ส.โลกร้อนออกแถลงค้านการเคหะแห่งชาติขายแก้มลิงพื้นที่ชุ่มน้ำแนวป้องกันน้ำท่วม
วันนี้ (5 พ.ค.) สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนนำโดย นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมฯ ได้ออกแถลงการณ์ คัดค้านกรณีที่การเคหะแห่งชาติขายแก้มลิงพื้นที่ชุ่มน้ำแนวป้องกันน้ำท่วมตามธรรมชาติบริเวณข้างโครงการเคหะชุมชนคลองจั่น ริมถนนเสรีไทย บริเวณสี่แยกนิด้า ในเนื้อที่ประมาณ 22-1-12.7 ให้กับเอกชนหรือผู้สนใจ โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ไม่อาจทนเห็นพฤติกรรมของหน่วยงานรัฐดังกล่าวได้ และขอคัดค้านการกระทำดังกล่าวมา ณ ที่นี้ เหตุเพราะการเคหะแห่งชาติ อันเป็นหน่วยงานของรัฐที่ต้องให้ความสำคัญต่อวิถีชีวิตของชุมชนและสภาพแวดล้อมเป็นที่ตั้ง แต่กลับมีพฤติการณ์แสวงหากำไรและผลประโยชน์บนความเดือดร้อนของประชาชน อันผิดต่อหลักการของการก่อตั้งการเคหะแห่งชาติขึ้นมา อีกทั้งผิดต่อนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและการฟื้นฟูคูคลองแหล่งน้ำตามธรรมชาติ, ผิดต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 ที่กำหนดให้พื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ชุ่มน้ำแหล่งน้ำจืดเป็นพื้นที่สีเขียวและมิให้ส่วนราชการเข้าไปใช้ประโยชน์เพื่อสงวนไว้เป็นแหล่งรองรับน้ำและกักเก็บน้ำต่อไป, ผิดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทยปี 2549 ว่าด้วยการควบคุมการใช้พื้นที่ทะเลสาบของกรุงเทพมหานคร และผิดต่อนโยบายการกำกับดูแลที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ของการเคหะแห่งชาติที่ลงทุนโฆษณาสร้างภาพมาอย่างต่อเนื่อง การกระทำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการเบียดบังพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาแล้วโดยกรุงเทพมหานคร เป็นการทำลายแหล่งรองรับน้ำตามธรรมชาติที่มีอยู่เดิม ยังผลอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการสูญเสียพื้นที่รองรับน้ำของชุมชนกว่า 300,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ต่อเนื่องเดียวกันกับพื้นที่รองรับน้ำโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริบึงลำพังพวย อันเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับการดักรับน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เขตบางกะปิ และเขตบึงกุ่มของกรุงเทพมหานครด้วย
การที่การเคหะแห่งชาติได้กำหนดให้ที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่จัดประโยชน์เพื่อหารายได้โดยการเช่าหรือขาย ตามแผนการบริหารสินทรัพย์ของการเคหะแห่งชาตินั้น ถือว่าเป็นแผนการใช้ที่ดินที่สังคมต้องประณาม เพราะเป็นการเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวขององค์กร โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และไม่มองเห็นถึงผลกระทบที่จะตามมามหาศาล อันจักสร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อชาวบ้านโดยรอบพื้นที่ดังกล่าวและชาวบ้านโดยทั่วไปโดยชัดแจ้ง
ทั้งนี้ จะไม่ยอมให้หน่วยงานรัฐดังกล่าว กระทำการโดยใช้อำนาจโดยอำเภอใจ ยังผลให้ต้องสูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำหรือพื้นที่แก้มลิงแหล่งรองรับน้ำในเมืองหลวง ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อประชาชน และคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อไปได้ และหากการเคหะแห่งชาติยังคงเดินหน้าที่จะเปิดประมูลการขายพื้นที่แก้มลิงดังกล่าวให้จงได้ในวันที่ 26 มิถุนายน 2555 นี้ สมาคมฯก็จะร่วมกับชาวบางกะปิ ชาวบึงกุ่ม และชาวกรุงเทพมหานครทั้งปวง ฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพิกถอนการกระทำดังกล่าวตามสิทธิต่อไป