำนวน 25 ล้านบาท เป็นเงินค่าจ้างการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ที่ได้รับมาจากทางวัดจริงๆ
ทำไม น.ส.ฑัมม์พร และ นายฐิติทัตน์ ในฐานะเจ้าของหจก.ตัวจริง ถึงไว้ใจยอมให้มีการโอนเงินจำนวนมากแบบนี้ เข้าไปในบัญชีของ น.ส. นุชรา ซึ่งมีสถานะเป็นเพียงแค่นอมินี ไม่ใช่ญาติพี่น้องนามสกุลเดียวกันแต่อย่างใด และเพิ่งเอาชื่อมาถือหุ้นหจก. แทนไม่กี่เดือนเท่านั้น
ซึ่งการนำชื่อบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว มาถือครองหุ้นหจก. แทน อาจทำให้ถูกมองว่า 1. เพื่อต้องการยกระดับให้บุคคลเหล่านี้ดูดีมีฐานะน่าเชื่อถือ เพียงพอที่จะมีการโอนเงินเข้าบัญชีได้ถึง 25 ล้านบาท? หรือ 2. มีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับหจก. ที่ค่อนข้างจะเสี่ยง จึงจำเป็นต้องหาวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผลกระทบมาถึงตัวเจ้าของตัวจริง?
ดังนั้น ณ ห้วงเวลานี้ ปริศนาแท้จริงที่ว่า เงินจำนวน 25 ล้านบาท มีที่มาที่ไปอย่างไร? เป็นเงินค่าจ้างผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ของวัด? เป็นเงินทอนวัด? หรือเป็นเงินค่าจ้างงานภารกิจลับอะไรบ้างอย่าง? รวมถึงคำถามข้อสงสัยอีกเป็นจำนวนมาก
กลุ่มบุคคลที่น่าจะตอบคำถามได้ชัดเจน คงมีเพียงแค่ 3 คน คือ น.ส.ฑัมม์พร, นายฐิติทัตน์ และพระชั้นผู้ใหญ่ (ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดชื่อออกมาเป็นทางการ) ที่โอนเงินก้อนนี้เข้ามาให้เท่านั้น
เป็นเงื่อนปมปริศนาสำคัญที่ต้องติดตามค้นหาความจริงกันต่อไป