ย้ายออกไปแล้ว2ด.! บุกพิสูจน์ บริษัทคน สทบ.? คว้างานก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐนนท์28ล.
"...ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลบริษัทเอกชน ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่แถวเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นห้องตึกแถว ในเมืองทองธานี แต่ประตูถูกปิดไว้ ไม่มีใครอยู่ เบื้องต้นจากการสอบถามข้อมูลผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง ได้รับการยืนยันว่า บริษัทแห่งนี้ ย้ายออกไปประมาณ 2-3 เดือนแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไหน..."
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับแจ้งข้อมูลจากทีมงานเพจต้องแฉว่า มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามแจ้งข้อมูลเบาะแส บริษัทเอกชนที่เข้ามารับงานก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เข้ามาให้รับทราบเพิ่มเติมว่า อาจจะเป็นบริษัทของข้าราชการระดับผู้อำนวยการสังกัดสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) โดยมีหลักฐานยืนยันเป็นหนังสือของบริษัทฯ ที่แจ้งถึงคณะกรรมการโครงการตลาด ขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย 1% จำนวนเงิน 75,750 บาท เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยหนังสืออ้างอิงสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างปรับปรุงตลาดของดีวิถีนนท์ด้วย และลงนามโดย นาย ส. (ขอปกปิดชื่อและนามสกุล) ระบุตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีชื่อและนามสกุลเดียวกับข้าราชการระดับผู้อำนวยการรายหนึ่ง ในสังกัด สทบ.
ขณะที่เม็ดเงินลงทุนจำนวน 28 ล้านบาทดังกล่าว มีที่มาจากเงินที่รัฐบาลจัดสรรให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เพื่อให้นำไปจัดสรรต่อให้กับกองทุนหมู่บ้านแต่ละกองทุน ก่อนที่กองทุนจะนำเงินมาลงทุนร่วมกัน (อ่านประกอบ : จริงหรือ? ที่แท้บริษัทคน สทบ. ได้งานก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐนนท์ 28 ล.)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลบริษัทเอกชน ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่แถวเมืองทองธานี จ.นนทบุรี แจ้งที่อยู่เลขที่ 5/8 อาคารซี 3 หมู่บ้านเมืองทองธานี ถนนป็อปปูล่า 5 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นห้องตึกแถว ในเมืองทองธานี ระบุเลขที่อยู่ 5/8 ไว้ชัดเจน แต่ประตูถูกปิดไว้สนิท ไม่มีใครอยู่
เบื้องต้นจากการสอบถามข้อมูลผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้รับแจ้งว่า บริษัทแห่งนี้ ย้ายออกไปประมาณ 2-3 เดือนแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไหน (ดูรูปประกอบ)
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้พยายามติดต่อ นายเอกศิษฐ์ ศรวิเศษ ประธานโครงการตลาดประชารัฐอำเภอปากเกร็ดของดีวิถีนนท์ เพื่อขอให้ยืนยันข้อมูลว่า บริษัทที่เข้ามารับงานก่อสร้างปรับปรุงตลาด เป็นบริษัทของข้าราชการระดับผู้อำนวยการสังกัด สทบ. หรือไม่ ตามหมายเลข 087-109-6534 ที่เปิดรับจองแผงร้านค้าตลาดประชารัฐ อำเภอปากเกร็ด ที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์
เบื้องต้น มีผู้หญิงคนหนึ่งรับสาย แจ้งว่า นายเอกศิษฐ์ ศรวิเศษ ไม่อยู่ไปต่างจังหวัด แต่จะแจ้งเรื่องให้ติดต่อกลับมาภายหลัง
เมื่อสำนักข่าวอิศรา สอบถามว่า จริงหรือไม่ ที่บริษัทที่เข้ามารับงานก่อสร้างปรับปรุงตลาด เป็นบริษัทของข้าราชการระดับผู้อำนวยการสังกัด สทบ.เอง ผู้หญิงรายนี้ หยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบว่า เรื่องนี้ ขอไม่ให้ความเห็นอะไรแล้วกัน
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลโครงการตลาดประชารัฐอำเภอปากเกร็ด ของดีวิถีนนท์ พบความเป็นมา เริ่มต้นจากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการโครงการเพิ่มความเข็มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ และอนุมัติหลักการงบประมาณในการดำเนินโครงการในกรอบวงเงิน 35,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2559 สนับสนุนเงินทุนให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ผ่านทางสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กองทุนหมู่บ้าน/ชุมชนละไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในหมู่บ้าน/ชุมชน และเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่หมู่บ้าน/ชุมชน เห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้ดีขึ้น
ขณะที่ โครงการตลาดประชารัฐอำเภอปากเกร็ด ของดีวิถีนนท์ เกิดจากการรวมกลุ่มของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง อำเภอปากเกร็ด จำนวน 58 กองทุน งบประมาณจำนวน 28,700,000 บาท มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการเป็นศูนย์กลางในการจัดจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์ของกองทุนหมู่บ้าน/ชุมชน ผลิตภัณฑ์สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สินค้าชุมชน สินค้า SME สินค้าอุตสาหกรรม เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพ ให้กับสมาชิกกองทุน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และให้สมาชิกกองทุนในอำเภอปากเกร็ด มีสถานที่จำหน่ายสินค้า มีรายได้หมุนเวียนในชุมชนได้
กิจกรรมที่ดำเนินการ มีดังนี้
1. จัดสร้างโรงเรือนและแผงผู้ค้าเช่าจำหน่ายสินค้า และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ จำนวน 1 ร้าน
2. รถราง เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จำนวน 4 คัน
3. บริหารโรงจอดรถของโครงการ
4. บริการห้องน้ำของโครงการ
โดยการบริหารงาน มีคณะกรรมการบริหารโครงการจำนวน 18 คน เริ่มเปิดดำเนินการในช่วงต้นเดือนเม.ย. 2560 โดยเปิดให้ผู้ประกอบการเช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าและอนุมัติให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าได้โดยไม่คิดค่าเช่าตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.2560 -9 พ.ค.2560 หลังจากนั้น จะคิดค่าเช่าจำนวน 50 บาท/วัน /ร้านค้า ปัจจุบัน โครงการมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่แก่ผู้ประกอบการ และค่าบริการห้องน้ำ แต่ที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรค คือ ร้านค้าไม่ค่อยมาจำหน่ายสินค้าเนื่องจากประชาชนมาใช้บริการน้อย ทำให้ผู้ค้าถอนตัวออกไปจำนวนมาก เบื้องต้นคณะทำงานดำเนินงานโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจรากหญ้าตามแนวทางประชารัฐ จังหวัดนนทบุรี อยู่ระหว่างการติดตามหาทางแก้ไขปัญหาอยู่
ขณะที่ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ขณะนี้ สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 3 อยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่สตง. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการดำเนินงานโครงการตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ปรากฎข้อมูลในโลกออนไลน์ว่า ใช้เงินในการก่อสร้างปรับปรุงตลาดสูงถึง 28 ล้านบาท แต่การดำเนินงานส่อว่าจะไม่คุ้มค่า ตลาดเปิดมานานแต่มีลูกค้าเข้าไปจับจ่ายซื้อขายสินค้าน้อย โดยล่าสุดได้มีการเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงานโครงการตลาดมาให้ปากคำไปบางส่วนแล้ว
ล่าสุดในช่วงต้นเดือนพ.ค.2561 ที่ผ่านมา ทีมงานเพจต้องแฉ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลตลาดอีกครั้งพบว่า มีร้านค้ามาขายมากขึ้น จากเดิมที่แทบไม่มีเลย อย่างไรก็ดี แม่ค้าในตลาดหลายราย ให้ข้อมูลว่า "ตลาดกลับมาเปิด แต่ก็ไม่มีคนอยากมาขาย เพราะกลัวเจ๊ง คนไม่ค่อยไปเดิน ไม่รู้ทำไม" (อ่านประกอบ : ตลาดประชารัฐนนท์งานเข้า! สตง.ลุยสอบใช้เงินหลวง28 ล.ไม่คุ้มค่า-เรียกผู้เกี่ยวข้องให้ปากคำ)