ดีเดย์10พ.ค.!จนท.ลุยจับ 135 รีสอร์ทบุกรุกพื้นที่ป่า
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์อำนวยการประสานงานและแก้ไขปัญหาโครงการลุ่มน้ำเข็ก ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ คณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการครอบครองการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่า ที่กองทัพภาค 3 ขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ ในพื้นที่ อ.เขาค้อ นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) นายชิต อินทรนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ ร.ต.เอกชัย ดอนกาวิน ผู้แทน ศอป.โครงการลุ่มน้ำเข็ก และ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ได้ร่วมประชุมวางแผนเพื่อเตรียมการจับกุม 135 รีสอร์ท ที่บุกรุกพื้นที่ป่าฯ และ อยู่นอกที่ดินราษฎรอาสาสมัคร( รอส.) ที่ อ.เขาค้อ
ที่ประชุมได้มีมติเตรียมพร้อมดีเดย์ในวันที่ 10 พ.ค. 2561 พร้อมแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ตำรวจ ออกเป็น 5 ชุดปฏิบัติการ เพื่อเข้าจับกุมรีสอร์ทเป้าหมายในพื้นที่ 4 ตำบล คือ ต.เขาค้อ ต.สะเดาะพง ต.หนองแม่นา และ ต.ริมสีม่วง ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้และทหาร เป็นผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับรีสอร์ทดังกล่าวและได้กำหนดแผนและขั้นตอนการปฏิบัติการทุกสัปดาห์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 วัน โดยการจับกุมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 10-15 คดี
นายชิต อินทรนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ณ (ศอป.ลุ่มน้ำเข็ก) สี่แยกรื่นฤดี อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมจัดแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็นชุดปฏิบัติการรวม 5 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วย ทหาร, ป่าไม้, ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ออกปฏิบัติการอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน และ จับกุมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 10 คดี และ มอบหมายให้ทหารและป่าไม้เป็นผู้กล่าวโทษร่วมกัน โดยกลุ่มเป้าหมายที่ดำเนินการเป็นอันดับแรก คือ รีสอร์ทที่อยู่นอกแปลง รอส.จำนวน 135 รีสอร์ตในพื้นที่ 4 ตำบล คือ ต.เขาค้อ จำนวน 40 ราย ต.สะเดาะพง จำนวน 47 ราย ต.หนองแม่นา จำนวน 21 ราย และ ต.ริมสีม่วง จำนวน 27 ราย ต.เขาค้อ, ต.สะเดาะพง, ต.หนองแม่นา และ ต.ริมสีม่วง จะมุ่งเน้นเป้าหมายรีสอร์ตขนาดใหญ่ หรือรี สอร์ทที่มีอิทธิพล ส่วนรีสอร์ทที่มีปัญหายุ่งยากในการดำเนินคดีมอบให้ชุด “พยัคฆ์ไพร” ดำเนินการ
ส่วนการบังคับใช้กฎหมายในครั้งนี้ จะเน้นเฉพาะในรายที่อยู่นอกแปลง รอส.และบุกรุกป่าชัดเจน จำนวน 135 รายก่อน ส่วนในรายที่ถูกดำเนินดคีแล้ว หรือ รายที่คดีที่ถึงที่สุดแล้วให้เว้นไว้ก่อน เพื่อรอการหารือกับทางผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎหมายให้ชัดเจน