มอบอำนาจ 'กลต.' คุมคริปโทเคอร์เรนซี่ วางเกณฑ์เข้มเสนอขายปชช.
ประกาศพ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มอบอำนาจ 'กลต.' คุมคริปโทเคอร์เรนซี่ วางเกณฑ์เข้มเสนอขายประชาชน
พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2561 และเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 พ.ค.2561
เหตุผลในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้ คือ ปัจจุบันได้มีการนำ 'คริปโทเคอร์เรนซี่' และ 'โทเคนดิจิทัล' มาใช้เป็นเครื่องมือในการระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน และเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน รวมถึงนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนในศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี่ และโทเคนดิจิทัล แต่ยังไม่มีกฎหมายที่กำกับ หรือควบคุมการดำเนินการดังกล่าวในประเทศไทย ทำให้มีการประกอบธุรกิจ หรือการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงิน ระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
ดังนั้นเพื่อกำหนดให้มีการกำกับและควบคุมการประกอบธุรกิจและการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และเพื่อรองรับการนำเทคโนโลยีมาทำให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน อันจะเป็นการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพมีเครื่องมือในการระดมทุนที่หลากหลาย
รวมทั้งประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลที่ชัดเจนเพียงพอในการตัดสินใจ เกิดความโปร่งใสในการดำเนินการ และป้องกันไม่ให้มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจนไปใช้ประโยชน์ หรือกระทำการใดในลักษณะที่เป็นการหลอกลวงประชาชน หรือที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชญากรรม และโดยที่เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อประโยชน์อันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้
มอบอำนาจเต็มให้บอร์ดกลต.กำกับ
กฎหมายฉบับนี้มีทั้งหมด 9 หมวด รวม 100 มาตรา โดยได้มอบอำนาจให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) มีหน้าที่ในการกำกับดูการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่การวางนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนา ตลอดจนกำกับและควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการก.ล.ต.ให้รวมถึง 1. ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับการออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัล และการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
2.กำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับคำขออนุญาต การอนุญาต คำขอความเห็นชอบ การให้ความเห็นชอบ การยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัล การยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี การยื่นคำขอต่างๆ หรือการประกอบกิจการตามที่ได้รับอนุญาตหรือได้รับความเห็นชอบ 3.กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้พ.ร.ก.นี้ และ4.ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพ.ร.ก.นี้
หากมีการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอันอาจก่อให้เกิดผลกระทบ หรือความเสียหายอย่างรุนแรงต่อประโยชน์ของประชาชนในวงกว้าง ให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.รายงานข้อเท็จจริง และประเมินผลกระทบหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งวิเคราะห์ปัญหาและเสนอแนวทางการดำเนินการต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังกำหนดให้สำนักงานก.ล.ต.มีหน้าที่เปิดผยข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดและการลงโทษบุคคลซึ่งกระทำความผิดตามพ.ร.ก. รวมถึงเปิดเผยข้อมูลอื่นใดที่ได้รับมาเนื่องจากการปฏิบัติตามพ.ร.ก.นี้
คุมเข้มผู้ทำธุรกิจ-การเสนอขายประชาชน
สำหรับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชนนั้น ผู้ออกโทเคนดิจิทัลจะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานก.ล.ต. และให้กระทำได้เฉพาะนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด และบริษัทมหาชน ต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานก.ล.ต. พร้อมทั้งให้อำนาจก.ล.ต.ในการระงับ หรือเพิกถอนการอนุญาตการเสนอขายได้ด้วย
นอกจากนี้ผู้เสนอขายให้เสนอขายได้เฉพาะต่อผู้ลงทุนตามที่ก.ล.ต.กำหนด และต้องเสนอขายผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการก.ล.ต.เท่านั้น ขณะเดียวกันยังกำหนดให้ผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลจัดทำและส่งข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน และฐานะการเงิน รวมถึงข้อมูลใดๆที่อาจจะมีผลต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือโทเคนดิจิทัล หรือต่อการตัดสินใจลงทุน หรือต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาหรือมูลค่าของโทเคนดิจิทัล
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น จะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการก.ล.ต.พร้อมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตั้ง หรือยอมให้บุคคลซึ่งมีลักษณะต้องห้าม ตามที่คณะกรรมการก.ล.ต.ประกาศกำหนด เป็นหรือทำหน้าที่กรรมการหรือผู้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ประกอบธุรกิจไปก่อนที่กฎหมายฉบับนื้จะบังคับใช้ และเป็นธุรกิจที่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายฉบับนี้ หากจะทำธุรกิจต่อไป จะต้องยื่นขออนุญาตภายใน 90วันนับจากวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
ทำผิดกม.วางโทษหนักทั้งจำและปรับ
ในส่วนของการดูแลเพื่อไม่ให้มีการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมนั้น ในกฎหมายได้ห้ามมิให้บุคคลใดบอกกล่าว เผยแพร่ หรือให้คํารับรองข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสําคัญผิดในสาระสําคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน ผลการดําเนินงาน ข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัล ลักษณะหรือสาระสําคัญของโทเคนดิจิทัล หรือราคาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยประการที่น่าจะทําให้มีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ดิจิทัลหรือต่อการตัดสินใจ ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
นอกจากนี้ห้ามมิให้บุคคลใดวิเคราะห์หรือคาดการณ์ฐานะทางการเงิน ผลการดําเนินงาน ข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัล ลักษณะหรือสาระสําคัญของโทเคนดิจิทัล หรือราคาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยนําข้อมูลที่รู้ว่าเป็นเท็จหรือไม่ครบถ้วนอันอาจก่อให้เกิดความสําคัญผิดในสาระสําคัญ มาใช้ในการวิเคราะห์หรือคาดการณ์หรือละเลยที่จะพิจารณาความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว หรือโดยบิดเบือนข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์หรือคาดการณ์ และได้เปิดเผยหรือให้ความเห็น
พร้อมกันนี้ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับเสนอกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายไว้หลายกรณี เช่นการเสนอขายโทเคนดิจิทัลโดยฝ่าฝืนหรือไม่ได้รับอนุญาต หรือเสนอขายโดยไม่กระทําผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกินสองเท่าของราคาขายของโทเคนดิจิทัลทั้งหมดซึ่งผู้นั้นได้เสนอขาย แต่ทั้งนี้ เงินค่าปรับต้องไม่น้อยกว่า 5แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ขณะที่ผู้ใดแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง ในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน5ปี และปรับเป็นเงินไม่เกินสองเท่าของราคาขายของโทเคนดิจิทัลทั้งหมดซึ่งผู้นั้นได้เสนอขาย แต่ทั้งนี้ เงินค่าปรับต้องไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท
นอกจากนี้ราชกิจจาฯยังเผยแพร่พระราชกำหนดเพื่อจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเงินได้พึงประเมินที่ได้จากการถือหรือครอบครองโทเคนดิจิทัล หรือการโอน คริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล ในอัตรา 15% โดยมาจากเงินส่วนแบ่งของกําไร หรือผลประโยชน์อื่นใดในลักษณะเดียวกันที่ได้จากการถือหรือครอบครองโทเคนดิจิทัล และผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล