เครือข่ายขอคืนพื้นที่ดอยสุเทพพอใจ จนท.เข้ารังวัด “บ้านป่าแหว่ง” เตรียมส่งคืนฟื้นฟู
ธนารักษ์เชียงใหม่นำ จนท.เข้าพื้นที่ “บ้านป่าแหว่ง” เตรียมทำแผนที่และรับมอบคืนพื้นที่เพื่อฟื้นฟูต่อไป ขณะที่ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนเผยรู้สึกแย่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ร่วมรังวัดด้วย มั่นใจท้ายที่สุดบ้านพักต้องถูกรื้อออกไป ย้ำจุดยืนขอคืนพื้นที่ป่าเท่านั้น ไม่สนใจการหาผู้รับผิดชอบที่ก่อความผิดพลาดผลักดันโครงการนี้ หวั่นยิ่งสร้างความขัดแย้ง
ช่วงเช้าวันนี้ (10 พ.ค. 61) ที่โครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องนำโดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ ร่วมกันเข้าดำเนินการรังวัดพื้นที่ตามแนวเขตป่าดังเดิมที่ครอบคลุมบ้านพัก 45 หลัง และอาคารที่พัก 9 หลัง ขึ้นไปทางดอยสุเทพ เพื่อเตรียมฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมและเตรียมส่งมอบให้อุทยานหรือป่าไม้ดำเนินการฟื้นฟูสภาพร่วมกับภาคประชาชนต่อไป ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงและคำมั่นสัญญาร่วมกันที่เป็นผลสรุปจากการเจรจาหารือกันระหว่างเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 61 เพื่อแก้ไขปัญหากรณีโครงการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเข้าดำเนินการรังวัดในครั้งนี้อนุญาตให้เข้าพื้นที่เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรังวัดเท่านั้น โดยตัวแทนภาคประชาชนไม่ได้เข้าพื้นที่ด้วย แต่ร่วมสังเกตการณ์อยู่บนเนินดินในพื้นที่ที่อยู่ติดกันและมีการปักธงสีเขียว รวมทั้งผูกริบบิ้นเขียวกับต้นไม้เพื่อแสดงสัญลักษณ์การรณรงค์ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพด้วย
นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำโดยธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ เข้าทำการรังวัดพื้นที่ตามแนวเขตป่าดังเดิมในโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งจะครอบคลุมบ้านพัก 45 หลัง และอาคารที่พัก 9 หลัง เนื้อที่ประมาณ 75 ไร่ จากพื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 147 ไร่ เพื่อเตรียมจัดการกับส่งปลูกสร้างและฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม ทั้งนี้ ตัวแทนเครือข่ายและภาคประชาชนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมรังวัดในพื้นที่ด้วย ยอมรับว่าทำให้เสียความรู้สึกพอสมควร เพราะตามหลักการแล้วการรังวัดจะต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อทุกฝ่ายเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเพราะเครือข่ายได้มีการศึกษาและรวบรวมข้อมูลพื้นที่ได้อย่างครบถ้วนอยู่แล้ว ภาพรวมถือว่าการดำเนินการรังวัดในครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีและไม่มีปัญหาใดๆ คาดว่าหลังจากการรังวัดแล้วทางธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่น่าจะจัดทำแผนที่เสร็จภายในเย็นวันนี้
สำหรับการดำเนินการหลังการรังวัดแล้วนั้น นายธีระศักดิ์กล่าวว่า น่าจะเป็นขั้นการเตรียมการเพื่อส่งพื้นที่คืนให้ธนารักษ์ อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นภายหลังจากที่ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ตรวจรับงานงวดสุดท้ายของโครงการก่อสร้างบ้านพักดังกล่าวแล้วในช่วงกลางเดือน มิ.ย. 61 และจากนั้นน่าจะมีการเตรียมพร้อมส่งมอบพื้นที่ให้อุทยานหรือป่าไม้ต่อไป โดยที่ทางเครือข่ายเชื่อมั่นว่าในที่สุดแล้วบ้านพัก 45 หลัง และอาคารที่พัก 9 หลัง จะต้องถูกรื้อถอนออกไปอย่างแน่นอน เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาและมีการพิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทางเครือข่ายจะเฝ้าติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
นอกจากนี้ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า ในส่วนของการตั้งคณะกรรมการคณะกรรมการเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และคณะกรรมการดำเนินการกับสิ่งก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ เพื่อร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวนี้ คาดว่าน่าจะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันนี้ และจะเริ่มทำงานทันที โดยในส่วนของการฟื้นฟูพื้นที่ในระยะเร่งด่วนนั้น ในวันที่ 27 พ.ค. 61 ทางมณฑลทหารบกที่ 33 และจังหวัดเชียงใหม่ จะนำประชาชนร่วมทำกิจกรรมปลูกป่าในพื้นที่โครงการ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูพื้นที่ในระยะเร่งด่วนก่อนที่ย่างเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เพื่อให้อย่างน้อยมีพืชคลุมดินป้องกันการถูกชะล้าง
โดยกำลังเตรียมการมาทำทางเข้าบริเวณด้านข้างผ่านหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องผ่านพื้นที่ของศาล ส่วนการจัดหาพื้นที่และงบประมาณก่อสร้างบ้านพักใหม่ให้กับศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้น นายธีระศักดิ์กล่าวว่า เป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลที่จะไปดำเนินการต่อไป เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดหาพื้นที่ เพราะในจังหวัดเชียงใหม่ยังมีพื้นที่ราชพัสดุเป็นจำนวนมากให้เลือก ขอแต่เพียงอย่างเดียวว่าให้เลือกให้เหมาะสมเท่านั้น ขณะที่ในส่วนของการหาผู้รับผิดชอบจากการดำเนินโครงการนี้นั้น
ในส่วนของเครือข่ายไม่ก้าวล่วงในส่วนนี้แล้ว เพราะมีจุดยืนและเป้าหมายเพียงต้องการขอคืนพื้นที่ป่าคืนเท่านั้น ซึ่งไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีก และเชื่อว่าหากมีการสืบค้นข้อมูลไปแล้วจะพบผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากและทุกฝ่ายซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลหากต้องการดำเนินการในเรื่องนั้น