ทันตแพทยสภา - สคบ.ร่วมคุ้มครองผู้บริโภค แถลงข่าวดำเนินคดี “ผู้ประกอบธุรกิจยาสีฟันที่โฆษณาขายสินค้า โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ” สรรพคุณเหลือเชื่อ รักษาฟันผุ สลายหินปูนได้ภายใน 1 เดือน
เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน กันถูกหลอก ด้านพิธีกรชื่อดัง 'กาละแมร์' ร่วมแจง หลังถูกแอบอ้างชื่อ
ที่สถาบันทันตกรรม กระทรวงสาธารณสุข – เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 ทันตแพทยสภา โดย ผศ.(พิเศษ) ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา, ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ เลขาธิการทันตแพทยสภา และ ทพ.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล อุปนายกทันตแพทยสภา พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดย พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ร่วมแถลงข่าวกรณีมีผู้ประกอบธุรกิจโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณยาสีฟันที่เข้าข่ายหลอกลวงและให้ข้อมูลเท็จ โดยมี น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือกาละแมร์ พิธีกรชื่อดังช่อง 3 ที่ถูกอ้างอิงในสื่อโฆษณายาสีฟัน มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้
ผศ.(พิเศษ) ทพ.ไพศาล กล่าวว่า ตามที่มีการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ เผยแพร่ข้อมูลสินค้าประเภทยาสีฟัน อวดอ้างสรรพคุณถึงผลลัพธ์จากการใช้ใน 1 สัปดาห์ ทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คราบเหลืองหายไป และหลังจากการใช้ 1 เดือน ฟันผุและหินปูนหายไป ทั้งฟันยังขาวขึ้นอีก 4-5 ระดับนั้น ทันตแพทยสภาในฐานะสภาวิชาชีพด้านทันตกรรมขอยืนยันว่า ข้อเท็จจริงในทางการแพทย์ ไม่เคยมียาสีฟันประเภทใดที่จะมีประสิทธิภาพสามารถซ่อมแซมฟันที่ผุและทำให้หินปูนสลายเองภายใน 1 เดือนได้ รวมไปถึงการทำให้ฟันขาวขึ้น 4-5 ระดับ โดยไม่ต้องรับการบูรณะหรือทำทันตกรรมจากทันตแพทย์แต่อย่างใด
การระบุข้อความโฆษณาดังกล่าวในทางวิชาการไม่สามารถเป็นไปได้อย่างแน่นอน จึงเข้าข่ายการโฆษณาหลอกลวงผู้บริโภค ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อและเกิดความเข้าใจผิดเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้ประชาชนสูญเสียการดูแลฟันที่ดี จนกระทั่งส่งผลต่อสุขภาพของช่องปากในระยะยาวได้
ดังนั้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและประชาชนไม่ให้ถูกหลอกลวงและเกิดความเสียหาย ที่ผ่านมาทันตแพทยสภาจึงได้ประสานไปยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจและผู้โฆษณาอวดอ้างข้อความยาสีฟันดังกล่าวแล้ว
“บทบาททันตแพทยสภา นอกจากการพัฒนาวิชาชีพทันตแพทย์ให้ก้าวหน้าแล้ว ยังมีหน้าที่สำคัญในการคุ้มครองประชาชนในกรณีที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพทันตกรรมเพื่อความปลอดภัย อย่างกรณีการลงข้อความโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณยาสีฟันอันเป็นเท็จนี้ ทั้งนี้ทันแพทยสภาขอฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังการรับข่าวสาร โดยเฉพาะการรีวิว การโฆษณาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ โดยต้องทำการตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน เพื่อไม่ให้ถูกหลอกลวงได้” นายกทันตแพทยสภา กล่าว
พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า จากกระแสสื่อสังคมออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้มีผู้ประกอบการจำนวนมากใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางขายสินค้า ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ส่วนหนึ่งใช้ดารา หรือเน็ตไอดอล รีวิวสินค้า โดยใช้ข้อความโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณอันเป็นเท็จ หรือเกินจริง เพื่อมุ่งหวังให้ผู้บริโภคหลงเชื่อและซื้อสินค้า สคบ.ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ คุ้มครองผู้บริโภค โดย พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก โดยกรณีการโฆษณายาสีฟันที่ใช้ข้อมูลเป็นเท็จนี้ สคบ.ได้ร่วมกับทันตแพทยสภา ดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับผู้ประกอบธุรกิจรวมทั้งผู้โฆษณาธุรกิจยาสีฟันรายนี้ พร้อมเสนอให้มีการระงับการโฆษณาข้อความดังกล่าวทางสื่อออนไลน์แล้ว
อย่างไรก็ตามด้วยความนิยมของผู้ประกอบการจำนวนมากในการขายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ขณะนี้ นอกจากการเฝ้าระวังโดย สคบ.แล้ว จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กร หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งภาคประชาชน เพื่อเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อย่างกรณีการตรวจจับโฆษณายาสีฟันที่ใช้ข้อมูลเท็จนี้ที่เกิดความร่วมมือจากทันตแพทยสภา นอกจากนี้ขอฝากเตือนไปยังประชาชนในการรับข้อมูลสินค้าควรใช้วิจารณญาณตรวจสอบให้รอบคอบก่อน เพื่อไม่ให้ถูกหลอกลวงและส่งผลเสียในภายหลัง
ด้านนางสาวพัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรที่ถูกแอบอ้างชื่อ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับโฆษณายาสีฟันดังกล่าว ทราบเรื่องแม่เอามาให้ดูว่าลูกไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ได้อ่านเนื้อหาแล้ว รู้สึกตกใจมาก เพราะมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงไปมาก เสียใจที่มีผู้ไม่หวังดีมาใช้ชื่อของตนเพื่อไปหลอกลวงประชาชน หากมีผู้หลงเชื่อ ก็จะเกิดผลกระทบในทางที่เสียหายต่อสุขภาพอย่างมาก หลังจากทราบเรื่องได้พยายามติดต่อไปเพื่อให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนหน้านี้เคยบอกผ่านสื่อให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ยุติ ในวันนี้จึงได้มาร่วมแถลงข่าวกับทันตแพทยสภาและ สคบ.เพื่อเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ และจากที่มีปัจจุบันมีสื่อออนไลน์จำนวนมากโฆษณาเรื่องสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง เช่น ดัดฟันแฟชั่น หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกินจริง ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณอย่าหลงเชื่อ และควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่า