มหาเธร์เริ่มมาตรการเช็กบิลนาจิบคดีคอร์รัปชั่น
ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เริ่มกระบวนการเอาผิดตามกฎหมายต่อรัฐบาลชุดที่แล้วของนายนาจิบ ราซัค ในคดีทุจริตกองทุนพัฒนาแห่งชาติ ด้วยการสั่งพักงานผู้ที่คอยช่วยเหลือนายนาจิบ และสั่งรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่จัดทำขึ้นโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ว่านายกรัฐมนตรี ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวเมื่อวันจันทร์ ที่เป็นวันทำงานอย่างเป็นทางการวันแรกของผู้นำมาเลเซีย วัย 92 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนานระหว่างปี 2523 ถึง 2546 ว่ารัฐบาลชุดก่อนหน้า "กระทำมิชอบไว้มากมาย" ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การนำของเขาจะรื้อฟื้นการสอบสวนคดีความและตรวจสอบข้อครหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยดร.มหาเธร์ขอให้ทุกฝ่ายอดทนรอ เนื่องจากทุกกรณีต้องเป็นไปตามกระบวนการ ที่ไม่อาจจัดการให้แล้วเสร็จได้ภายในวันเดียว
ขณะเดียวกัน ดร.มหาเธร์ กล่าวถึงนายโมฮัมเหม็ด อาปันดี-อาลี ว่าเขาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงยุติธรรมรายนี้ "ลาพักร้อนอย่างไม่มีกำหนด" หลังปลดออกจากตำแหน่งอัยการสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเขาได้รับการร้องเรียนมากมายจากหลายฝ่าย เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของนายโมฮัมเหม็ด ที่มีต่อการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในกองทุนพัฒนาแห่งชาติ "วันเอ็มดีบี" โดยในระหว่างนี้รองอัยการสูงสุดจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอัยการสูงสุดไปก่อน
ทั้งนี้ รายงานโดยสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) ของสหรัฐ ระบุว่ามีการยักยอกเงิน 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 144,000 ล้านบาท ) ออกจากวันเอ็มดีบี ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2552 โดยในจำนวนนี้ 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 21,792 ล้านบาท ) ถูกโอนเข้าสู่บัญชีเงินฝากส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เพียงไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2556 ที่นายนาจิบชนะแนวร่วมฝ่ายค้านภายใต้การนำของนายอันวาร์ อิบราฮิม
แต่นายโมฮัมเหม็ดกล่าวว่าเป็นเงินที่ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียพระราชทานให้แก่นายนาจิบ "เป็นการส่วนพระองค์" และสั่งปิดคดีทันทีนอกจากนี้ ดร.มหาเธร์ซึ่งนำพันธมิตรฝ่ายค้าน "ปากาตัน ฮาราปัน" พลิกชนะรัฐบาลผสม "แนวร่วมแห่งชาติ" ( บีเอ็น ) ที่มีพรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ ( อัมโน ) ของนายนาจิบเป็นหัวเรือใหญ่ ยังมีคำสั่งเด็ดขาดไปยังทุกกระทรวง ว่าห้ามทำลายเอกสารและข้อมูลทั้งหมดที่จัดทำขึ้นในยุครัฐบาลของนายนาจิบด้วย เพราะต้องการใช้เป็นหลักฐานในการรื้อฟื้นคดีวันเอ็มดีบี
หลังสั่งขึ้นบัญชีดำห้ามนายนาจิบและภริยา คือนางรอสมาห์ มานซอร์ เดินทางออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้นำมาเลเซียยอมรับว่า "แทบไม่ทราบ" สถานะของนายโจ โลว์ บุตรบุญธรรมของนายนาจิบ ว่าอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่านายโจ โลว์ คือผู้วางแผนถ่ายโอนเงินออกจากกองทุนวันเอ็มดีบี